กัน จอมพลัง พาลูกสาวผู้รับเหมาทุบตึกเหยื่อตำรวจโคกสำโรง รีดทรัพย์ ร้องขอความช่วยเหลือตำรวจ ปปป. หลังทั้งอ้อนวอน ข่มขู่ให้กลับคำให้การ เซ็นยอมความ ถึง ๓ ครั้ง หวั่นไม่ปลอดภัยเพราะผู้ต้องหามาถึงบ้าน รวมทั้งนำกระเช้าไปมอบให้แม่ที่บ้านในจ.สุโขทัยด้วย ยังมีตำรวจ บก.ปปป. ที่ย้ายไปแล้ว โทรศัพท์มาบอกให้กลับคำให้การ หวั่นไม่ปลอดภัยจากกรณีตำรวจ บก.ปปป. ซ้อนแผนนำกำลังจับกุม พ.ต.ท.ณัฐพล พงษานุวัฒน์ สว.(สอบสวน) สภ.โคกสำโรง หลังมีพฤติกรรมเรียกรับสินบนเป็นเงิน ๑ แสนบาท จากผู้ต้องหา ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาทุบตึก ที่ถูกจับกุมและสั่งฟ้องในคดี “ร่วมลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” โดยจับกุม พ.ต.ท.ณัฐพล ได้ที่ลานจอดรถของศาลากลางจังหวัดลพบุรี ขณะกำลังรับส่งมอบเงิน เมื่อวันที่ ๒๐ ก.ย. ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา ตามที่เคยมีการนำเสนอไปแล้วความคืบหน้าคดีดังกล่าวล่าสุด เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. วันที่ ๒๓ เม.ย. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พาลูกสาวของผู้รับเหมาทุบตึกที่ถูก พ.ต.ท.ณัฐพล ข่มขู่รีดเงิน เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และ พ.ต.อ.สิทธิพร กะสิ ผกก.๒ บก.ปปป. หลังถูกข่มขู่เพื่อให้ยอมกลับคำให้การ และเซ็นยอมความคดีดังกล่าว นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเรื่อง ฝ่ายตำรวจคู่กรณีได้ไปเจรจาขอให้ผู้เสียหายเซ็นเอกสารยอมความ และกลับคำให้การ ถึง ๓ ครั้ง อีกทั้งยังมีอดีตตำรวจ บก.ปปป. ที่ย้ายไปแล้ว โทรศัพท์มาบอกให้ผู้เสียหายกลับคำให้การอีกด้วย ตอนแรกที่ไปรีดทรัพย์ผู้เสียหาย ไม่คิด แต่พอเกิดเรื่องกลับมาอ้อนวอนขอความเห็นใจกับผู้เสียหาย จึงอยากถามสังคมว่า เราอยากให้ตำรวจที่มีพฤติกรรมเช่นนี้กลับมารับราชการทำงานเพื่อประชาชนอีกหรือไม่ ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจมาร้องทุกข์ที่ บก.ปปป. พร้อมมอบข้อมูลให้แก่พนักงานสอบสวน เพื่อพิจารณาเรื่องการถอนประกัน และอยากให้ช่วยตรวจสอบตำรวจที่เป็นตัวกลางในการช่วยเจรจาให้ผู้เสียหายยอมความด้วยด้านลูกสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า พ.ต.ท.ณัฐพล ได้พาภรรยาที่อ้างว่าป่วยเป็นมะเร็ง และลูก ๒ คน มาอ้อนวอนถึงที่บ้าน ๓ ครั้ง เพื่อให้เซ็นเอกสารยอมความและกลับคำให้การ และมีการเสนอให้เงินค่าน้ำมันด้วย โดยไปหาถึงที่บ้านในจังหวัดสุโขทัย ๑ ครั้ง และพระนครศรีอยุธยา ๒ ครั้ง นอกจากนี้ยังเคยนำกระเช้าของขวัญไปให้แม่ของตนที่จังหวัดสุโขทัยอีก ๑ ครั้งด้วย ล่าสุดเมื่อวานเพิ่งมาหาถึงที่บ้านในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งการมาถึงที่บ้านตนนั้น ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ว่ารู้จักบ้านของตนได้อย่างไร ทุกครั้งที่มาก็ได้ปฏิเสธไป และยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด เพราะความจริงก็คือความจริง และอยากได้รับความยุติธรรมกับครอบครัวเบื้องต้นตำรวจ บก.ปปป. ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่พยานหลักฐานต่างๆ ก่อนประสานส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
