เมื่อช้างสารชนกัน อะไรที่มันซ่อนปมอยู่ก็มักจะออกมาตอนนี้แหละ อย่างเหตุเกิดที่ สตช.นั่นประไร ที่เคยเป็นความลับได้แต่พูดกันไปนินทากันไปก็เริ่มจะเห็นความเป็นไปที่กระจ่างขึ้นอย่างที่พูดกันว่าบิ๊กการเมืองนั้นมีอิทธิพลเหนือองค์กรอิสระบางแห่งถึงขั้นว่าสั่งซ้ายหันขวาหันได้ใครจะไปเชื่อ…อย่าง ป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรอิสระเพื่อปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันแต่มาทำผิดเสียเองมันจะเป็นไปได้หรือนักการเมืองที่มีคดีจึงต้องวิ่งขอให้นักการเมืองใหญ่มากบารมีช่วยเหลือสมหวังบ้าง ไม่สมหวังบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไปตามนั้นล่าสุดมีการนำเอกสารที่อ้างว่าหลุดมาเปิดเผยซึ่งเกี่ยวพันไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าได้ช่วยเหลือบุคคลคนหนึ่งจนได้เป็น ๑ ในกรรมการ ป.ป.ช.โดยผ่านนายตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้นั่นทำให้ ป.ป.ช.เสียหายและ “บิ๊กป้อม” ต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้จักคนคนนั้นข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรนั้นอย่างหนึ่งแต่นี้เป็นเบาะแสที่แสดงให้เห็นว่าได้เกิดอะไรขึ้นเพราะคนเรานั้นเมื่อจะจนตรอกก็ต้องสู้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยคบกันหรือ “นายเก่า” ก็ไม่สนทั้งนั้นคนเรานั้นการจะคบหากันหรือการจะไว้วางใจใครสักคนต้องศึกษาให้แน่ใจก่อนว่าคนนั้นจิตใจเป็นอย่างไรนี่ก็เป็นอุทาหรณ์สอนใจคนได้…นับประสาอะไรใจคนแค่ระหว่างคนกับคน ถ้าเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ยิ่งต้องคิดและชั่งใจกว่านี้หลายพันเท่าอย่างรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ใครก็นึกว่าจะสอบถามหรือแจ้งข่าวถึงเรื่องการปรับ คณะรัฐมนตรีที่กำลังฮอตๆอยู่ในเวลานี้แต่ไม่ใช่เลย…นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้ทุกพรรคร่วมมือกันสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลว่าด้วยเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ปรากฏว่า ๖ พรรคร่วมส่งเสียงตรงกันว่า “เต็มที่” ไม่มีปัญหาอีกเรื่องก็คือสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการหนุนให้ทำประชามติ ๓ ครั้ง ซึ่งเป็นหนทางที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จรอดปลอดภัยจากปัญหาต่างๆผลจากการประชุมครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะรัฐบาล “เพื่อไทย” ต้องการรับฟังความเห็นจากทุกพรรคว่ามีมุมมองอย่างไรเพราะ “ดิจิทัลวอลเล็ต” นั้นแม้จะทุบโต๊ะไปแล้วแต่ก็ยังมีปัญหาเพราะยังมีความเห็นต่างจากพวกที่คัดค้าน โดยเฉพาะการจะนำเงินผ่าน ธ.ก.ส.มาใช้ในโครงการนี้ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกพรรคเห็นด้วยกับแนวทางนี้นะเนื่องจากเป็นนโยบายสำคัญของ “เพื่อไทย” ที่พลาดไม่ได้เพราะไปหาเสียงกับประชาชนเอาไว้และไปที่ไหนก็มีแต่คนทวงถามถ้าทำไม่ได้…“เพื่อไทย” คางเหลืองแน่!เมื่อแน่ใจอย่างนี้แล้วนายกรัฐมนตรีจึงมั่นใจได้ว่าหากปลดพันธนาการจากการควบตำแหน่งรัฐมนตรีคลังจะได้ไม่มีปัญหาไม่ต้องห่วงกังวลเพราะว่าที่จริงแล้วในฐานะนายกรัฐมนตรีนั้นมีภารกิจรอบด้านที่จะต้องใส่ใจทั้งแก้ไขและส่งเสริมหากวนอยู่กับเรื่องนี้เรื่องเดียวอาจอยู่ไม่ครบเทอม ๔ ปีก็ได้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
