Thursday, 19 December 2024

เรื่องเล่าจาก “ผาแต้ม” ข่าวเล็กๆที่อ่านแล้ว “ใจฟู”

23 Apr 2024
125

ช่วงนี้มีแต่ข่าวร้อนๆโดยเฉพาะข่าวอากาศร้อนหลังสงกรานต์ที่ระเบิดเถิดเทิงทั่วประเทศไทย อุณหภูมิช่วงหลังเที่ยง หลังบ่ายเกิน ๔๐ องศาฯแทบทุกจังหวัดข่าว PM ๒.๕ หรือฝุ่นพิษฝุ่นจิ๋วที่ทำท่าจะคลี่คลายอยู่ช่วงหนึ่งก็กลับมาอีกหน โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่กลับมาครองตำแหน่งแชมป์โลก รองแชมป์โลกอีกจนได้ รวมทั้งเมื่อเช้าวันเขียนต้นฉบับวันนี้ก็ยังอยู่อันดับ ๓ส่วน กทม.กับปริมณฑลก็ใช่ย่อย กรมควบคุมมลพิษแจ้งว่า ในช่วงเวลาเที่ยงของวันอาทิตย์ขณะเขียนต้นฉบับ มีพื้นที่ “สีส้ม” ที่เป็น “อันตราย” ต่อกลุ่มเสี่ยงถึง ๖๐ จุด หรือราวๆ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ที่มีการรายงาน รวมทั้งที่แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ บ้านพักผมด้วยนอกจากความร้อนเรื่องอากาศและความอึดอัดเรื่อง PM ๒.๕ แล้ว ก็ยังมีข่าวร้อนๆ เรื่องรัฐบาลเตรียมลุยไฟเรื่อง แจกเงินดิจิทัล ๑๐,๐๐๐ บาท และข่าวจะเปลี่ยนแปลงตำแหน่งรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวร้อน “เฉพาะกิจ” ของรัฐบาลผมไม่ถนัดเขียนเรื่องร้อนๆ เพราะเขียนแล้วจะทำให้กลุ้มใจ หวาดหวั่น และวิตกจริตไปเสียเปล่าๆ ขอถือโอกาสหยิบข่าวเย็นๆ อ่านแล้วหัวใจฟูมาฝากท่านผู้อ่านสักข่าวหนึ่งดีกว่านั่นก็คือ ข่าวที่สำนักข่าวออนไลน์เกือบทุกสำนักรายงานว่า “สาวจีนเดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานผาแต้มที่ช่วยชีวิต หลังสามีผลักตกหน้าผา หวังฮุบสมบัติเมื่อ ๕ ปีก่อน”พร้อมกับมีภาพสาวใหญ่ชาวจีนโผเข้ากอดเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี และนำกระเช้าอาหารบำรุงกำลังหลายกระเช้าไปมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ต่างๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสจากนั้นก็รายงานโดยสรุปว่า สาวชาวจีนเธอนี้เคยเดินทางมาเที่ยวอุทยานผาแต้มกับสามี และพลัดตกจากหน้าผาแห่งหนึ่งขณะยืนชมวิวอยู่กับสามี แต่โชคดีที่ไปถูกต้นไม้ด้านล่างปะทะเอาไว้ แม้จะมีความสูงถึง ๓๔ เมตร และเธอก็ลงไปนอนกับพื้นซึ่งเป็นหิน เธอจึงไม่เสียชีวิตอย่างไรก็ดี เธอก็ตกอยู่ในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส กระดูกต้นขาซ้ายหัก เข่าแตกทั้ง ๒ ข้าง แขนซ้ายหัก ไหปลาร้าหัก ฯลฯข่าวรายงานว่า เธอตั้งครรภ์อยู่ด้วย ๓ เดือน และบุตรในครรภ์ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลระหว่างรักษาตัวเจ้าหน้าที่ของอุทยานผาแต้มที่ลาดตระเวนอยู่ได้ยินเสียงร้อง และเสียงร่างกระทบพื้น รีบขับรถไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับช่วยเหลือนำเธอส่งโรงพยาบาลโขงเจียมในทันทีเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อนส่งไปโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ในจังหวัดอุบลราชธานีภายหลังในตอนแรกเธอแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ระหว่างยืนชมวิวอยู่นั้นเกิดเป็นลมหน้ามืดเพราะตั้งครรภ์อยู่ จึงพลัดตกมาเองในช่วงที่สามีแยกไปเข้าห้องน้ำ แต่ต่อมาเธอก็ให้การใหม่ระบุว่า สามีนั่นแหละที่ผลักเธอตกหน้าผาเพื่อหวังมรดกเมื่อเสียชีวิตแล้ว ที่เธอไม่กล้าให้การตอนแรกเพราะเกรงว่าสามีจะทำร้ายเธอและลูกในท้อง ตำรวจจึงจับกุมสามีเธอในที่สุดเรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ และมีการดำเนินคดีไปครบ ๓ ศาล จบลงด้วยศาลฎีกา ตัดสินจำคุกสามีเธอ ๓๓ ปี กับ ๔ เดือน ในข้อหาพยายามฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เมื่อปีที่แล้วดังนั้นในเดือนเมษายนปีนี้ หญิงจีนที่ชื่อ นางหวัง หนาน ซึ่งรอดชีวิตและสุขภาพแข็งแรงเป็นอย่างดีแล้ว จึงได้เดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้มที่เคยช่วยชีวิตเธอได้แก่ นายไพโรจน์ ผิวอ่อน ลูกจ้างประจำ นายสกุลทัย จันทร์สุข, นายสรวิศ มิ่งแมน และ นายสถาพร ภิมา ๓ รายหลังนี้เป็นพนักงานราชการมีอยู่ภาพหนึ่งที่โพสต์ในเฟซบุ๊กของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จะเห็นว่า นาง หวัง หนาน กอดเจ้าหน้าที่ไว้ด้วยใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งร้องไห้ อันเป็นการแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ดังกล่าวอย่างสุดซึ้งเห็นภาพชุดนี้และได้อ่านข่าวนี้แล้ว ผมก็รู้สึกเย็นลงทันที ลืมอุณหภูมิ ๔๑ องศาเซลเซียสและ PM ๒.๕ สีส้มของบ่ายวันอาทิตย์ไปชั่วคณะขอแสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่อุทยานผาแต้มทั้งที่สื่อเอ่ยนามและมิได้เอ่ยนามทุกท่าน ขอแสดงความชื่นชมต่อคณะแพทย์ของโรงพยาบาลโขงเจียม และโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ที่ช่วยรักษาสาวจีนรายนี้จนหายดี และกลับมาแข็งแรงอย่างยิ่งจากภาพที่เห็นขอปรบมือให้ทุกคนในข่าวนี้ที่ทำหน้าที่ในนามประเทศไทยได้อย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรี และขอชื่นชมคุณ “หวัง หนาน” ด้วยที่กลับมา “ผาแต้ม” อีกครั้ง เพื่อ “ขอบคุณ” เจ้าหน้าที่ไทยของเรา.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม