ตำรวจทางหลวงสกัดจับรถขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา ๒ คัน ฟอร์จูนเนอร์แหกวงล้อมซิ่งหนีตกถนน คนขับเป็นคนไทย นำชาวเมียนมา ๑๕ คนหนีภัยสงครามไปทำงานที่มาเลเซีย หนึ่งในนั้นเป็นถึงวิศวกรเวลา ๐๖.๓๐ น. วันที่ ๒๐ เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ๕ กองกำกับการ ๗ กองบังคับการตำรวจทางหลวง นำโดย พ.ต.อ.ชนกฤดิ พงษ์ศิริ ผกก.๗ บก.ทล., พ.ต.ท.ธรรมศักดิ์ พลเดช และ พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.๗ บก.ทล. ร่วมสั่งการให้เจ้าพนักงานตำรวจ กก.๗บก.ทล.นำโดย พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.๕ กก.๗ บก.ทล. ร.ต.อ.พงศ์อนันต์ สุวรรณโณ, ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว.ส.ทล.๕ กก.๗ บก.ทล., นำกำลังตำรวจทางหลวงทั้งในและนอกเครื่องแบบออกลาดตระเวนตามเส้นทางถนน ทล.๔๓ พื้นที่ ต.บาราเฮาะ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี หลังจากที่ได้รับรายงานว่าจะมีการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองลงพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้พบรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีเทา ทะเบียน กท๗๓ ปัตตานี และรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีขาว ทะเบียน กต ๖๙๐๕ เบตง ขับผ่านมาตามเส้นทางนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขับรถติดตามและสกัดจับรถทั้ง ๒ คัน โดยรถกระบะที่นายมะโจ สะบูโด อายุ ๓๕ ปี ชาว จ.นราธิวาส เป็นคนขับและแรงงานต่าวด้าวชาวเมียนมาที่นั่งอัดแน่นมาในรถ ๘ คน ส่วนรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ได้ขับแหกวงล้อมหลบหนีการจับกุม ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับรถติดตามไล่ล่า โดยรถฟอร์จูนเนอร์คันนี้พยายามขับหนีด้วยความเร็วสูง และรถเสียหลักตกลงไปในคูกลางถนน จับกุม นายกูมะซัมรี สะบูโด อายุ ๓๓ ปี ชาวจ.นราธิวาส คนขับ และแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่อยู่ในรถ ๗ คน จากการสอบถามคนขับรถทั้งสองคัน บอกว่าไปรับชาวเมียนมามาจากป่าละเมาะใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมฉลุง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา มีนายกูหาฟิช สะบูโด อายุ ๒๙ ปี ชาวจ.นราธิวาสเป็นคนว่าจ้าง โดย นายมะโจ ได้ค่าขนต่อเที่ยว ๗,๐๐๐ บาท นายกูะซัมรี ได้ ๕,๐๐๐ บาท ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาบอกว่าต้องการหนีสงครามกลางเมืองภายในประเทศเมียนมา เดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย จึงตกลงค่าใช้จ่ายกับนายหน้าสัญชาติเดียวกัน ในราคาประมาณ ๕ ล้านจ๊าด หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ ๘๗,๗๐๐ บาท จ่ายเมื่อถึงปลายทาง หลังจากนั้นนายหน้าได้ลักลอบนำพาเดินเท้าผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติบริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก และเดินทางซุกซ่อนมาในรถยนต์คันละ ๗-๘ คน โดยจะแวะพักตามจุดต่างๆ เพื่อตรวจสอบการเฝ้าระวังสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายบุคคลต่างด้าวของเจ้าหน้าที่เป็นระยะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๑๐ วัน จึงมาถึงพื้นที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา และเตรียมเดินทางต่อเพื่อข้ามไปยังประเทศมาเลเซียแต่ถูกตำรวจทางหลวงจับกุมได้ก่อน โดยพบว่าหนึ่งในชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมได้เป็นถึงวิศวกร เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาสองคนไทยที่เป็นคนขับรถ “ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ส่วนแรงงานต่างด้าวถูกแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
