Thursday, 19 December 2024

คณะรัฐมนตรีไม่กล้าฟันธงเงินดิจิทัล

ก็ต้องบอกว่า รอเก้อ เมื่อ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีคลัง นำทีมหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลแถลงข่าวใหญ่ “ดิจิทัลวอลเล็ต” หลังการประชุม คณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลโดยสรุปว่า ที่ประชุม ครม. “รับทราบ” ผลการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริง และความเห็นของคณะทำงานได้ “เห็นชอบรับหลักการ” กรอบโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ แนวทางเข้าร่วมโครงการของประชาชน เงื่อนไขการใช้จ่าย ประเภทสินค้า การลงทะเบียนร้านค้า รวมถึงแหล่งเงินในการดำเนินโครงการซึ่ง กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ (ธ.ก.ส.) และ สำนักงบประมาณ จะ “ศึกษารายละเอียดต่อไป” เป็นอันว่า มติ คณะรัฐมนตรีที่นายกฯแถลงเป็นเพียงมติรับหลักการเพื่อให้ ๓ หน่วยงานศึกษารายละเอียดต่อไป แต่ “ไม่กล้าฟันธง” ลงไปเลยว่า จะแจกเงินดิจิทัล ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทวันไหน จะนำเงินจาก ๓ แหล่งที่รัฐบาลเคยแถลงมาแจกหรือไม่ ได้แต่บอกกว้างๆว่าจะแจกไม่เกินไตรมาส ๔ เหมือนเดิมแถลงจบ นายกฯเศรษฐา ก็ตัดบทเรื่องเงินดิจิทัลทันที ให้ถาม คุณจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยคลังแทน ทำให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมแถลงข่าวถึงกับหัวเราะคุณจุลพันธ์ รัฐมนตรีช่วยคลัง ตอบคำถามถึง เหตุผลที่ คณะรัฐมนตรียังไม่กล้าฟันธงเคาะวันแจกเงินดิจิทัลที่ชัดเจน ว่า ยังเคาะไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ (ซูเปอร์แอป) ด้วย โดยเฉพาะเรื่อง ความเสถียรภาพของแอปพลิเคชัน ความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลของประชาชนและราชการ รวมถึงการทำตัวเลขต่างๆต้องมีความมั่นคงปลอดภัย ถ้าเร่งเกินไปโดยไปกำหนดเวลา ถึงเวลาแล้วเกิดปัญหาเราปฏิบัติไม่ได้ จึงต้องคงตามกรอบเดิม ลงทะเบียนไตรมาส ๓ เปิดใช้ในไตรมาส ๔ ประเด็นเรื่อง การใช้เงิน ธ.ก.ส.ก็ต้องส่งให้คณะกฤษฎีกาพิจารณา เรื่อง มาตรา ๒๘ พระราชบัญญัติวินัยการเงินคลัง จะรอต้นงบประมาณเดือนตุลาคมจึงจะพิจารณาผ่านบอร์ดและ คณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ระหว่างนี้ก็ประชุมหารือในรายละเอียด รวมทั้งการสอบถามกฤษฎีกาสรุปโดยสรุปก็คือ สาเหตุที่ คณะรัฐมนตรียังฟันธงแจกเงินดิจิทัลไม่ได้ ล้วนเป็นเรื่องเก่า เรื่องถามกฤษฎีกาก็เคยถามมาแล้ว ปัญหาที่เป็นข้ออ้างใหม่ก็คือ Super App ที่ใช้งบประมาณพัฒนาสูงถึง ๑,๐๐๐ ล้านบาท (คงยังไม่รวมระบบ Blockchain) เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อในอนาคต เช่น ลูกค้าธนาคาร เพื่อเข้าสู่ “ระบบดิจิทัลวอลเล็ต” จะสามารถใช้ได้ทันในไตรมาส ๔ ส่วนแอป “เป๋าตัง” ก็ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่รัฐบาลกำลังดูอยู่นี่คือ “เหตุผลเกือบทั้งหมด” ที่รัฐบาลเพื่อไทยแถลง ทำไมยังแจกเงินดิจิทัล ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ให้ประชาชนที่มีอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ใช้กระตุ้นเศรษฐกิจคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท เพื่อสร้าง “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” ไม่ได้ ยังไม่มีใครรู้ว่า ปลายปีจะได้แจกจริงหรือไม่มีแต่คำยืนยันจากปากนายกฯว่า ปลายปี (อีก ๗–๘ เดือน) แจกแน่ แต่ยังไม่รู้วันไหน จนถึงวันนี้ผ่านไป ๗ เดือนแล้ว ที่มาของเงินแจก ๕ แสนล้านบาทก็ยังไม่จบ ต้องถามกฤษฎีกาอีกทีและอีกที Super App ที่จะใช้แจกเงินก็ยังพัฒนาไม่เสร็จ แล้วจะทำให้เกิด “พายุหมุนทางเศรษฐกิจ” ได้อย่างไร ถ้าเป็นสภาพภูมิอากาศจริง วันนี้สภาพอากาศเปลี่ยนไปแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่มีทางเกิดพายุหมุนแล้ว ฤดูกาลเปลี่ยนไปแล้วความจริง ยังมีเหตุผลอีกเยอะ ที่รัฐบาลก็รู้ ฝ่ายค้านก็รู้ นักวิชาการ นักการเงินทั่วไปก็รู้ มีการท้วงติงรัฐบาลด้วยความหวังดี แต่รัฐบาลก็ไม่ฟัง อย่าลืมคิดถึงวันหมดอำนาจด้วยผมเห็นด้วยกับทุกท่านที่ออกมาบอกกับรัฐบาลว่า เลิกใช้วิธีแจกเงินแบบล้างผลาญเถอะ เพราะ ยิ่งแถลงรายละเอียดการใช้เงินก็ยิ่งเห็นชัดเจน สุดท้ายเงินก้อนใหญ่ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทจะตกเข้ากระเป๋าใคร รัฐบาลควรจะทุ่มเงินก้อนนี้ลงไป “สร้างงาน” ให้ประชาชนเพื่อให้ “งานสร้างเงิน” จะดีกว่ามากมาย เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ดีกว่ากอดคอกันจน และมีคนไม่กี่คนที่จะร่ำรวยจากเงินแจกก้อนนี้.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม