Thursday, 19 December 2024

“จุลพันธ์” บ่ยั่น สว.ยื่นซักฟอก หลัง "กฤษฎีกา" ไฟเขียวกู้ "ดิจิทัลวอลเล็ต"

“จุลพันธ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง บ่ยั่น สว.จ่อยื่นซักฟอก มั่นใจรัฐบาลพร้อมชี้แจง หลัง “กฤษฎีกา” ไฟเขียวกู้ ๕ แสนล้าน ทำดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาทได้ แต่มีเงื่อนไข “เป็นวิกฤติหรือไม่-ความคุ้มค่า-ต้องรับฟังความคิดเห็นรอบด้าน”เมื่อเวลา ๑๕.๕๐ น. วันที่ ๘ ม.ค. ๒๕๖๗ ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมร่วมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี ๒๕๖๗ ถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตอบคำถามของกระทรวงการคลัง ว่า ยืนยันว่าสามารถออก พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทได้ แต่ทางกฤษฎีกามีการข้อสังเกต และข้อเสนอแนะให้ปฏิบัติตามมาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๗ ของ พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง ในเรื่องของความคุ้มค่าของโครงการ เพราะจะต้องมีการประเมินผลได้ทั้งก่อน และหลังทำโครงการ ในเรื่องของกลไกที่จะเป็นไปตามข้อกฎหมายตามมาตรา ๕๓ คือเรื่องนี้จะเป็นวิกฤติหรือไม่ ซึ่งก็เป็นภาระหน้าที่ของทางกระทรวงการคลัง และถือเป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายจะดำเนินการให้ครบถ้วนด้วยรมช.คลัง กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอแนะคือ เรื่องของการให้รับฟังความคิดเห็นให้รอบด้าน ซึ่งก็คงจะต้องพิจารณาสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้ และคงจะต้องมีการเชิญประชุมคณะกรรมการนโยบาย เพื่อที่จะเชิญทุกฝ่ายมา และก็คงต้องรบกวนทางเลขาธิการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการให้นำเสนอต่อที่ประชุม เพื่อให้ทุกคนทราบถึงคำตอบของคณะกรรมการกฤษฎีกา และสรุปให้ที่ประชุมฟังด้วยว่า ในความเห็นนั้นๆ มีความหมายและควรจะดำเนินการอะไรต่อ พวกเราก็ในฐานะกรรมการนโยบายหลังจากประชุมกันแล้ว ก็คงจะต้องมีมติว่าเราจะดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไร ซึ่งถือว่าเป็นไปได้ด้วยดี อยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ที่ทำได้ แต่เมื่อมีข้อเสนอแนะมา เราต้องรับฟัง ทั้งนี้เรายังพยายามยืนยันว่ากรอบเวลาจะต้องเป็นไปตามกรอบเดิม คือเป้าหมายเดิมในเดือน พ.ค. ณ ขณะนี้ยังไม่มีเหตุให้เลื่อนเมื่อถามว่า โครงการนี้จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า กลไกของดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นหลัก ไม่ใช่โครงการสงเคราะห์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม เพื่อให้ภาวะเศรษฐกิจประเทศไทยกลับไปสู่ระดับการเติบโตที่เต็มศักยภาพ นี่คือจุดมุ่งหมายของรัฐบาลนะครับ ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เราก็ได้แสดงความเป็นห่วงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วว่ามีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นที่ค่อนข้างเร็ว และสูง ซึ่งเกิดกระทบกับพี่น้องประชาชนในวงกว้าง เมื่อมีตัวเลขในเรื่องของผลกำไรของกลุ่มธนาคาร ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นภาระที่ตกกับประชาชน แต่แน่นอนว่ากลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมันแบ่งแยกกันทั้งส่วนของรัฐบาล และธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อถามอีกว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต สว.จะขอยื่นอภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๓ หรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิและหน้าที่ ซึ่งตนยินดี เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ชี้แจง และทำความเข้าใจอยู่แล้ว.