นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ให้คำมั่นว่าจะปฏิเสธการคว่ำบาตรใดๆ ต่อกองทัพ หลังมีรายงานว่าสหรัฐฯ วางแผนที่จะตัดความช่วยเหลือให้กับหน่วยทหารหน่วยหนึ่งของอิสราเอลนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะต่อสู้กับการคว่ำบาตรต่อหน่วยทหารของอิสราเอล หลังจากสื่อรายงานว่าสหรัฐฯ กำลังดำเนินการดังกล่าวต่อทหารกองพันหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนเมื่อวันเสาร์ เว็บไซต์ข่าว Axios รายงานว่าสหรัฐฯ กำลังวางแผนที่จะคว่ำบาตรกองพัน “เน็ตซาห์ เยฮูดา” (Netzah Yehuda) ของอิสราเอล ที่ปฏิบัติการในเขตเวสต์แบงก์ กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าไม่ทราบถึงมาตรการใดๆ ที่กำลังดำเนินอยู่เนทันยาฮูกล่าวในแถลงการณ์ว่า “หากใครคิดว่าสามารถคว่ำบาตรหน่วยหนึ่งของกองกำลังป้องกันอิสราเอล (ไอดีเอฟ) ได้ ผมก็จะต่อสู้กับมันอย่างสุดกำลัง” ด้านกองทัพอิสราเอลกล่าวว่ากองพันเน็ตซาห์ เยฮูดา เป็นหน่วยรบซึ่งปฏิบัติการตามหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ และกล่าวว่า ภายหลังการเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับการคว่ำบาตร ไอดีเอฟไม่ทราบถึงปัญหาดังกล่าว หากมีการตัดสินใจในเรื่องนั้นก็จะมีการทบทวน และไอดีเอฟจะยังคงทำงานต่อไปเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ผิดปกติของการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เป็นไปตามหลักกฎหมายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลจะเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อกลุ่มฮามาส เพื่อพยายามปล่อยตัวประกันที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซาเนทันยาฮูกล่าวในแถลงการณ์ผ่านวิดีโอ ว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อิสราเอลจะเพิ่มแรงกดดันทางทหารและการเมืองต่อกลุ่มฮามาส เพราะนี่เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถปล่อยตัวประกันได้ และขู่ว่าจะส่งมอบความเจ็บปวดเพิ่มอีก โดยไม่ได้ระบุว่าจะเป็นอะไรเมื่อถูกสอบถามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับรายงานที่ระบุว่า สหรัฐฯ อาจระงับความช่วยเหลือทางทหาร ต่อหน่วยทหารของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล จากข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตเวสต์แบงก์ นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาได้ตัดสินใจในเรื่องนี้แล้ว คาดว่าจะมีความคืบหน้าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเว็บไซต์ข่าว Axios ระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเกิดข้อกล่าวหาการละเมิดในเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเหตุการณ์หนึ่งที่ นายโอมาร์ อัสซาด วัย ๘๐ ปี ชายชาวปาเลสไตน์-อเมริกัน เสียชีวิตหลังจากถูกทหารอิสราเอลมัดและปิดปากระหว่างการตรวจค้นในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อเดือนมกราคม ๒๕๖๕ โดยในเวลานั้น สหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการสอบสวนทางอาญาอย่างละเอียดและแสดงความรับผิดอย่างเต็มที่ไอดีเอฟกล่าวในภายหลังว่า รู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของนายอัสซาด และผู้บัญชาการกองพันเน็ตซาห์ เยฮูดา จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ รายงานเสริมว่าทหาร ๒ นายจะถูกห้ามรับราชการในตำแหน่งอาวุโสเป็นเวลา ๒ ปี แต่จะไม่ถูกดำเนินคดี โดยระบุว่าการเสียชีวิตของนายอัสซาดมีสาเหตุจากอาการป่วยที่เกิดขึ้นอยู่ก่อนแล้วการตัดสินใจที่จะระงับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอล จะกระทำภายใต้ “กฎหมายลีอาฮี” ซึ่งได้รับการสนับสนุนในปี ๒๕๔๐ โดยวุฒิสมาชิกแพทริค ลีฮีย์ในขณะนั้น โดยจะป้องกันไม่ให้มีการใช้เงินทุนหรือการฝึกอบรมของสหรัฐฯ แก่หน่วยทหารต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง.ที่มา BBCติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign
