Saturday, 19 October 2024

เปิดตำนาน "วัดเขาถ้ำแกลบครบุรี" แกลบปริศนาไหลจากช่องหินไม่ทราบที่มา

เปิดตำนาน “วัดเขาถ้ำแกลบครบุรี” จ.นครราชสีมา สุดประหลาด “แกลบ” ปริศนาไหลออกจากช่องหินไม่ทราบที่มา วันที่ ๗ ม.ค. ๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วัดเขาถ้ำแกลบ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแกลบ บ้านสระหลวง หมู่ที่ ๑๓ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เป็นวัดที่มีเรื่องราวแปลกประหลาดเล่าขานสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เนื่องจากมีสถานที่ทางธรรมชาติที่สุดพิสดารอย่างก้อนหินขนาดใหญ่น้ำหนักหลายร้อยตัน มีลักษณะบานแป้น ด้านบนเป็นรูปวงรีเส้นรอบวงไม่น้อยกว่า ๕๐ เมตร แต่ก้อนหินส่วนล่างนั้น ลดหลั่นความกว้างลงเหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง แต่ก็ยังสามารถตั้งตระหง่านอยู่ใจกกลางผืนป่ามานานหลายร้อยปี มองดูคล้ายนกตัวใหญ่นอนซุ่มอยู่กลางป่า  tt ttที่สำคัญที่ฐานหินก้อนนี้ยังมีช่องขนาดเล็กที่ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่าจะมีแกลบจำนวนมากไหลออกมาจากช่องใต้หินก้อนนี้ โดยไม่ทราบที่มา ทั้งๆ ที่จุดนี้เป็นยอดภูเขาสูงห่างไกลจากแหล่งปลูกข้าวทำนาเกือบ ๑๐ กิโลเมตร และปัจจุบันก็ยังคงมีเศษซากแกลบหลงเหลือให้ได้เห็นอยู่ในร่องหินดังกล่าว และด้วยเรื่องราวเล่าขานนี้ทำให้จุดนี้มีชื่อว่าเขาถ้ำแกลบ ก่อนจะมีการก่อสร้างวัดและตั้งชื่อว่าวัดเขาถ้ำแกลบมาจนถึงทุกวันนี้tt ttนายสุริยงค์ ภาษี อายุ ๔๕ ปี ผู้ใหญ่บ้านสระหลวง เล่าให้ฟังว่า หินซึ่งเป็นต้นกำเนิดของตำนานเล่าขานเขาถ้ำแกลบบอกว่า ชาวบ้านรุ่นก่อนๆ เล่ากันต่อๆ มาว่า บริเวณช่องด้านล่างหินก้อนนี้นั้น เดิมทีจะมีแกลบจำนวนมากไหลออกมากองอยู่ด้านนอก คล้ายกับว่าหินก้อนนี้มีแกลบอยู่ข้างใน เมื่อเอาออกมาก็จะไหลลงมาเรื่อยๆ แต่เวลาผ่านมานานเข้า มีคนทราบข่าวก็เดินทางเข้ามาดูแล้วนำแกลบติดตัวกลับไปด้วยความที่เชื่อว่าเป็นสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ เพราะจุดนี้เป็นยอดเขา อยู่กลางป่า ไม่น่าที่จะมีใครนำเอาแกลบมาทิ้งเอาไว้ใต้ก้อนหินขนาดใหญ่อย่างนี้ได้ ซึ่งคิดว่าน่าจะนำไปบูชาตามความเชื่อของแต่ละบุคคล   tt ttแต่มาถึงรุ่นของตนเองก็พบว่าแกลบที่ว่านี้ได้หายไปเกือบหมด เพราะมีคนมาเก็บเอาไปไม่ขาดสาย จนเหลือให้เห็นร่องรอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนที่เห็นอยู่ตอนนี้ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นแกลบใหม่ที่อาจจะมีใครนำมาทิ้งเอาปะปนไว้ก็เป็นไปได้ tt ttอย่างไรก็ตามถือว่าเป็นเรื่องราวที่แปลกประหลาด และยังไม่มีใครหาคำตอบได้ว่า แกลบที่ว่านี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำให้เขาถ้ำแกลบแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ลี้ลับแห่งหนึ่งของอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา มาจนถึงทุกวันนี้.

Related posts