ศึกอภิปรายงบประมาณรายจ่าย ปี ๒๕๖๗ มูลค่า ๓.๔๘ ล้านล้านบาท ถือเป็นงานรับน้องใหม่อย่างเป็นทางการเกจิการเมืองคาดว่า “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” จะเจออาวุธหนักจากฝ่ายค้านจนอ่วมอรทัยแต่ปรากฏว่าฝ่ายค้านซึ่งนำโดยพรรคก้าวไกล ไม่ได้กระหน่ำโจมตีรัฐบาลดุเดือดเลือดสาดอย่างที่คาดกันนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านป้ายแดงจากพรรคก้าวไกล อภิปรายจี้จุดอ่อนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ดีพอสมควรส่วน สส.ฝ่ายค้านที่อภิปรายได้แหลมคมน่าสนใจที่สุดก็คือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ขุนพลเบอร์ใหญ่พรรคก้าวไกลเมื่อฝ่ายค้านยังไม่ได้เปิดฉากบดขยี้รัฐบาลเต็มคาราเบล บรรยากาศในสภาฯ จึงเดินหน้าไปอย่างราบรื่น ไม่มีการประท้วงขัดจังหวะจนชุลมุนวุ่นวายอย่างที่ผ่านมาฝ่ายนายกฯเศรษฐาและรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็อภิปรายชี้แจงฝ่ายค้านด้วยความสุภาพนุ่มนวลทำให้การอภิปรายร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณปี ๒๕๖๗ ไม่ออกนอกลู่นอกทางแต่ “แม่ลูกจันทร์” ขออนุญาตแหย็มเพิ่มเติมอีก ๕ ประเด็น๑. ร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ เป็นผลงานของรัฐบาลลุงตู่ที่จัดทำไว้แล้วกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ทำให้งบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ เป็น “เหล้าเก่าในขวดใหม่” อย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านอภิปรายในสภาฯ๒. การจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ต้องจัดทำตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ซึ่งเขียนบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญทำให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี ๒๕๖๗ ไม่สอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้แถลงต่อสภาฯและไม่ตอบสนองความต้องการของประชาชน!!๓.งบผูกพันจากโครงการต่างๆ ในยุครัฐบาลลุงตู่ยังเป็นมรดกตกทอดมาถึงรัฐบาลเศรษฐาต้องรับภาระแบกหามต่อไปจะยกเลิกก็ไม่ได้ จะเปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ทุกกรณี!!งบผูกพันก้อนโตมโหฬารที่ตกทอดจากรัฐบาลเก่า ทำให้การจัดทำงบประมาณรัฐบาลใหม่ดิ้นไม่หลุดจากงบรายจ่ายรัฐบาลเดิม๔. ภาระหนี้สินที่รัฐบาลลุงตู่ทิ้งไว้ ทำให้ต้องแบ่งเม็ดเงินไปผ่อนชำระหนี้รัฐบาลถึง ๑๐ เปอร์เซ็นต์ของยอดงบประมาณพูดง่ายๆ ทุก ๑๐๐ บาท ต้องใช้หนี้ ๑๐ บาท ตามกติกาปี ๒๕๖๗ รัฐบาลเศรษฐาต้องผ่อนใช้หนี้รัฐบาลลุงตู่กว่า ๓.๔๖ แสนล้านบาท สูงเป็นประวัติการณ์แยกเป็นผ่อนชำระหนี้เงินต้น ๑.๑๘ แสนล้านบาทที่เหลืออีก ๒.๒๘ แสนล้านบาทเป็นการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้อย่างเดียวยังไม่รวมงบชดใช้เงินคงคลังอีก ๑.๑๗ แสนล้านบาท ที่รัฐบาลก่อนล้วงไปใช้แก้ขัดหนักขัดเบาสรุปว่าภาระรายจ่ายที่ติดค้างอีนุงตุงนัง ทำให้เหลืองบลงทุนเพียง ๗.๗๗ แสนล้านบาท หรือ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ของวงเงิน๕. “งบจ่ายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ” กลายเป็นรายจ่ายประจำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและกำลังจะแซง “งบจ่ายเงินเดือนข้าราชการ” แล้วนะโยม. “แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม
Related posts