ไม่มีบอร์ดเลิกสัญญาไม่ได้ ขสมก.โต้แก้รถ NGV ล่าช้า

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการขสมก. เปิดเผยกรณีประธานสหภาพฯ ขสมก.ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ร้องเรียนให้ปลดหรือย้ายตนและตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบ กรณีรถโดยสาร NGV ๔๘๖ คัน จอดเสียและการบริหารงานล้มเหลว ทำให้ ขสมก.เสียหายนั้น ว่ากรณีรถเมล์ NGV ยี่ห้อบอนลัคคัน ๔๘๖ คัน เริ่มจอดเสีย ตั้งแต่วันที่ ๒๙ ธันวาคม๒๕๖๖ นั้น พบว่า เอกชนไม่มีทีมช่างมาตรวจสอบรถ และยืนยันความพร้อมความปลอดภัยของรถได้ ซึ่งตามสัญญาระหว่าง ขสมก.กับ บริษัท ช ทวี ระบุว่าเอกชนต้องส่งมอบรถ NGV ให้ ขสมก.ทุกวัน โดยต้องเป็นรถที่มีสภาพความพร้อมใช้งาน ซึ่ง ขสมก.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยในวันที่ ๓๐ และ ๓๑ ธันวาคม๒๕๖๖ ได้เร่งให้เอกชนเพื่อให้ดำเนินการตามสัญญา และในวันที่ ๑๗ มกราคม๒๕๖๗ ได้เชิญบริษัท ช ทวี จำกัด และ บริษัทสแกน อินเตอร์ จํากัด มาหารือและเร่งรัดให้แก้ไข โดยทางบริษัท ช ทวี แจ้งว่าขอเวลาแก้ไขภายใน ๓ สัปดาห์ เพื่อให้รถ NGV ๔๘๖ คัน ออกวิ่งให้ได้ เมื่อครบ ๓ สัปดาห์ ปรากฏว่ารถ NGV วิ่งได้เพียง ๘๐ คันเท่านั้น ขสมก.จึงแจ้งเอกชนเพื่อเร่งรัดแก้ปัญหาอีกครั้งนายกิตติกานต์ กล่าวว่า สำหรับการบอกเลิกสัญญาที่ไม่สามารถทำได้ในขณะนั้น เนื่องจากสัญญาข้อ ๒๑.๒ ระบุว่ากรณีคู่สัญญาทำให้ ขสมก.เสียหาย ขสมก.มีสิทธิ์บอกยกเลิกสัญญาได้ โดยตามขั้นตอนจะต้องเสนอบอร์ด ขสมก. พิจารณา แต่ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์๒๕๖๗ ยังไม่มีการแต่งตั้งบอร์ด ขสมก.ทำให้ยังไม่สามารถบอกยกเลิกสัญญาได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการแต่งตั้งบอร์ด ขสมก. ได้ประชุมครั้งแรกวันที่ ๕ มีนาคม๒๕๖๗ โดยมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการด้านกฎหมายและให้พิจารณากรณีการบอกเลิกสัญญา ซึ่งคณะกรรมการฯประชุม ๔ ครั้ง มีความเห็นให้ ขสมก.บอกเลิกสัญญาและนำเสนอบอร์ด ขสมก. ในการประชุมวันที่ ๑๙ เม.ย. ๒๕๖๗ บอร์ดจึงให้ ขสมก. ยกเลิกสัญญา ตามข้อ ๒๑.๒ ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ ขสมก.จะทำหนังสือถึง บริษัท ช ทวี บริษัท สแกน อินเตอร์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าปรับ การริบหลักประกันสัญญา วงเงิน ๔๐๐ ล้านบาท และเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่