นายกรัฐมนตรี ยอมรับต้องปรับตัวเรื่องการสื่อสาร เพราะพูดไปแล้วคนคาดหวัง ชี้ มีหลายเรื่องติดข้อกฎหมาย เผย เตรียมใจมาแต่ต้น บริหารประเทศไม่เหมือนบริหารธุรกิจ ส่วนดิจิทัลวอลเล็ต ต้องออกเป็น พระราชบัญญัติเงินกู้ ยังรอคำตอบจากกฤษฎีกาหลังปีใหม่วันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการวัด KPI ของตนเอง ว่า ก็เซตอัพของตน มีไทม์ไลน์ว่าในระยะสั้นต้องการอะไร ต้องการให้ใครมาลงทุนบ้าง น้ำต้องไม่ท่วม ซึ่งเป็นความโชคดีที่ปีนี้ประเทศเราไม่ค่อยเกิดปัญหาน้ำท่วม มีแค่พื้นที่ภาคใต้ที่ค่อนข้างหนัก แต่ที่เห็นได้ชัดคือจังหวัดอุบลราชธานี ท่วมน้อยลงกว่าทุกปี จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อ เป็นเพราะฝนน้อยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “นั่นไง ก็ดีครับ ที่ทำให้ผมไม่ต้องเข้าข้างตนเอง ผมก็ได้ไปกำกับดูแลสั่งการด้วยตนเองที่กรมชลประทานว่าหากท่วม แต่ก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะฝนแล้ง” เมื่อถามว่าจากนักธุรกิจก้าวเข้ามาเป็นนักการเมือง ปรับตัวอย่างไร นายเศรษฐา ระบุว่า มีการปรับทุกเรื่อง และยอมรับได้เตรียมใจมาแล้วว่าการทำงานในภาคราชการจะต้องติดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและกรอบเวลา ซึ่งจะมีหลายเสาหลักเข้ามามีส่วนในการตรวจสอบ เพราะฉะนั้นมันไม่ง่าย มีองค์กรอิสระที่เราต้องให้ความเคารพที่อาจจะต้องมีข้อสงสัย เป็นเรื่องธรรมดานายกรัฐมนตรีต้องเตรียมพร้อมและเตรียมตัว เพราะฉะนั้นเรื่องของความคาดหวังในการแก้ไขปัญหาต่างๆ บางครั้งปากก็พูดไปแล้ว แต่มีขั้นตอนอีกหลายขั้นตอนกว่าจะทำได้ ต้องระมัดระวังตรงนี้ เพราะเวลานายกรัฐมนตรีพูดคาดหวัง และหากเขาคาดหวังแล้วทำไม่ได้ก็จะเกิดความผิดหวังขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการปรับเรื่องของความเป็นไปได้และการพูดให้สอดคล้องกันผู้สื่อข่าวถามต่อ เช่นเดียวกับเรื่องของเงินดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ที่คนคาดหวังเยอะ โดยนายกรัฐมนตรี ตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ครับๆ” ส่วนคำถามว่าเพราะไม่มีอยู่ในงบประมาณปี ๒๕๖๗ คนจึงกลัวว่าจะไม่ได้นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเพราะต้องออกเป็น พระราชบัญญัติเงินกู้ ตอนนี้ยังรอคำตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาในช่วงหลังปีใหม่ ๒๕๖๗
