ผบ.ตร. นำคณะลงพื้นที่ประสบอุทกภัยในอ.รามัน จ.ยะลา เยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพล พร้อมมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้าน ชี้โรงพักสามารถให้เป็นศูนย์กลางให้กระจายสิ่งของให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ เล็งส่งตำรวจน้ำช่วยฝึกตำรวจภูธรวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจท่าธง หลังใหม่ ม.๔ ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญข้าราชการตำรวจและครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เมื่อวันที่ ๒๕ ธ.ค. ๖๖ ที่ผ่านมา ผลจากอุทกภัยทำให้น้ำท่วมกว่า ๒ เมตร ที่ทางเข้าออก สภ. รวมทั้ง บริเวณแฟลตตำรวจ เกิดความลำบากเป็นอย่างมาก ได้รับความเดือดร้อนทั้งกำลังพลตำรวจที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ และภาคประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน ๖๐ ถุง ให้แก่ ข้าราชการตำรวจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจ นอกจากนี้ยังได้มอบถุงยังชีพให้แก่ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จากนั้นทางคณะผบ.ตร. ได้เดินทางต่อไปยังจุดตรวจตำรวจ จะรังตาดง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดแรกระยะทาง ๗ กม. ที่ตั้งสถานีตำรวจท่าธง หลังเก่า มอบสิ่งของช่วยเหลือกำลังพลข้าราชการตำรวจ จำนวน ๒๐ นาย มอบถุงยังชีพ ๓๐๐ ชุด ให้แก่พี่น้องประชาชน บ้านจะรังตาดง ซึ่งอยู่บริเวณรอบจุดตรวจ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย นอกจากนี้ ยังได้ประกอบอาหาร บนรถครัวสนาม ภ.๙ เพื่อเลี้ยงประชาชน ในพื้นที่อีกด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ว่า จริงๆ ดูมาตั้งแต่มีเหตุอุทกภัยแล้ว ซึ่งมีบทเรียนตั้งแต่ปี ๕๔ เวลาตำรวจเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถออกมาได้ และได้ให้ข้อคิดว่า คนป่วย เด็ก คนสูงอายุ ต้องออกมาก่อน เพราะจะเป็นภาระมากเวลาน้ำท่วมสูงและจะต้องเข้าไปช่วยทีหลัง ถ้าเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะเป็นแผนที่จะต้องมาวางร่วมกันหลายหน่วยงาน ซึ่งวันนี้ก็ได้มูลนิธิ หน่วยราชการ โดยอย่างยิ่งโครงการจิตอาสา โดยท่านผู้อำนวยการใหญ่ศูนย์จิตอาสาหลักให้ความสำคัญ สั่งการมา ให้ลงมาดู”ตอนนี้ น้ำเริ่มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากนี้การเยียวยา เข้าซ่อมแซมจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ก็จะต้องนำกำลังของจิตอาสามาช่วยซ่อมด้วย จากที่ได้ดูที่หลับที่นอนเสียหายหมด ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนหลายๆ ส่วน รวมถึง หน่วยราชการจัดสรรงบมาดูแล ในส่วนของข้าราชการตำรวจ เราโฟกัสที่ประชาชน ซึ่งพอเราไปดูข้าราชการตำรวจแทบทุกอำเภอทุกตำบลครอบครัวเขาเดือดร้อนเหมือนกัน ส่วนหนึ่งเราก็มาดูแลพี่น้องข้าราชการของเราด้วย ครอบครัวเขาเดือดร้อน ต่อไปหลังจากนี้พื้นที่ที่เราเข้าไม่ถึง สถานีตำรวจก็น่าจะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสิ่งของไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตอนนี้ได้พูดคุยกับหัวหน้าหน่วยเบื้องต้นแล้ว น้ำมารอบนี้ เป็น ๕๐ ปี ที่หนักที่สุดก็พยายามจะลงมาเป็นขวัญกำลังใจด้วย มาดูความเป็นอยู่ของข้าราชการตำรวจและพี่น้องรอบโรงพักด้วย หลังจากนี้จะจัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลือข้าราชการตำรวจ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่โรงพัก เพื่อไม่ให้เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก รวมถึงจะส่งตำรวจน้ำมาฝึกให้ตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน เพื่อความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ ที่จะเข้าไปช่วยเหลือพร้อมทั้งกำชับให้สวมใส่ชูชีพด้วย”
