Thursday, 19 December 2024

“ภูมิธรรม” คอนเฟิร์มประชามติ ๓ ครั้ง ย้ำ เลือกตั้งรอบหน้าเป็นกติกาใหม่

“ภูมิธรรม” คอนเฟิร์มทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ๓ ครั้ง หากผ่าน ครม. ส่งต่อ กกต.ทันที ย้ำ เลือกตั้งใหญ่รอบหน้าเป็นกติกาใหม่ ลั่น จะบอกประชาชนไม่มีส่วนร่วมไม่ได้ ชี้ เคยเชิญฝ่ายค้านและไอลอว์แต่ปฏิเสธเมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๗ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงการหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗ ว่า เป็นการหารือเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากวันที่ ๒๓ เมษายนนี้ จะนำเรื่องรัฐธรรมนูญเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถ้า คณะรัฐมนตรีอนุมัติ จะส่งไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กระบวนการจะเดินหน้า และจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่วินิจฉัยการทำประชามติจะทำกี่ครั้ง เลยคิดว่าน่าจะทำประชามติ ๓ ครั้ง เพื่อความปลอดภัย และจะหารือในที่ประชุม ครม. ว่าแนวคำถามประชามติจะเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่จะต้องอิงกับสิ่งที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปแล้ว ผู้สื่อข่าวถามต่อ มีการเตรียมแนวคำถามประชามติไว้บ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ในร่างของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มีคำถามแล้ว แต่จะมีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีอีกทีหนึ่ง ส่วนคำถามว่า จะมีการกำหนดไทม์ไลน์เอาไว้หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า หากในที่ประชุม ครม. วันที่ ๒๓ เมษายน เสร็จก็จะส่งไปที่ กกต.เลย กระบวนการทั้งหมดอยู่ที่ กกต. ที่จะต้องจัดการภายใน ๙๐ วัน ซึ่ง กกต.สามารถทำเร็วกว่านี้ได้ อยู่ที่ กกต. แต่คาดว่าถ้าไม่มีปัญหาอะไร การทำประชามติครั้งแรกน่าจะประมาณเดือนสิงหาคม ๒๕๖๗ นี้ และกระบวนการต่างๆ จะขยับไปตามกระบวนการกฎหมาย พร้อมเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายนที่ผ่านมา ไม่ได้มีการคุยกับพรรคร่วมในเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม คุยเรื่องรัฐธรรมนูญอย่างเดียว เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากประชาชนไม่เห็นด้วยที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และอาจจะออกมาเคลื่อนไหว นายภูมิธรรม ระบุ จะบอกว่าประชาชนไม่มีส่วนร่วมไม่ได้ ที่จะเสนอ คณะรัฐมนตรีวันที่ ๒๓ เมษายนนี้ จะเป็นการเสนอความเห็นที่แตกต่างทั้งหมด สิ่งที่เสนอไป ทางฝ่ายค้านและไอลอว์เราเชิญมาร่วมแล้ว แต่ทั้งสองฝ่ายนี้ปฏิเสธไป และในกระบวนการสรรหาอนุกรรมการที่มี นายนิกร จำนง เป็นประธาน ได้มีการไปคุยกับพรรคก้าวไกล มีการออกแบบสอบถามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) “การกล่าวหาว่ามีแต่พวกตัวเองนั้น คิดว่าเป็นที่ดูแคลนคณะกรรมการฯ มากเกินไป จะมาบอกว่าไม่ได้ไปคุยไม่ได้ เราคุยทั้งหมด และบางข่าวที่บอกว่าจะมีประชาชนเคลื่อนไหว ไม่ให้ประชาชนมาลงประชามติ ขอให้ไปพิจารณาดูว่าโอกาสในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาแล้ว ถ้าจะมีความเห็นอย่างไรก็ใช้บทบาทมาร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราบอกแล้วว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความเป็นประชาธิปไตย เราตั้งใจและประกาศไว้แล้วว่าจะให้เสร็จภายใน ๔ ปีที่รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาล มีกฎหมายลูก และพร้อมที่จะเลือกตั้งใหม่ภายใต้กติกาใหม่” นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปอีกว่า ถ้าจะอ้างความเห็นประชาชนไม่ต้องการ ตัวแทนพรรคการเมือง ก็มีฐานสมาชิกจากประชาชนที่สนับสนุนเขามา จึงอย่าเอาเรื่องนี้มาเถียงกันเลย ถ้าจะอย่างนั้นตนก็บอกว่า ๖ พรรคการเมืองในรัฐบาลมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน ไม่เช่นนั้นเราคงตั้งรัฐบาลไม่ได้ ถ้าเถียงกันเรื่องนี้มันไม่ใช่สาระ สาระสำคัญคือทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ส่วนเรื่องหมวด ๑ และหมวด ๒ มาจากการหาเสียงของพรรคการเมือง มีการแถลงข่าวและยังมีการนำเข้ามาในรัฐสภา เป็นนโยบายของรัฐบาล และกระบวนการก่อนตั้งรัฐบาล ทุกคนเห็นแล้วว่าทุกพรรคการเมืองที่มาร่วมตั้งรัฐบาลพูดเรื่องหมวด ๑ และหมวด ๒ ชัดเจน ฉะนั้น เราทำตามกระบวนการและสิ่งที่ชอบโดยปกติทั้งหมด ไม่มีประเด็นอื่น.