Thursday, 19 December 2024

เงินดิจิทัลผ่านครม. "เศรษฐา" ควงพรรคร่วมแถลง นโยบายเรือธงใช้ไตรมาส ๔

“เศรษฐา” ประกาศโผ คณะรัฐมนตรีนิ่งแล้ว ไม่มีแกว่ง “ธรรมนัส” เผยส่งชื่อ “ไผ่” นั่ง รมต. “พิชิต” โชว์หล่ออยู่ไหนก็ทำงานได้หมด “ประเสริฐ” ถอนหายใจได้ตีตั๋วต่อ “ชัย วัชรงค์” ขวางกองเชียร์ “จิรายุ” เสียบโฆษกรัฐบาล แย้ม “เผ่าภูมิ-จิราพร” รับใบกรอกประวัติแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลแถลงพร้อมหน้าดันแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯกำชับสงสัยอะไรให้ถามกฤษฎีกา “จุลพันธ์” จ่อถามเอาเงิน ธ.ก.ส. มาใช้ได้ไหม เล็งอัดฉีดเพิ่มทุนเสริมแกร่งให้ก่อน ลงทะเบียนไตรมาส ๓ ได้ใช้ไตรมาส ๔ ทุ่มพันล้านทำแอปพลิเคชันแยกเป็น ๒ ระบบ หวังต่อยอดเป็น “ซูเปอร์แอป” นายกฯดึงซีอีโอ ๔ แบงก์ยักษ์ลดดอกช่วยคนจน คณะรัฐมนตรีไฟเขียว ประชามติ ๓ รอบแก้ รธน.-เลือก สว.กระบวนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใกล้งวด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ยืนยันโผ ไม่แกว่งและนิ่งแล้ว ขณะเดียวกันแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมใจกันร่วมแถลงเดินหน้านโยบายเติมเงิน ๑ หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายเรือธงของ พรรคแกนนำรัฐบาล พรรคเพื่อไทย“เศรษฐา” สปีช “อนาคตอาเซียน”เมื่อเวลา ๐๘.๓๐ น. วันที่ ๒๓ เม.ย. ที่ทำเนียบ รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดงาน ASEAN Future Forum ๒๐๒๔ ภายใต้หัวข้อ “Towards fast and sustainable growth of a people-centered ASEAN Community” ผ่านการบันทึกเทปวีดิทัศน์ ว่า อาเซียนถือเป็นจุดยึดของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคมากว่า ๕๐ ปี ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ให้ประชาชนในภูมิภาค ปัจจุบันมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ เป็นอันดับ ๕ ของโลก และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำ ในเรื่องภูมิภาคนิยม และหลักการพหุภาคีนิยม ด้วยจุด แข็งนี้ จึงควรมุ่งสู่การเป็นอาเซียนที่เชื่อมโยง ยั่งยืน เป็นเอกภาพ และยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อบรรลุอนาคตที่มุ่งหวังไว้ เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดภูมิภาค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า พัฒนาความเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อสำหรับการค้าและการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ด้านพลังงาน สิ่งเหล่านี้ จะช่วยให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ไทยมุ่งมั่นที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนปี ค.ศ.๒๐๔๕ครม.ไฟเขียวแก้ รธน.-เลือก สว.ต่อมาเวลา ๑๑.๕๐ น. นายเศรษฐาแถลงภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบหลักการที่คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร พุทธศักราช ๒๕๖๐ เสนอการจัดทำรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่ เห็นควรให้มีการจัดการออกเสียงประชามติจำนวน ๓ ครั้ง และควรมีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ให้เป็นเครื่องมือทางประชาธิปไตย ที่จะช่วยส่งเสริมประชาชนให้แสดงเจตจำนงในเรื่องต่างๆได้โดยตรง คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอร่าง พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว. โดยประกาศกำหนด รับสมัครในวันที่ ๑๓ พฤษภาคม๒๕๖๗ วันเลือก สว. ระดับ อำเภอวันที่ ๙ มิ.ย. วันเลือก สว.ระดับจังหวัด วันที่ ๑๖ มิ.ย. และวันเลือก สว.ระดับประเทศ วันที่ ๒๖ มิ.ย. และประกาศผลรับรองการเลือก สว.ในวันที่ ๒ กรกฎาคมตีฝีปากก่อนแย้มโผ คณะรัฐมนตรีนิ่งแล้วนายเศรษฐายังกล่าวถึงความคืบหน้าการปรับ ครม. หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและ สหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่า ส่งโผรัฐมนตรีของพรรค พปชร.ถึงนายกฯแล้ว แต่นายเศรษฐาย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า “หรือครับ ไม่ทราบ” เมื่อถามย้ำว่า ก่อนเข้าประชุม ครม. ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ส่งรายชื่อแล้ว นายเศรษฐาตอบว่า ต้องถาม ร.อ.ธรรมนัส เพราะยังไม่ได้รับ เมื่อถามว่าช่วงเวลาที่ดีในการปรับ ครม. ควรเป็นช่วงไหน นายกฯตอบว่า เมื่อมีความพร้อมว่าจะปรับ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีโอกาสจะ เลื่อนการปรับ คณะรัฐมนตรีไปอีก ๒ เดือนหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า “เมื่อไหร่เหมาะสมที่ผมจะปรับ ท่านก็ทราบเอง” เมื่อถามว่า มีแนวคิดจะดำรงตำแหน่งนายกฯเพียงตำแหน่งเดียวหรือไม่ นายเศรษฐาได้แต่ยิ้ม แต่ไม่ตอบ คำถาม ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าโผยังไม่นิ่ง ยังแกว่ง อยู่หรือไม่ นายเศรษฐาหัวเราะก่อนตอบว่า ไม่มีแกว่ง ทุกอย่างนิ่งแล้วสั่ง พม.ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางนายเศรษฐากล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่แฟลต ดินแดง ช่วงต้นเดือน เม.ย. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เข้าถึงที่อยู่อาศัยและมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยถึงกลุ่ม ที่มีรายได้ปานกลาง จึงมอบหมายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และการเคหะ แห่งชาติ (กคช.) ตรวจสอบความต้องการที่อยู่อาศัยของ ประชาชนที่มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง นอกจากนี้ ให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตรวจสอบที่ดินบริเวณริมทางรถไฟ และรถไฟฟ้า ที่มีความเหมาะสมกับการสร้างที่อยู่อาศัย อีกทั้งให้กระทรวงการคลัง โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ศึกษาแนวทางส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึง แหล่งเงินกู้ได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมจัด “พลังทำดี” โอกาสมหามงคลนายเศรษฐากล่าวต่อว่า ยังสั่งการกระทรวงยุติธรรมในที่ประชุม ครม. จัดกิจกรรมแสดงพลังทำความดี ของกลุ่มผู้ต้องขังกรมราชทัณฑ์ และผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม เป็นลักษณะงานบริการ สาธารณะ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม๒๕๖๗ เพื่อชดเชย ความเสียหายที่เคยกระทำกลับคืนสู่สังคม โดยประสาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กลุ่ม ผู้ต้องขังดังกล่าวร่วมดำเนินกิจกรรม เช่น กิจกรรมปลูกป่า เก็บขยะ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล ขุดลอกคูคลอง และท่อระบายน้ำ เป็นต้น “ธรรมนัส” เผยส่งชื่อ “ไผ่” นั่ง รัฐมนตรีด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและ สหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าการเสนอรายชื่อรัฐมนตรีในโควตาพรรค พปชร.ที่ว่าง ๑ ตำแหน่ง ว่า ได้ส่งรายชื่อนายไผ่ ลิกค์ สส. กำแพงเพชร ไปแล้ว และทางพรรคยังส่งรายชื่อสำรอง ไป ๓ รายชื่อเรียบร้อยแล้ว ก็แล้วแต่นายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า ๓ รายชื่อสำรองมีใครบ้าง ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ขอให้ถามนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ส่งรายชื่อไปหลายวันแล้ว เมื่อถาม ว่าส่งรายชื่อไปแล้วก็ต้องไปเลือกกันอีกทีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมมนัสตอบว่า ต้องเอานายไผ่เป็นคนแรกก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ๓ รายชื่อสำรอง ได้แก่ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรค พปชร. นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา“อนุทิน” ย้ำ ๘ เก้าอี้นิ่งไม่เซ้าซี้ถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ในส่วนของพรรค ภท. ไม่ต้องส่ง ยืนยันไปแล้วว่าเรายังให้รัฐมนตรีของพรรคทั้ง ๘ คน ปฏิบัติหน้าที่ ต่อไป เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยอยากได้ กระทรวงมหาดไทยกลับคืน นายอนุทินย้อนถามว่า ใครพูด ไปฟังกระแสอะไรก็ไม่รู้ พูดตามตรงเรื่องการปรับ คณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจนายกฯคนเดียว เราต้องถือว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เรื่องใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับเราแล้ว ที่เรายืนยันไปแล้วว่าในส่วนของพรรคที่รับผิดชอบดูแลอยู่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็เท่านั้น และไม่กล้าถามด้วย“ท็อป” บอกไม่ได้รับสัญญาณใดๆนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการปรับ คณะรัฐมนตรีว่า ขณะนี้นายกฯยังไม่ได้ส่งสัญญาณมาที่ ชพท. ติดตามข่าวอยู่เช่นกัน ทุกครั้งที่มีการปรับ คณะรัฐมนตรีก็คาดการณ์ไปต่างๆนานา ท้ายสุดอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขอว่าอย่าเพิ่งกังวล สุดท้ายปรับ คณะรัฐมนตรีต้องเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมในหลายมิติ ที่เป็นภารกิจของพรรคแกนนำ และนายกฯต้องพิจารณา“พิชิต” โชว์อยู่ไหนทำงานได้หมดขณะที่นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายก รัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชื่อเป็นรัฐมนตรีว่า วันนี้ต้องให้กำลังใจนายกฯ เพราะได้รับการบอกกล่าวมาหลายทางว่าให้มาให้กำลังใจในเวลานี้ให้ท่านมีสมาธิในการทำงาน ส่วนตัวนายกฯมอบหมายงานให้ทำอยู่แล้ว ยังมีความสุขในการทำงาน ไม่อยากคิดอะไรตรงนี้ เป็นคนทำงานอยู่ตรงไหนก็ทำได้หมด และขอให้เกียรติให้กำลังใจรัฐมนตรีทุกคนที่ยังทำงานอยู่ ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯตัดสินใจ“ประเสริฐ” ถอนหายใจได้ตีตั๋วต่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวยืนยันว่าในพรรคไม่มีแรงกระเพื่อมเรื่องปรับ ครม. ขอให้สบายใจได้ ส่วนตัวเชื่อว่ายังได้ทำงานต่อ ส่วนที่มีชื่อ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด จะมานั่งเป็นรัฐมนตรีนั้น น.ส.จิราพรเป็น สส.มาแล้ว ๒ สมัย เมื่อถามว่าโควตารัฐมนตรีสัดส่วนภาคอีสานยังมีอยู่หรือไม่ นายประเสริฐตอบว่า ไม่ทราบการปรับ คณะรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับนายกฯ ท่านคงมีเหตุผลหลายอย่างในการปรับหรือไม่ปรับ และไม่ขอวิจารณ์กรณีมีชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขจะถูกปรับออก “ชัย วัชรงค์” ขวางกองเชียร์ “จิรายุ”นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายก รัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนโฆษกรัฐบาลว่า ไม่มีนะ ไม่เคยได้ยินข่าว และตนมีกองเชียร์ไม่เยอะ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม จะมานั่งตำแหน่งโฆษกรัฐบาล นายชัยตอบว่า เรื่องนี้ไม่ทราบจริงๆ เข้าใจว่ากองเชียร์นายจิรายุคงเยอะ คงอยากให้เข้ามาทำงาน ส่วนใหญ่เป็นคนในทวิตเตอร์ ส่วนคนที่อยากให้ตนทำหน้าที่ต่อและไม่เล่นโซเชียลก็มีเยอะแยะ เมื่อถามว่านายกฯมีการพูดถึงเรื่องนี้หรือไม่ นายชัยตอบว่า ไม่มี ไม่มีแม้กระทั่งภาษากาย คุยกันแต่เรื่องทำงาน เมื่อถามอีกว่าท้อใจหรือไม่ทำงานหนักขนาดนี้ แต่ยังมีกระแสข่าวดังกล่าว นายชัยตอบว่า ไม่ท้อ ยังสนุกกับการทำงาน เมื่อถามย้ำว่ามองว่ามีใครอยู่เบื้องหลังกระแสเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาลหรือไม่ นายชัยตอบว่า ไม่ได้คิดว่าใครอยู่เบื้องหลัง และไม่ได้เก็บไปคิดเลย เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะขึ้นเป็นรัฐมนตรี นายชัยตอบว่า ไม่เห็น ไม่มี“เผ่าภูมิ–จิราพร” รับใบกรอกประวัติผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล หลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ระบุว่าโผการปรับ คณะรัฐมนตรีนิ่งแล้ว ปรากฏว่าวันเดียวกันนี้ ผู้ที่มีรายชื่อจะถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทย ทั้งนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการคลัง และ น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด ต่างมีภารกิจที่ทำเนียบฯ มีรายงานแจ้งว่าทั้งสองคนได้เข้ามารับแบบฟอร์มเพื่อนำไปกรอกประวัติแล้วพรรคร่วมพร้อมหน้าดันเงินหมื่นจากนั้นเวลา ๑๑.๕๐ น. ที่หน้าตึกบัญชาการ ๑ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง พร้อมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้แก่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรค พปชร. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคมฯ หัวหน้าพรรค ชทพ. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง ร่วมแถลงข่าวหลังที่ประชุม คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการกรอบโครงการเติมเงิน ๑ หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ตามที่กระทรวงการคลังเสนอนายกฯลั่นสงสัยให้ถามกฤษฎีกานายเศรษฐากล่าวว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะทำงาน ทั้งเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ แนวทางเข้าร่วมโครงการของประชาชน เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า การลงทะเบียนร้านค้า รวมถึงแหล่งเงินดำเนินโครงการ กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงบประมาณ จะศึกษารายละเอียดต่อไป ส่วนข้อห่วงใย เช่น ประเด็นอำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. หากมีประเด็นข้อสงสัยใดๆ ให้ส่งเรื่องไปสอบถามยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทุกพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบในหลักการโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ตใช้เงิน ธ.ก.ส.มาทำโครงการได้ไหมนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง กล่าวว่า ดูในรายละเอียดแล้วมั่นใจว่า การดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ แต่หากจะทำให้เกิดความกระจ่างชัด จะสอบถามไปยังกฤษฎีกาว่า ธ.ก.ส.มีอำนาจในการให้นำเงินมาใช้ได้หรือไม่ ทั้งนี้ การดำเนินการตาม พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังมาตรา ๒๘ เป็นกระบวนการงบประมาณประเภทหนึ่ง จะเริ่มต้นประมาณเดือน ต.ค. ใกล้ๆช่วงนั้นถึงจะมีการพิจารณาผ่านบอร์ด ธ.ก.ส. และนำเข้า คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ระหว่างวันนี้จนถึงเดือน ต.ค. คงต้องดำเนินการในรายละเอียดให้ครบถ้วน ในส่วนของคณะกรรมการกำกับซึ่งตั้งมาแล้ว คงต้องไปประชุมหารือในรายละเอียดให้ครบ ทำคู่ขนานกันไปกับการสอบถามกฤษฎีกาให้เกิดความกระจ่าง และพร้อมดำเนินการเหลือเวลาอีก ๔-๕ เดือนเล็งอัดฉีดเพิ่มทุนเสริมแกร่งให้นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สหภาพรัฐวิสาหกิจ  ธ.ก.ส.เป็นห่วงที่สุด คือกรอบอำนาจหน้าที่ ตามมติ คณะรัฐมนตรีจะสอบถามกฤษฎีกาเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ อย่าลืมว่ารัฐบาลถือหุ้นใน ธ.ก.ส. ร้อยเปอร์เซ็นต์เรามีแต่เสริมความแข็งแกร่งให้ ที่ต้องชี้แจงกับสหภาพฯมี ๓ ประเด็น คือ ๑.การดำเนินการต้องเป็นไปตามกรอบกฎหมายทุกประการ รวมถึงอำนาจหน้าที่ของ ธ.ก.ส. ๒.เสถียรภาพของ ธ.ก.ส. มีความมั่นคงสูง สิ่งที่เราจะดำเนินการอยู่ในศักยภาพที่ ธ.ก.ส.จะดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหาอะไร รัฐบาลมีแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้ธนาคารในกำกับ เพราะ ธ.ก.ส.เป็นปีกหลักปีกหนึ่งในการดำเนินนโยบายของรัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมาใช้บริการ ธ.ก.ส.มาตลอด และ ๓.ไม่กระทบต่อสวัสดิภาพ สวัสดิการของพนักงาน ลูกจ้าง ธ.ก.ส.เด็ดขาดลงทะเบียนไตรมาส ๓ ใช้ไตรมาส ๔รมช.คลังกล่าวว่า มีการพูดคุยเรื่องการเพิ่มทุนให้กับ ธ.ก.ส. การเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส. ๑ บาทจะสามารถเปิดเป็นวงเงินสินเชื่อให้กับเกษตรกรเป็น ๑๑ บาท เป็นการเติมความแข็งแกร่งอย่างหนึ่งที่เราพิจารณาอยู่ ส่วนจะเท่าไหร่และเมื่อไหร่ขอประชุมกันอีก ๑-๒ ครั้ง เมื่อถามว่าประชาชนเบาใจได้หรือยังว่าจะได้เงินดิจิทัลจริง นายจุลพันธ์ตอบว่า เบาใจได้ เรายืนยัน ในกรอบเวลาที่ประชาชนจะได้ในไตรมาส ๔ แน่นอน ได้พร้อมกัน สาเหตุที่พร้อมกันเราต้องการให้เกิดอิมแพกต์ทางเศรษฐกิจ ลงไปทีเดียวจะเกิดการกระตุ้นการหมุนเวียน การลงทุน การจ้างงาน เราต้องการผลลัพธ์ ตรงนั้น เหตุผลที่ยังไม่เคาะวันชัดเจนในการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบที่พยายามเร่งรัดที่สุด แต่เราต้องรอบคอบ โดยเฉพาะเรื่องความเสถียรของแอปพลิเคชัน ความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลของประชาชนและราชการ เราจะเร่งเกินไปโดยไปกำหนดเวลาเพื่อบีบแล้วเกิดปัญหา เป็นสิ่งที่เราไม่ปฏิบัติ ยังยืนยันตามกรอบเดิมลงทะเบียนในไตรมาส ๓ และเปิดใช้ในไตรมาส ๔เร่งเครื่องพัฒนา “ซูเปอร์แอป”ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลเป็นหนี้ ธ.ก.ส.อยู่ประมาณ เท่าไหร่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ประมาณ ๘-๙ แสนล้านบาท แต่ไม่ใช่เป็นการกู้เงิน ธ.ก.ส.มาทำดิจิทัลวอลเล็ต แต่ใช้กลไกผ่านงบประมาณ และมาตรการการเงินการคลัง เพราะรัฐบาลกู้เงิน ธ.ก.ส.ไม่ได้ เมื่อถามถึงระบบบล็อกเชน จะเข้ากับแอปพลิเคชันของรัฐได้อย่างไร เพราะไม่ได้เอื้อต่อธุรกรรมทางการเงิน นายจุลพันธ์ตอบว่า กำลังพัฒนาและดำเนินการอยู่ เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่คาดหวังจะสามารถอัปเกรดเป็นซูเปอร์แอปฯ โดยกระทรวงดีอี และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเป็นผู้รับผิดชอบ ดำเนินการ เพื่อเป็นจุดเชื่อมในอนาคต เช่น ลูกค้าธนาคารต่างๆ สามารถมาเชื่อมกับระบบของรัฐเข้าสู่ระบบดิจิทัลวอลเล็ตได้ ยืนยันใช้งบประมาณไม่เยอะไม่ถึงพันล้านบาท ส่วนแอปฯเป๋าตังยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่รัฐบาลดูอยู่แยกแอปพลิเคชันเป็น ๒ ระบบนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการคลัง กล่าวยืนยันถึงระบบแอปพลิเคชันว่า จะมี ๒ ระบบ คือระบบการลงทะเบียน และระบบธุรกรรมทางการเงิน เป็นลักษณะเชื่อมต่อกันในหลายภาคส่วน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ทั้ง ๒ ระบบมีการพัฒนาและอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ จะเปิดให้ลงทะเบียนกันในไตรมาส ๓ ปีนี้ และประชาชนจะได้รับเงินในไตรมาส ๔ ส่วนรายละเอียดจะมีการแถลง อย่างเป็นทางการอีกที เพื่อยืนยันข้อมูลในส่วนของแอปพลิเคชันอีกครั้ง เมื่อถามว่าวันข้างหน้าหากมีปัญหาข้อกฎหมายตามมา รัฐบาลจะร่วมกันรับผิดชอบทั้งคณะใช่หรือไม่ นายเผ่าภูมิตอบว่า ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ มีการเช็กรายละเอียดรอบคอบ ทั้งในส่วนอำนาจหน้าที่และการได้มาของงบประมาณโต้ครหาเติมเงินกระเป๋าเจ้าสัวนพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการนี้จะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๘ เพิ่มขึ้น ๑.๒-๑.๘% เกิดแรงกระเพื่อมด้านเศรษฐกิจไปอีก ๒-๓ ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านการคลังระบุว่าจะทำให้เกิดเงินหมุน ๓.๒-๓.๕ รอบ และทำให้เกิดตัวทวีคูณทางการคลัง ๑.๒-๑.๔ เท่าของเม็ดเงินที่ใส่ลงไป ๕ แสนล้านบาท เช่น ถ้า ๑.๓ เท่าก็เท่ากับ ๖๕๐,๐๐๐ ล้านบาท มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจไปอีก ๓ ปี ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องร้านสะดวกซื้อจะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าเจ้าสัว อย่าง ๗/๑๑ ได้ไปเช็กตัวเลขจากกระทรวงพาณิชย์ มี ๑๔,๕๐๐ สาขา ครึ่งหนึ่งเป็นของบริษัทซีพีออลล์ อีกครึ่งเป็นแฟรนไชส์ ส่วนร้านค้าย่อยขนาดเล็กที่เคยลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งมีมากถึง ๑.๒ ล้านรายก็เข้ามาร่วมได้ ถ้าเทียบจำนวนร้านสะดวกซื้อกับร้านค้ารายย่อยมีมากกว่าเป็นหมื่นเท่า มีเงินใช้จ่ายในระบบทั้งหมด ๔.๑ ล้านล้านบาท เทียบกับร้านสะดวกซื้อ มีเงินใช้จ่าย ๓๘๐,๐๐๐ ล้านบาท ฉะนั้นรัฐบาลไม่ได้เอาเงินไปเข้ากระเป๋าใคร ร้านเหล่านี้อยู่ในระบบภาษีจะเกิดประโยชน์กับประเทศแน่ ดึงซีอีโอ ๔ แบงก์ยักษ์ช่วยคนจนวันเดียวกัน เวลา ๐๘.๓๐ น. ก่อนการประชุม ครม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ได้เรียกผู้บริหาร ๔ ธนาคารเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ประกอบด้วย น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และนายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ใช้เวลาหารือประมาณ ๓๐ นาที ต่อมานายเศรษฐาแถลงว่า เชิญแบงก์ใหญ่ ๔ แบงก์ มาพูดคุยเรื่องปัญหาเศรษฐกิจทั่วไป พูดคุยกันเรื่องความแข็งแกร่งมากของสถาบันการเงิน จากผลประกอบการที่ออกมาแจ้งให้ทุกท่านทราบว่าพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบาง มีปัญหาเรื่องดอกเบี้ยสูง ขอร้องและพูดคุยกันแบบคนที่รู้จักกันมา ๑๐-๒๐ ปี ว่าขอให้มาพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยบ้าง ท่านก็รับปากว่าเดี๋ยวจะไปพูดคุยกันไม่กดดันบอกแค่มองตาก็รู้ใจนายเศรษฐากล่าวว่า รัฐบาลเห็นความเดือดร้อนประชาชนจากปัญหาเรื่องดอกเบี้ย จึงเชิญมาพูดคุยพร้อมกันให้มีความเสมอภาคเท่าเทียม เพราะไม่ใช่เรื่องการแข่งขันด้านธุรกิจ หรือมาชิงดีชิงเด่นใครลดมากลดน้อย ไม่ใช่ อยากให้ทุกท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ลองดูว่าเราสามารถช่วยเหลือกันได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร เรื่องนี้เป็นการให้เกียรติกัน และเป็นคนที่อยู่ในวงการเดียวกันมาเกือบ ๒๐ ปี รู้จักกันมาดี มองตากันก็รู้ใจว่าเราต้องการอะไรซึ่งกัน และกัน ทำได้แค่ไหนก็คงแค่นั้น คงไม่ไปกดดันอะไร ต้องให้เกียรติทั้ง ๔ ท่านขึงขังสอบทุนจีนทำทัวร์เถื่อนนายเศรษฐายังกล่าวถึงมาตรการควบคุมกลุ่มทุนจีนราคาถูก บุกเข้ามาตีตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทย ว่า เรื่องนี้ตรวจสอบอย่างดี ได้ยินมา รวมถึงชาวต่างประเทศที่มาอาศัยอยู่ในไทย ทำธุรกิจที่ไม่เหมาะสม เมื่อวันที่ ๒๑ เม.ย. ได้ไปพูดคุยกับกงสุลกิตติมศักดิ์ ที่ จ.ภูเก็ต เน้นย้ำให้ทำถูกต้องตามกฎหมาย โดยร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตำรวจท่องเที่ยว เร่งตรวจสอบบริษัททัวร์ที่ทำผิดกฎหมาย จะนำมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป แต่มีบริษัททัวร์อีกมากที่ทำตามกฎหมาย เลยไม่อยากให้กระทบภาพรวมของคนไทย อาจมี ๑-๒ เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ต้องมากวดขัน เพื่อให้ชัวร์ว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายพม.โร่ขอโทษแจกเงินไม่ทั่วถึงอีกเรื่อง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีเกิดความเข้าใจผิดในเงื่อนไขสำคัญพิจารณาเงินครอบครัวอุปถัมภ์สำหรับการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุยากจนที่ไม่ได้ให้ทุกคนว่า ขออภัยหากการให้ข่าวจากอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ทำให้เกิดความสับสน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ ๑๕ พ.ค. จะเปิดรับคำขอรับเงินครอบครัวอุปถัมภ์เพื่อดูแลผู้สูงอายุ สามารถยื่นขอรับสิทธิตามภูมิลำเนาได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุหรือ พม.จังหวัด โดยงบปี ๒๕๖๗ ได้รับสนับสนุนมาเพียง ๑,๑๐๗ ครอบครัว ไม่ครอบคลุมทุกคน และงบปี ๒๕๖๘ ได้รับงบเพิ่มมากขึ้น โดยเงื่อนไขขอรับเงินครอบครัวอุปถัมภ์ ต้องดูแลผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน ไม่มีผู้ดูแลถูกทอดทิ้งเพียงลำพัง ผู้ดูแลไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เช่น บุตรหรือญาติไม่มี หรือมีรายได้ไม่เพียงพอ หรือต้องลาออกจากงานมาดูแล และต้องดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด ๒๔ ชั่วโมง ผู้สูงอายุที่รอคิวเข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ หรือสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือมูลนิธิที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายนั้น สามารถขอรับเงิน ๒,๐๐๐ บาทได้ แต่หากครอบครัวใดมีความจำเป็นมากกว่านั้น อาจได้ถึง ๓,๐๐๐ บาทต่อครอบครัว และได้ทุกเดือน แม้ข้ามปีงบประมาณก็ยังได้รับอยู่ แต่สิทธิเหล่านี้จะหมดไปต่อเมื่อผู้สูงอายุเสียชีวิต หรือมีลูกหลานรับไปดูแล กรมคุกร่อนเอกสารโต้ “หมอวรงค์”วันเดียวกันกรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าว นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรมราชทัณฑ์ ช่วยเหลือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ต้องติดคุก โดยยืนยันดำเนินการเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม กฎระเบียบและกฎหมายใน ๕ ประเด็น ๑.การส่งตัวนายทักษิณ รักษาที่ รพ.ตำรวจ เพราะจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ๖๐๘ (สูงอายุและมีโรคประจำตัว) ๒.การส่งตัวไป รพ.ตำรวจไม่ผิดกฎกระทรวง เพราะดำเนินการตามมาตรฐานการรับตัวได้ จัดให้อยู่ในสถานพยาบาลแดน ๗ และสังเกตอาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ๓.เรื่องการตัดผมผู้ต้องขัง กรณีนายทักษิณ เป็นระยะเวลาที่อยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์ ๔.การจัดให้อยู่ห้องพิเศษชั้น ๑๔ ต่อเนื่อง ๑๘๐ วัน สถานพยาบาลที่ทำการรักษาจัดให้ตามแผนการรักษาของแพทย์ และ ๕.นายทักษิณเข้าคุณสมบัติที่ได้รับประโยชน์จากการพักการลงโทษ อายุ ๗๐ ปีขึ้นไป ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือช่วยเหลือตัวเองได้น้อย ตามแบบเกณฑ์การประเมินโดยประเมินตามสภาพข้อเท็จจริงที่ได้พบเห็นในช่วงระยะเวลาขณะนั้นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่