สถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้ จากผลการสำรวจความเห็นประชาชนกว่า ๘๐% เห็นว่า “กระบวนการยุติธรรมล่มสลาย” บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป การปกครองประเทศไม่ยึดหลักนิติธรรม แม้จะไม่ได้ระบุตัวอย่างว่าเช่นเรื่องอะไร แต่ก็อาจมองเห็นได้เช่นเรื่องฉาวโฉ่ในวงการตำรวจและ “นักโทษเทวดา”เรื่องฉาวโฉ่ในวงการตำรวจ ก้าวมาถึงจุดที่ว่า “สองผู้ยิ่งใหญ่” แห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่างถูกกล่าวหากระทำผิดทางอาญา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตำรวจมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังจากเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาที่เกี่ยวกับส่วยเว็บการพนันส่วน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตำรวจก็ถูก “ทนายตั้ม” แจ้งความกล่าวหาในคดีอาญาเช่นเดียวกัน ยังไม่ทราบว่าคดีจะจบลงอย่างไร แต่ถ้าฟังนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการกระทำความผิดของตำรวจ ในเรื่องราวที่พัวพันถึงแหล่งอบายมุขทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อน ซ่อง หรือสถานบริการนักวิชาการระบุว่าตำรวจไทยมีพร้อมทุกอย่าง เพราะเป็นหน่วยงานที่มีทั้งอำนาจและปืนอยู่ในมือ นายตำรวจระดับหัวหน้าโรงพัก มีอำนาจที่จะบังคับใช้หรือไม่บังคับใช้กฎหมาย สามารถเรียกเก็บส่วยจากธุรกิจผิดกฎหมายได้ทุกอย่าง และอาจสะสมทุนไว้เป็นบันไดไต่เต้าสู่ตำแหน่งที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปนักวิชาการท่านหนึ่ง ซึ่งมีฐานะเป็นศาสตราจารย์ เคยศึกษาวิจัยเรื่องเศรษฐกิจไทยนอกกฎหมาย ที่เกี่ยวกับบ่อน ซ่อง และแหล่งอบายมุขต่างๆ เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า เคยขอร้องให้นายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งให้ปฏิรูปตำรวจ นายกฯท่านนั้นซึ่งมาจากทหารตอบว่าปฏิรูปไม่ได้ เพราะถ้าตำรวจไม่ทำงานขึ้นมารัฐบาลก็ไปทำอะไรต่อไม่ได้คำกล่าวที่ว่า “ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้” ยังเป็นความจริง แม้วันเวลาจะผ่านมาหลายทศวรรษ ประชาธิปไตยของประเทศน่าจะเข้มแข็งมากขึ้น ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพมากขึ้น เทคโนโลยีก้าวหน้ายิ่งขึ้น แต่แทนที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อผดุงความยุติธรรมในสังคมมากขึ้นแต่อาจมีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในการทำให้สังคมไทยมีความก้าวหน้าในด้านสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรม แต่อาจนำไปใช้ในทางเสื่อมมากขึ้น นายตำรวจผู้ยิ่งใหญ่ในหลายทศวรรษก่อน อาจต้องใช้กำลังตำรวจขนฝิ่น เพื่อสร้างความร่ำรวย แต่ตำรวจใหญ่วันนี้ใช้ไฮเทคโนโลยีรับส่วย.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม
