Thursday, 19 December 2024

จับปืน "สมาชิกสภาจังหวัดหม่อง" คนดังแม่กลอง ถูกแจ้ง-ซ้อม นิยมศาลเตี้ย ปราบยานรก

ผู้ว่าฯสมุทรสงคราม สนธิกำลังฝ่ายปกครอง-ตำรวจกว่า ๑๐๐ นาย บุกค้นบ้าน “สมาชิกสภาจังหวัดหม่อง” คนดังเมืองแม่กลอง พร้อมค้นบ้านผู้ใหญ่บ้านคนสนิท และสารวัตรกำนันลูกน้อง ยึดปืน ๕ กระบอก ๑ ในนั้นเป็นอาวุธที่ใช้ตบหน้าเหยื่อจนบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้าร้องกองปราบฯให้ช่วยคุ้มครองเพราะเกรงกลัวอิทธิพล สั่งดำเนินคดีหลายข้อหาหนัก เจ้าตัวขึ้นโรงพักประจันหน้าผู้ว่าฯ-ผู้การฯ ลั่น “จะเลือกเอายาบ้า หรือเลือกตนไว้ทำงานปราบยานรก” ยอมรับใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาเพราะเจ้าหน้าที่ทำงานช้าบานปลายใหญ่โต กรณีนายเชิดศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์ต่อกองปราบปราม เพื่อขอเข้าคุ้มครองพยานที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. เมื่อเช้าวันที่ ๑๙ เม.ย. อ้างว่าถูก สมาชิกสภาจังหวัดหม่อง สมาชิกสภาจังหวัดสมุทรสงคราม (ส.อบจ.) ให้ลูกน้องตามตัวมาพบที่บ้าน ก่อนสั่งให้ลูกน้องช่วยกันรุมทำร้ายใช้ปืนตบหน้าจนกระดูกหน้าผากแตก ข้อมือหัก สมองกระทบกระเทือน เข้าแจ้งความ สภ.ลาดใหญ่ แต่คดีไม่คืบหน้า หวาดกลัวอิทธิพลจะถูกรุมทำร้ายซ้ำอีกความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ ๒๐ เม.ย. นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผวจ.สมุทรสงคราม ร่วมกับ พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จ.สมุทรสงคราม สนธิกำลังฝ่ายปกครอง อ.เมืองสมุทรสงคราม ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษภาค ๗ (อินทรี ๗) กก.สส.ภ.จ.สมุทรสงคราม, ชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม และตำรวจ สภ.ลาดใหญ่ กว่า ๑๐๐ นาย ปฏิบัติการตรวจค้นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ตำบลลาดใหญ่ รวม ๓ จุด บ้านนายธีรพงษ์ ศรีกำเนิด อายุ ๕๐ ปี สมาชิกสภาจังหวัดเขต ๑๑ อ.เมืองสมุทรสงคราม ในพื้นที่หมู่ ๕ ต.ลาดใหญ่, บ้านนายดำรงค์ ศรีกำเนิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๖ ต.ลาดใหญ่ และบ้านนายสมพร โมด่านจาก สารวัตรกำนันตำบลนางตะเคียน ในพื้นที่หมู่ ๓ ต.ลาดใหญ่ ใช้เวลาเข้าค้นประมาณ ๓ ชั่วโมงต่อมาช่วงบ่ายที่ สภ.ลาดใหญ่ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา ผวจ.สมุทรสงคราม และ พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จ.สมุทรสงคราม แถลงผลการตรวจค้นผู้มีอิทธิพลดังกล่าว พบของกลางปืน ๕ กระบอก ยึดได้จากบ้านนายธีรพงษ์ ๒ กระบอก เป็นปืน ๑๑ มม. ยี่ห้อโคลท์ มีทะเบียน ของนายนิคม เสือเล็ก (ปืนผิดมือ) พร้อมกระสุน ๘ นัด, ปืนยาวลูกกรด .๒๒ ยี่ห้ออาร์มสกอร์ มีทะเบียนของนายธีระ ศรีกำเนิด พร้อมกระสุน ๓๐ นัด, ส่วนที่บ้านนายดำรงค์ ยึดปืน ๓ กระบอก เป็นปืนลูกโม่ .๓๘ ยี่ห้อโคลท์ มีทะเบียน ปืน ๙ มม. ยี่ห้อกล็อก และปืนยาวอัดลมไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนนายศิริศักดิ์กล่าวว่า เรื่องการข่มขู่ผู้เสียหาย สั่งการให้ นอภ.เมืองสมุทรสงคราม เข้าไปดูแลเยียวยาผู้เสียหาย ส่วนกรณีมีฝ่ายปกครองเข้ามาเกี่ยวข้อง สอบถามพบว่ามีทั้งผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนัน อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ หากพบเป็นผู้มีอิทธิพลจะดำเนินการด้านวินัย ส่วนกรณี สจ. ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน หากมีมูลความผิดจะเสนอประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ดำเนินการทางวินัย เพราะเป็นอำนาจสภา อบจ. หากคำพิพากษาตัดสินลงโทษถึงที่สุดว่าผิดจริง จะขาดคุณสมบัติเป็น สมาชิกสภาจังหวัดทันทีด้าน พล.ต.ต.สมภพกล่าวว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุทั้ง ๓ คน รับสารภาพร่วมกันทำร้ายและข่มขู่ผู้เสียหายจริง ใช้ปืน ๑๑ มม. ยี่ห้อโคลท์ ในการก่อเหตุ แจ้งข้อหาร่วมกันข่มขู่และร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก และยังแจ้งข้อหามีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตกับนายธีรพงษ์ ศรีกำเนิด สจ. เขต ๑๑ อ.เมืองสมุทรสงคราม และนายดำรงค์ ศรีกำเนิด ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๖ ต.ลาดใหญ่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายศิริศักดิ์และ พล.ต.ต.สมภพจะเดินทางกลับ จู่ๆนายธีรพงษ์ ศรีกำเนิด สมาชิกสภาจังหวัดคนดัง ปรี่เข้าไปประจันหน้ากับผู้ว่าฯและผู้การฯ พร้อมพูดด้วยเสียงดังว่า ตนทำหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่มาตลอด เป็นผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่อายุ ๒๗ ปี ที่ไปกระทืบทำร้ายร่างกายเพราะปัญหายาบ้าระบาดหนักในพื้นที่ ทั้งขายและเสพ ร้องเรียนเจ้าหน้าที่ก็ทำอะไรยากและล่าช้า เลยเลือกวิธีปกครองดูแลลูกหลานแบบนี้นายธีรพงษ์กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังต่อว่า ขอตั้งคำถามถึงผู้ว่าฯ และผู้การฯ จะเอายาบ้าไว้ หรือเอาพวกตนที่กวาดล้างยาเสพติดไว้ มาตรการกวาดล้างของตนเร็ว แต่อาจรุนแรงและโดนร้องเรียน เมื่อวานนี้ตนขอให้กองปราบฯตรวจปัสสาวะผู้ไปร้องเรียนแต่ไม่ทำ ตนทำงานมีเหตุผล แต่ไม่ค่อยชอบออกสื่อ ชอบทำงานเบื้องหลัง ทำงานการเมืองมากว่า ๒๐ ปี ปัจจุบันเป็น ส.อบจ. ดูแลงบประมาณและความเจริญ แต่ก็ลงไปช่วยงานฝ่ายปกครองดูแลกวาดล้างยาเสพติดด้วย เพราะไม่อยากให้มีคนคลั่งยาไปกระทืบแม่ตายอย่างที่เป็นข่าวใน ต.บางจะเกร็ง และที่เป็นข่าวรายวัน ตนทำงานชัดเจนและไวกว่าเจ้าหน้าที่เพราะอยู่ในพื้นที่ แต่ต้องแลกด้วยคดีที่ได้มา ขอฝากให้ผู้ใหญ่ช่วยพิจารณาด้วยจากนั้นนายธีรพงษ์ได้เข้าให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.ลาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่นายธีรพงศ์ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงสั้นๆว่า ชอบทำงานเบื้องหลัง ไม่ชอบเอาหน้า แต่ฝากข้อคิดไว้ว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ร้องเรียนด้วยว่าเป็นอย่างไร ในพื้นที่เขารู้ดี แต่ไม่มีใครกล้าพูดอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่