โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลเปิดช่องทางการแพทย์ทางไกลสำหรับคนไทยในต่างประเทศ ให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองเข้าใช้ Telemedicine เพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗วันที่ ๔ ม.ค. นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้กำหนด “แนวทางการจัดระบบบริการเพื่อดูแลคนไทยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง ๓๐ บาท) ในต่างประเทศผ่านระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)” ดูแลคนไทยผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพที่อาศัยในต่างประเทศ หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศ ให้เข้าถึงการบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มีคุณภาพและมาตรฐานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สอดคล้องกับมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่กำหนดไว้ว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ซึ่งครอบคลุมถึงคนไทยผู้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ หรือต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า Telemedicine ดำเนินงานภายใต้แนวคิดการให้บริการผู้ป่วยได้ทุกที่ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใด พร้อมทั้งมุ่งขยายการให้บริการให้ครอบคลุมคนไทยในต่างประเทศ เพื่อช่วยลดอุปสรรคให้แก่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพในต่างประเทศ ที่เผชิญกับปัญหาทางด้านภาษาและการสื่อสารเมื่อเกิดภาวะเจ็บป่วยและต้องเข้ารับบริการสาธารณสุขในประเทศนั้นๆ โดยบุคลากรทางการแพทย์ไทยจะให้บริการ Telemedicine ในกรณีที่ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (common illness) เพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาด้านสุขภาพ และคัดกรองอาการป่วยเบื้องต้นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า คนไทยในต่างประเทศสามารถเข้าใช้ Telemedicine ด้วยโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ผ่าน ๔ แอปพลิเคชันที่ร่วมมือกับ สปสช. ในการเป็นหน่วยบริการให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ ได้แก่ Saluber MD Clicknic Mordee และ Totale Telemed โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลได้ที่เว็บไซต์สปสช. ไลน์ OA สปสช. @nhso และแอปพลิเคชัน สปสช. และใช้หนังสือเดินทาง หรือเลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก ในการยืนยันตัวตนการใช้สิทธิในการขอรับบริการ“นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีมุมมองความคิดที่ต้องการดูแลด้านสาธารณสุขแก่ประชาชน พร้อมกับการขับเคลื่อนระบบการให้บริการดิจิทัลสุขภาพ (Digital Health) โดยถือเป็นความสำเร็จอีกขั้น ในการสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และไร้ข้อจำกัดของเวลาและพื้นที่” นายชัย กล่าว