“คมนาคม” นำทีมทดสอบเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูจากแจ้งวัฒนะ – ศูนย์ราชการ หลังเกิดปัญหารางจ่ายกระแสไฟของรถไฟฟ้าหลุดร่วงออกจากหมุดยึด พร้อมยืนยันเทสต์แล้วปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างเป็นปกติ ส่วนคืนเคาต์ดาวน์ ๓๑ ธันวาคมนี้ ให้บริการถึงตี ๒เมื่อเวลา ๑๕.๓๐ น. วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ วิศวกรและการก่อสร้าง กรมการขนส่งทางราง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด เดินทางมาตรวจเยี่ยมและทดลองเดินรถ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ๒๘ (PK๐๘) ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด ถึง สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK๐๑) ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมืองนนทบุรี จำนวน ๗ สถานี ประกอบด้วย สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK๐๑) สถานีแคราย (PK๐๒) สถานีสนามบินน้ำ (PK๐๓) สถานีสามัคคี (PK๐๔) สถานีกรมชลประทาน (PK๐๕) สถานีแยกปากเกร็ด (PK๐๖) และสถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด (PK๐๗)tt tttt ttหลังเกิดปัญหารางจ่ายกระแสไฟของรถไฟฟ้าหลุดร่วงออกจากหมุดยึด ตั้งแต่บริเวณหน้าตลาดชลประทานปากเกร็ด ถนนติวานนท์ อ.ปากเกร็ด ต่อเนื่องไปจนถึงใกล้แยกแคราย ในพื้นที่อำเภอเมืองนนทบุรี รวม ๕ สถานี ได้แก่ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK๐๑) สถานีแคราย (PK๐๒) สถานีสนามบินน้ำ (PK๐๓) สถานีสามัคคี (PK๐๔) สถานีกรมชลประทาน (PK๐๕) เป็นระยะทางกว่า ๓ กม.เมื่อวันที่ ๒๔ ธ.ค. จากนั้นได้มีคำสั่งให้หยุดการเดินรถชั่วคราว เพื่อดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุและซ่อมแซมtt ttทันทีที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคมและคณะผู้บริหารของ รฟม. เดินทางมาถึงสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ๒๘ (PK๐๘) ได้ขึ้นไปยังชานชาลาเพื่อรอขึ้นรถไฟฟ้าที่จะเดินทางมาเทียบสถานีในเวลา ๑๕.๔๐ น. เพื่อออกเดินทางจากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ๒๘ (PK๐๘) เพื่อตรวจความพร้อมในการเดินรถ โดยขบวนรถเดินทางสถานีกรมชลประทาน (PK๐๕) ก่อนจะไปยังชานชาลาที่ ๑ เพื่อขึ้นขบวนรถไฟฟ้าขบวนใหม่ เดินทางต่อไปยัง สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK๐๑) โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากร่วมเดินทางในการตรวจสอบเส้นทางtt ttทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ กล่าวว่า จะเปิดบริการให้ประชาชนจะใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางไปกลับวันเคาต์ดาวน์คืนวันที่ ๓๑ ธันวาคม ตลอดสาย โดยจะปิดสถานีประมาณ ๐๒.๐๐ น.โดยรถไฟฟ้าทุกสีจะอำนวยความสะดวกในวันเคาต์ดาวน์ ซึ่งในวันนี้ได้มาตรวจในส่วนของสายสีชมพูเพื่อสร้างความมั่นใจ โดยมีรองปลัดกระทรวง รองอธิบดีกรมราง ผู้ว่า รฟม. และ BTS เองก็ได้มาร่วม การตรวจทดสอบความพร้อม โดยยืนยันว่ารถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความพร้อมและปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างเป็นปกติ จะมีช่วงท้ายอยู่นิดหน่อย ซึ่งไม่ได้มีผลกระทบ ที่จะเป็นทางเดียว เหลือแค่ ๔ สถานีสุดท้ายที่เกิดปัญหาเรื่องรางจ่ายไฟ ไม่ได้มีผลกระทบซึ่งมีผู้โดยสารประมาณ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการซ่อมให้แล้วเสร็จทุกอย่างก็จะเข้าสู่เป็นปกตินายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากสถานีมีนบุรีมาถึงสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ๒๘ ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยเรียบร้อยดี จากสถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด ๒๘ มาถึงสถานีกรมชลประทาน ก็สามารถใช้งานได้เป็นปกติ ส่วนอีก ๔ สถานีสุดท้ายได้แก่สถานีสามัคคี สถานีสนามบินน้ำ สถานีแครายและศูนย์ราชการนนทบุรี จะเปิดการเดินรถฝั่งเดียว โดยเพิ่มความถี่ในการเดินรถประมาณ ๑๕-๒๐ นาที ผู้โดยสารที่ใช้บริการใน ๔ สถานีนี้ถ้าเดินทางต่อจะต้องเปลี่ยนรถที่สถานีกรมชลประทาน จากนั้นเป็นปกติ tt ttในส่วนของตัวยึดรางจ่ายไฟขณะนี้ได้ส่งมาทางเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวรางจ่ายไฟจะถอดออกแล้วก็เปลี่ยนใหม่ ขณะนี้กำลังเดินทางส่งมาทางเรือ จะใช้ของที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุดเพื่อเปิดบริการให้เร็วที่สุด โดยใช้รางเก่าที่เสียหายแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ภายในวันที่ ๑๕ มกราคมน่าจะแล้วเสร็จ แต่ถ้าใช้ของเก่าไม่ได้ต้องรอของใหม่ที่กำลังส่งมาทางเรือ น่าจะไม่เกินปลายเดือน tt ttส่วนค่าโดยสารก็เป็นไปตามที่ตกลงไว้กับผู้ประกอบการและแจ้งประชาชนให้ทราบไปแล้ว ที่ผ่านมา ๒๗ สถานี รถไฟวิ่งให้บริการเป็นปกติ ส่วนที่ขาดไป ๗ สถานี จะชดเชยให้โดยการยืดระยะเวลาให้ และ ๒๖ สถานีจะวิ่งแบบ full option ไปกลับจากสถานีมีนบุรีถึงสถานีชกรมชลประทาน ส่วน ๔ สถานีที่เหลือจะไม่คิดค่าบริการนั้นถือว่าเป็นบริการฟรี นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่ช่วยกันแก้ปัญหา หลังจากเกิดเหตุขึ้น พร้อมยืนยันว่าระบบของรถไฟฟ้าสายสีชมพูนั้นมีความปลอดภัยจริง
