Thursday, 19 December 2024

“สารวัตรแจ๊ะ” ยัวะ เอาผิดทนายดัง “หมิ่นประมาท” ป้ายผิดจับแพะ ทำชื่อเสียหาย

23 Apr 2024
111

“สารวัตรแจ๊ะ” สืบนครบาลขาลุยคนดังยื่นฟ้อง “ทนายรัชพล” หมิ่นประมาท หลังโพสต์กล่าวหาจับแพะคดีอนาจารที่กกกอกติดคุกฟรีปีกว่า ลั่นฟ้องปกป้องชื่อเสียง มีหน้าที่ปกป้องประชาชนถ้าปกป้องตัวเองไม่ได้จะปกป้องคนอื่นได้ยังไง ซัดทนายต้องรู้กฎหมายโพสต์ใส่ร้ายแบบนี้ต้องการอะไร ขณะที่ทนายสารวัตรแจ๊ะระบุ ศาลยกฟ้องด้วยสงสัย ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้กระทำผิด วันเดียวกันศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นัดชี้ ๒ สถาน คดีที่อดีตจำเลยผู้ต้องสงสัยคดี “น้องชมพู่” และเป็นคู่กรณี “สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องเรียก ๕ ล้านบาทฐานละเมิดโดยกล่าวหาจับผิดตัวโดย “ทนายรัชพล” มาด้วย แต่อัยการขอเลื่อนเหตุเตรียมเอกสารไม่ทัน ศาลนัดอีกครั้ง ๑๐ มิถุนายนสารวัตรแจ๊ะ สืบนครบาลคนดัง ฟ้องทนายรัชพล หมิ่นโพสต์ใส่ร้ายจับแพะติดคุกฟรี โดยเมื่อวันที่ ๒๒ เม.ย. ที่ศาลอาญารัชดา พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.๓ บก.สส.บช.น. หรือสารวัตรแจ๊ะ นายตำรวจขาลุยคนดังสืบนครบาล ในลุคสวมหมวกไหมพรม ใส่แว่นตา แมสก์ และแจ็กเกตสีน้ำเงิน พร้อม น.ส.อาชิรญาณ์ ธนาพีระพงศ์ ทนายความ ยื่นฟ้องนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กรณีโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวใส่ร้ายสารวัตรแจ๊ะจับแพะติดคุก ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๒๖ ๓๒๘ ศาลนัดไต่สวนวันที่ ๒ก.ย.นี้พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์หรือสารวัตรแจ๊ะ กล่าวว่า คดีที่ทนายรัชพลโพสต์ใส่ร้ายนั้น การจับกุมจำเลยคดีดังกล่าวได้ทำไปตามหลักของการสืบสวน ไม่ได้ใส่ร้ายหรือกลั่นแกล้งจับกุม ตนมีหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลพิจารณา แม้คดีดนี้ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องก็ยกฟ้องด้วยเหตุสงสัย ต่อมาศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานจำเลยไม่อาจหักล้างหลักฐานของโจทก์ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๙ วรรคสอง จำคุก ๒ ปี และเนื่องจากจำเลยมีประวัติความผิดเกี่ยวกับคดีอาญา เป็นเหตุให้เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๒ เป็นจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน แม้ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ก็ยังยกฟ้องด้วยเหตุสงสัย ไม่ได้ยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดโดยศาลวินิจฉัยพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบมายังมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยสารวัตรหมวกไหมพรมกล่าวต่อว่า การมาฟ้องในวันนี้ถือเป็นการปกป้องชื่อเสียง ทุกวันนี้ทำงานมีหน้าที่ต้องปกป้องประชาชน ถ้าวันนี้ปกป้องตัวเองไม่ได้จะไปปกป้องคนอื่นได้ยังไง กล่าวหาว่าพาผู้ต้องหาไปอยู่เซฟเฮาส์ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทำไมทนายไม่แนะนำให้ลูกความดำเนินคดีฐานกักขังหน่วงเหนี่ยวเลย ทนายต้องรู้กฎหมาย เป็นการจับกุมตามหมายจับของศาล กระบวนการต่อไปมีพนักงานสอบสวน อัยการ และศาล ไม่เคยรู้จัก ไม่มีเหตุกลั่นแกล้งกัน โพสต์ข้อความใส่ร้ายตอนนี้ต้องการอะไรด้านทนายอาชิรญาณ์กล่าวเสริมว่า การยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.๒๒๗ วรรคสอง ต่างจากการยกฟ้องเพราะเห็นว่ามิได้กระทำความผิดหรือการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๘๕ ตามหลักกฎหมายการพิสูจน์คดีอาญา ถ้าพยานหลักฐานที่ปรากฏต่อศาลยังมีข้อสงสัยอยู่ว่าจำเลยกระทำความผิดจริงหรือไม่ ศาลจะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้กับจำเลย หลักนี้มีในกฎหมายไทยเป็นหลักสากลอยู่แล้ว คดีที่สารวัตรแจ๊ะถูกกล่าวหา ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย หมายความว่ามีพยานหลักฐานหนักแน่นยืนยันได้ว่าจำเลยกระทำความผิด เพียงแต่ศาลฎีกายกฟ้องเพราะเหตุแห่งความสงสัยบางประการ ไม่ได้หมายความว่าจำเลยจะไม่ได้กระทำความผิด ศาลก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดน.ส.อาชิรญาณ์กล่าวต่อว่า การที่นักกฎหมายหรือทนายความออกมาพูดกล่าวหาสารวัตรแจ๊ะแบบนี้ เป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ถ้ามีประชาชนหรือผู้ติดตามเพจสื่อโซเชียลมีเดียเกิดหลงผิดเชื่อขึ้นมาหรือไม่เข้าใจข้อกฎหมาย การพูดแบบนี้ถือเป็นการทำลายหลักกฎหมาย ทำลายตำรวจที่กำลังทำงานเพื่อประชาชนอยู่ ควรขอบคุณศาลฎีกาที่กรุณาเมตตาปรานีเห็นต่างจากศาลอุทธรณ์ให้แล้วจึงรอดคุก ๒ ปี ๘ เดือน ศาลยกฟ้องด้วยสงสัย ไม่ได้หมายความว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด ศาลฎีกายังสงสัยอยู่และจะสงสัยติดสำนวนอยู่อย่างนี้ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ ถ้าตำรวจจับโจรแล้วศาลยกฟ้อง แล้วตำรวจต้องถูกกล่าวหาว่าจับแพะ ตำรวจคงไม่กล้าจับคนร้ายวันเดียวกัน ที่ศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ ศาลนัดชี้ สองสถานในคดีที่นายนริน เชื้อคมตา ชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร อดีตผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่ ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ ฐานละเมิดเรียกค่าเสียหายทางเเพ่ง ๕ ล้านบาท กรณีตำรวจจับผิดตัว โดยในวันนี้ นายนรินมาพร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ที่เพิ่งถูกสารวัตรแจ๊ะฟ้องที่ศาลอาญานายรัชพลกล่าวว่า คดีนี้โดยตำรวจชุดของ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.๓ บก.สส.บช.น. หรือ “สารวัตรแจ๊ะ” ได้จับกุมนายนริน เคยเป็นผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่ แต่ถูกจับในคดีอนาจารเด็ก ๕ ขวบ นายนรินปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ถูกนำรูปไปปะปนกับรูปคนอื่นแล้วให้เด็กผู้เสียหายชี้รูป เด็กผู้เสียหายรู้จักนายนรินคนเดียว ขั้นตอนมีการนำนายนรินไปเข้าเซฟเฮาส์ ๔ วัน ๓ คืน แล้วถูกจับกุมข้อหาอนาจารเด็ก ๕ ขวบ ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวข้อง ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เพราะการสอบสวนไม่เป็นไปตามขั้นตอน มีพิรุธ ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน แต่สุดท้ายศาลฎีกายกฟ้อง ทำให้นายนรินตกเป็นแพะ ต้องติดคุกฟรี ๑ ปี ๓ เดือน เมื่อธันวาคม ๒๕๖๖ นายนรินยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกค่าสินไหมทดแทนห้าล้านบาทที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ วันนี้ตนเเละผู้เสียหายเดินทางมาศาลแพ่งกรุงเทพใต้ตามนัดชี้สองสถานเพื่อกำหนดประเด็นข้อพิพาท ทั้งปัญหาข้อกฎหมายปัญหาข้อเท็จจริงในคดี และการกำหนดหน้าที่นำสืบพยานในข้อเท็จจริงกับพนักงานอัยการซึ่งรับหน้าที่เเก้ต่างให้จำเลยอย่างไรก็ตาม พนักงานอัยการรับหน้าที่เเก้ต่าง ได้ขอเลื่อน เนื่องจากเอกสารทางคดีอยู่ที่ จ.มุกดาหาร ไม่สามารถเตรียมเอกสารได้ทัน ศาลเลื่อนนัดชี้สองสถานไปเป็นวันที่ ๑๐ มิ.ย. เวลา ๐๙.๐๐ น.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่