เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวออนไลน์เกือบทุกสำนักรายงานข่าวตรงกันว่า ภาพยนตร์ไทยเรื่อง “หลานม่า” ของค่าย GDH สามารถทำรายได้รวมทั่วประเทศทะลุ ๒๕๐ ล้านบาทไปเรียบร้อยแล้วหลังเข้าฉายเป็นเวลา ๑๔ วันตัวเลขดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า หลานม่า ได้ขึ้นแท่นอันดับ ๑ ในฐานะภาพยนตร์ทำรายได้รวมทั้งประเทศสูงสุดในรอบปีอย่างค่อนข้างแน่และมีโอกาสที่จะวิ่งไปสู่หลัก ๓๐๐ ล้านบาทในไม่ช้านี้ในฐานะกองเชียร์ภาพยนตร์เรื่องนี้คนหนึ่ง เพราะมีโอกาสไปดูรอบปฐมทัศน์ที่ สยามพารากอน แล้วก็ติดใจนำมาเขียนผ่านคอลัมน์นี้ไปเมื่อต้นเดือนเมษายน…แสดงความชื่นชมว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีมาก แม้จะเป็นหนังเศร้าแต่ดูแล้วกลับมีความสุขและมีความปีติใจเกิดขึ้นอย่างเหลือล้นผมถึงกับภาวนาให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทั้ง “เงิน” และ “กล่อง” อันหมายถึงว่าให้มีผู้เข้าชมจำนวนมากๆ เก็บเงินค่าตั๋วได้มากๆ ควบคู่ไปกับการได้ “กล่อง” หรือรางวัลยกย่องต่างๆ เพราะผมมั่นใจว่า “หลานม่า” จะต้องได้รับรางวัลใดรางวัลหนึ่ง หรือหลายๆรางวัลอย่างแน่นอนเมื่อปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กลับได้ “เงิน” ก่อนที่จะได้ “กล่อง” เสียอีกเช่นนี้ ผมจึงรู้สึกดีใจแทนทีมงานผู้สร้างเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้กำกับ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ และผู้เขียนบท ทศพล ทิพย์ทินกรผมยังจำได้ว่าวันฉายรอบปฐมทัศน์นั้น ทาง GDH ได้จัดขึ้นโดยแบ่งกลุ่มเชิญแฟนหนังเป็น ๒ กลุ่มด้วยกันรอบบ่าย ๔ โมงจะเป็นแฟนรุ่นอาวุโส–ผู้ที่ได้รับเชิญน่าจะมีอายุตั้งแต่ ๕๕ ปีขึ้นไป จนถึง ๗๐ และ ๘๐ ปีเช่นมีผู้อาวุโสจากสถานดูแลผู้อาวุโสแห่งหนึ่งราวๆเกือบ ๑๐๐ คน เป็นแขกรับเชิญกลุ่มใหญ่ ซึ่งผมสังเกตจากใบหน้าผิวพรรณและท่วงท่าในการเดินเหินแล้ว น่าจะมีอายุเกือบ ๗๐ ปีอยู่ด้วยเป็นส่วนมากนอกจากกลุ่มที่ว่านี้แล้ว ก็เห็นท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชาดา ไทยเศรษฐ์ (อายุ ๖๒ ปี) มากับคณะผู้ติดตามจำนวนหนึ่งต่างกับรอบ ๒ ทุ่มที่จะฉายที่อีกโรงทางด้านล่าง และจะเชิญดาราแสดงนำ ตลอดจนผู้อยู่เบื้องหลังมาพบแขกรับเชิญ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยกลางคน ลงไปจนถึงหนุ่มๆสาวๆ รวมถึงสื่อมวลชนอีกนับร้อยๆคนรวมทั้งแขกที่ผมเชื่อว่าไม่ได้รับเชิญแต่มากันเอง…มาแล้วก็ไม่เข้าดูหนังด้วยแต่ขอมานั่งบนพื้น (ย้ำว่าบนพื้นหน้าโรงหนังนะครับ) เพื่อที่จะรอพบและกรี๊ดพระเอกบิวกิ้นผู้แสดงเป็น “หลานม่า” ในภาพยนตร์เรื่องนี้เนื่องจากรอบผมฉายก่อน ผมจึงทราบความรู้สึกของผู้ชมเฉพาะรอบผม ซึ่งทุกคนต่างก็ชมว่าดีมาก โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยชาดา ไทยเศรษฐ์ นั้น ชมเปาะเป็นข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับผมไปเจอท่าน ประธานจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ตัวจริงเสียงจริง “อากู๋” ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ในห้องน้ำชายหลังภาพยนตร์จบแล้วก็บอกท่านไปว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมาก ผมดูแล้วอินจนลืมปวดปัสสาวะ (ซึ่งปกติแล้วผมจะต้องเข้าห้องน้ำทุกชั่วโมง) ไปเลย รอจน ๒ ชั่วโมงหนังจบค่อยมาเข้าและได้เจออากู๋โดยบังเอิญดังกล่าวอากู๋ ไพบูลย์ก็ชมทีมงานของท่านต่อหน้าผมด้วยว่า ท่านเองก็ดูแบบเพลินจนลืมห้องน้ำไปเหมือนกัน…ท่านบอกว่าลูกน้องท่านเขียนบทเก่ง กำกับเก่ง ทำคล้ายๆภาพยนตร์ญี่ปุ่น คือ จะค่อยๆ “บิลต์” ไปเรื่อยๆ สะกดคนดูให้ตามเรื่องไปจนถึงตอนสุดท้ายท่านประธานชมแบบนี้จริงๆครับ คณะผู้สร้างทั้งหลายไปขอเงินเดือนขึ้นได้เลยผู้อาวุโสอีกท่านหนึ่งที่ผมเจอในห้องน้ำก็คือ คุณไพวงษ์ เตชะณรงค์ เพื่อนเก่าผมจากสหรัฐฯ ที่มีทายาทเป็นดาราดังเช่นกัน…คุณไพวงษ์ยืนคุยกับอากู๋ ไพบูลย์ อยู่ก่อนแล้ว และชมเปาะตลอดสรุปว่าในรอบ “คนแก่” หรือ “ผู้อาวุโส” ทุกคนชมเปาะหมด และผมมาทราบภายหลังว่าในรอบหนุ่มสาวตอน ๒ ทุ่ม คนวัยทำงานไปจนถึงหนุ่มสาวที่เข้าดูต่างก็ชมเช่นกันวันรุ่งขึ้นหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆก็ชม ทุกสำนักโซเชียลมีเดียทั้งหลายก็โพสต์ชื่นชมอย่างมาก ทำให้ผมเบาใจและเริ่มหวังว่าสิ่งที่ผมเชียร์ให้หนังได้ทั้งเงินและกล่องน่าจะใกล้เคียงความจริงในที่สุดก็เป็นความจริงมาเรื่องหนึ่งแล้วคือ “ได้เงิน” มหาศาล จะเข้าสู่หลัก ๓๐๐ ล้านบาทอย่างที่ว่า…จากนี้ไปก็รอละครับ ว่าจะได้ “กล่อง” หรือรางวัลอะไรบ้างจากการประกวดต่างๆที่จะตามมาผมเดาว่าทั้ง “บิวกิ้น” พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และนักแสดงน้องใหม่หรือนางเอกใหม่วัย ๗๘ ปี “อาม่า” อุษา เสมคำ ต้องได้แน่นอนครับ คนละหลายๆกล่อง หรือหลายๆรางวัลด้วยซ้ำไป.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม
Related posts