เมื่อวันที่ ๑๐ ม.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศึกษาธิการ กล่าวในการประชุมสัมมนาคณะอนุกรรมการ ใน อ.กรกฎาคมศ. เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ ผ่านระบบ Zoom Meeting ตอนหนึ่ง ว่า กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะประเด็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาคืนถิ่นนั้น ครูต้องสามารถโยกย้ายกลับภูมิลำเนาได้ด้วยความโปร่งใส ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ปัจจุบันสำนักงาน กรกฎาคมศ.ได้พัฒนาหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูสังกัด กระทรวงศึกษาธิการให้มีความชัดเจน และยืดหยุ่นตามแต่ละกรณี รวมทั้งมีการใช้บทลงโทษอย่างเข้มงวดและเด็ดขาดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากการเรียกรับผลประโยชน์ในการโยกย้ายหรือแต่งตั้ง รวมทั้งได้พัฒนาระบบจับคู่ครูคืนถิ่น Teacher Matching System (TMS) ที่จะใช้เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับการดำเนินการย้ายกรณีปกติในรูปแบบของการย้ายสับเปลี่ยน ซึ่งจะช่วยลดช่องว่างในการทุจริต ระหว่างกระบวนการขอย้ายอีกด้วยด้าน รองศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ กรกฎาคมศ. กล่าวว่า การย้ายสับเปลี่ยนคือ การย้ายสับเปลี่ยนกับตำแหน่งที่มีคนครอง ซึ่งเป็นการย้ายผู้ดำรงตำแหน่งครูด้วยกัน ที่ทำการสอนในสาขาวิชาหรือกลุ่มวิชาหลักตรงกัน เพื่อไปดำรงตำแหน่งเดิมในต่างสถานศึกษาที่เป็นภูมิลำเนาของผู้ขอย้ายสับเปลี่ยน ภูมิลำเนาของบิดาหรือมารดา หรือภูมิลำเนา ของคู่สมรส และเป็นการย้ายในส่วนราชการเดิมผ่านระบบ TMS และสถานศึกษารับย้ายต้องมีอัตรากำลังสายงานการสอนในภาพรวมไม่เกินเกณฑ์ที่ กรกฎาคมศ. กำหนด โดยในระยะเริ่มต้น สำนักงาน กรกฎาคมศ.ได้จัดทำระบบจับคู่ครูคืนถิ่น TMS ทั้งในรูปแบบออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://tms.otepc.go.th และแอป พลิเคชัน TMS ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง android และ ios เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน โดยผู้ที่ต้องการยื่นขอย้ายสับเปลี่ยนผ่านระบบ TMS จะต้องเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัว วิชาที่สอน ระบบจะดำเนินการจับคู่กับครูที่มีคุณสมบัติตรงกันที่กรอกข้อมูลเข้ามาในระบบ จึงจะสามารถเข้าสู่กระบวนการย้ายกรณีปกติได้ และในอนาคตจะมีการพัฒนาระบบสำหรับการย้ายทุกกรณีให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ เพื่อ ให้ครูสามารถใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะเปิด ใช้งานระบบจับคู่ครูคืนถิ่น TMS มอบให้เป็นของขวัญวันครู ปี ๒๕๖๗ เพื่อให้ครูได้ยื่นคำขอร้องย้ายสับเปลี่ยนได้ในช่วงระหว่างวันที่ ๑๖-๓๑ ม.ค. ที่จะถึงนี้.
