หญิงวัย ๓๖ ปี ที่ประจวบคีรีขันธ์ แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสอง ขี่จยย.ออกตระเวนตามวัด หาเงินทำทานงานบุญต่างๆ พร้อมขอข้าว กับข้าวเหลือจากพระกลับไปกินกับลูก โชคร้ายระหว่างทางขี่รถออกจากถูกปิกอัพพุ่งชนเสียชีวิตคาที่ เวลา ๑๔.๓๐ น. วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๗ พ.ต.ต.พนม หงษ์ทอง สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บนถนนทางหลวงชนบท ปข.๑๐๔๑ ถนนประจวบ-หว้ากอ ไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถานที่เกิดเหตุเป็นสามแยกตัดทางรถไฟบ้านนาทอง หมู่ ๘ บ้านนาทอง ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีสะพานข้ามทางรถไฟเพิ่งก่อสร้างเสร็จ เปิดใช้งานไม่นาน โดยจุดทางสามแยกไม่มีป้ายหรือสัญญาณไฟเตือน พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เรนโบว์สีน้ำเงิน ทะเบียน กบล ๖๖๖ ประจวบคีรีขันธ์ สภาพบังโคลนหน้าแตก ตะกร้าหน้าหลุด มีถุงกับข้าวและอาหารกระจัดกระจายเกลื่อนถนน ใกล้กันพบศพนางมะลิ ภูผา อายุ ๓๖ ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ ๔ บ้านหนองบัว ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาว และกางเกงเก่า มีเลือดไหลนองเต็มพื้น รถจักรยานยนต์ถูกชนกระเด็นไปไกลร่วม ๖๐ เมตรส่วนรถคู่กรณีเป็นรถกระบะสี่ประตู ยี่ห้ออีซูซุสีขาว ทะเบียน กจ ๔๕๕๖ ประจวบคีรีขันธ์ สภาพกันชนด้านหน้ารถแตกได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุคนขับได้ขับรถไปแจ้งเหตุที่โรงพักคลองวาฬ และรอเจรจาค่าเสียหายกับคู่กรณีนางสาวเอ๋ อายุ ๔๐ ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องสาวตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก ๒ คน เลิกกับสามีไป ก่อนเกิดเหตุน้องสาวได้ตระเวนไปตามวัดต่างๆ เพื่อเก็บเงินโปรยทานตามงานบุญ และขอข้าวขออาหารจากวัดกลับมากินกับลูกที่บ้าน เนื่องจากมีฐานะยากจน ขณะเกิดเหตุไม่แน่ใจว่าเดินทางมาจากวัดธรรมิการามเพื่อจะไปวัดคลองวาฬ หรือกลับจากวัดคลองวาฬแล้วนำกับข้าวไปกินกับลูกที่บ้าน แต่ก่อนเสียชีวิตได้นำหลานไปฝากไว้กับตนแล้วมาเกิดอุบัติเหตุ ดังกล่าวด้านคนขับรถกระบะคู่กรณี กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการอยู่ที่อำเภอบางสะพาน เดินทางมาประชุมเกี่ยวกับงานราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แต่เดินทางไปผิดที่ศาลากลางจังหวัด จึงรีบขับรถกลับจากศาลากลางเพื่อไปประชุมที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ เมื่อมาถึงทางสามแยกจุดเกิดเหตุได้ขับรถแซงรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้า ระหว่างนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับออกมาจากข้างทางซึ่งคาดว่าจะกลับบ้าน ในระยะกระชั้นชิดทำให้ตนมองไม่เห็น และเบรกไม่ทันพุ่งชนเข้าอย่างจัง ซึ่งตนรู้สึกเสียใจและพร้อมจะชดใช้เยียวยาดูแลทางฝ่ายผู้เสียหายอย่างเต็มที่
