“ปริญญา เทวานฤมิตรกุล” แนะ กกต.จับตาจ่ายเงินเลือก สว. หวั่น ทำเกิดปัญหายืดเวลาเลือกออกไป เกรงเลือกสะดุด หากเปลี่ยนตัวนายกฯ จะลำบาก มองขั้นตอนเลือกไขว้ ฮั้วกันได้ยากวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗ ที่รัฐสภา นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงกระบวนการเลือก สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น ว่าจะมีผู้สมัครจำนวนมาก ถึง ๒ แสนคน ดังนั้นอาจมีปัญหาและข้อร้องเรียนเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดีตนมองการรณรงค์ของคณะก้าวหน้าต่อการให้ประชาชนสมัครโหวต สว. นั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ เพื่อต้องการเพิ่มผู้โหวตอิสระสู้กับผู้สมัครที่มีการจัดตั้งจากนักการเมืองบ้านใหญ่ในพื้นที่นายปริญญา กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีคนมองว่าการเลือก สว. ครั้งนี้ อาจมีการฮั้วกันที่จะเกิดขึ้น ตนมองว่าด้วยระบบที่ให้เลือกกันเองตาม ๒๐ สาขาวิชาชีพ และเลือกไขว้ ทำให้การฮั้วกันทำได้ยาก แม้ว่าจะมีความพยายามกันในกลุ่มบ้านใหญ่แต่ละจังหวัด อีกทั้งการลงคะแนนให้กันถือว่าไม่ผิดกฎหมาย ยกเว้นจะมีการซื้อเสียงหรือให้ผลประโยชน์ ซึ่งประเด็นดังกล่าวขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบให้ดี ในประเด็นการใช้เงินซื้อเสียง นอกจากนั้นแล้ว กกต.ควรพิจารณาทบทวนค่าสมัครจากเดิมที่กำหนดค่าสมัครที่ ๒,๕๐๐ บาท เหลือ ๕๐๐ บาท เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการสมัครและสมัครได้มากขึ้นเมื่อถามว่ามองประเด็นการฮั้วกันหรือการยื่นเรื่องให้พิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะทำให้การเลือกของสว.สะดุดหรือไม่ นายปริญญา กล่าวว่า อาจมีประเด็นเกิดขึ้นได้ ทั้งใน ๒ กรณี แม้ตามกติกา กกต.มีอำนาจประกาศผลภายในระยะเวลา ๒ เดือน แต่เป็นกรณีที่ไม่มีปัญหา แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้น เช่น การร้องเรียนตั้งแต่ระดับอำเภอที่มีผู้สมัครจำนวนมาก จะดำเนินการอย่างไร เพราะมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีบางกลุ่มบางคน ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าบทเฉพาะกาลการเลือกนายกรัฐมนตรียังอยู่หรือไม่ แม้ว่าตามรัฐธรรมนูญจะกำหนดว่าบทเฉพาะกาลจะหมดอำนาจลงไป ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าระหว่างรอยต่อ สว. สองชุดนี้ จะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้ใช่หรือไม่ อ.ปริญญา ระบุว่า สื่อมวลชนคงจะคาดการณ์เองได้ ว่าเรื่องแบบนี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้หรือไม่ อ.ปริญญาย้ำว่าจากนี้ไปการเมืองควรกลับสู่ภาวะปกติ การเลือกนายกรัฐมนตรีควรจะมาจากเสียงของสภาผู้แทนราษฎร
