โครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในโลกยุคดิจิทัล กสทช.ในฐานะองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นพ.สรณ บุญใบชัยพฤษ์ ประธานบอร์ด กสทช. ได้มอบนโยบายเร่งด่วน ๙ ข้อแก่สำนักงาน กสทช.ดำเนินการภายในปี ๒๕๖๗ เพื่อตอบโจทย์สังคม ๓ ด้าน ได้แก่ ๑.ด้านการแข่งขัน ๒.ด้านบริการสาธารณะ ๓.ด้านการพัฒนาสังคมดิจิทัลด้านที่ ๑ ทำให้เกิดการแข่งขัน ตั้งเป้าให้เกิดธุรกิจ MVNOs (ผู้ให้บริการที่ไม่ต้องมีโครงข่ายเป็นของตัวเอง) เพราะหลังจากที่มีการควบรวมผู้ให้บริการรายใหญ่ ทำให้ประชาชนมีตัวเลือกน้อยลง ขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจโทรคมนาคมตกลงทุกปี(สิ่งที่สภาผู้บริโภคได้สะท้อนให้เห็นความไม่พอใจจากลูกค้า เป็นเพียงแค่ผิวของผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่จากการควบรวมค่ายมือถือจาก ๓ เจ้า เหลือ ๒ เจ้าใหญ่ แต่เกิดจาก สภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับ การคำนวณการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่ผิดพลาด โดยเฉพาะค่าใบอนุญาตที่แพงเกินจริง และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ต่ำ เราเคยเห็นฉากทัศน์นี้แล้วในธุรกิจทีวีดิจิทัล ดังนั้นถ้าไม่ประคับประคองให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ หากเราเหลือผู้ให้บริการมือถือเพียงเจ้าเดียวคือ NT การให้บริการคงยุ่งเหยิงไม่น้อย)การทำให้เกิดธุรกิจ MVNOs จะลดภาระทางการตลาด และฟื้นการลงทุนในนวัตกรรมทางธุรกิจ ทำให้เกิดผู้ประกอบการรายย่อยที่เก่งเฉพาะทาง เช่น ด้านอุตสาหกรรม ด้านไอที ด้านการเงิน มาให้บริการธุรกิจประเภทต่างๆ ทั้งยังเกิดความแม่นยำมากขึ้น นี่คือทางออกของธุรกิจโทรคมนาคม และประโยชน์สูงสุดของสังคมไทย ต้นทุนการใช้ชีวิตจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดด้านที่ ๒ โครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะต้องเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมและปลอดภัย เพราะประชาชนมีภาระค่าครองชีพสูงขึ้น ประกอบกับบริการภาครัฐต่างๆได้เปลี่ยนแปลงเป็นระบบดิจิทัล การเข้าถึงการเชื่อมต่อจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งการเข้าถึง WiFi ฟรี และบริการนอกพื้นที่ครอบคลุม WiFi เพื่อให้การเข้าถึงบริการของรัฐ เช่น บริการทางสาธารณสุข ระบบดิจิทัลไอดีของหน่วยราชการ ระบบพร้อมเพย์ ไม่ก่อภาระค่าเชื่อมต่อแก่ประชาชน และไม่เกิดความเหลื่อมล้ำด้านที่ ๓ พัฒนาสังคมดิจิทัลเพื่อเพิ่มศักยภาพการหารายได้ให้ประชาชน โดยพัฒนาศูนย์ USO Net ๒,๑๘๔ แห่ง ให้พร้อมเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิร์ซของชุมชน และเป็นวันสต็อปเซอร์วิส จากสถิติการเข้าใช้บริการกว่า ๗ ล้านคนต่อปีบ่งชี้ว่าศูนย์ USO Net ยังมีศักยภาพอีกมากที่จะบริการประชาชนในด้านการศึกษา สาธารณสุข และพาณิชย์ เพียงแค่พัฒนาบุคลากร และเชื่อมต่อผู้ประกอบการ ก็สามารถดึงศักยภาพเหล่านี้ออกมาได้แล้วนโยบายที่ประธาน กสทช.ให้ไว้ ตั้งเป้าจะพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ลดภาระของประชาชน พร้อมผลักดันให้โทรคมนาคมไทยเป็นที่หนึ่งของอาเซียน อย่างไรก็ตามจากความขัดแย้งภายในบอร์ด กสทช.ในช่วงปีกว่าที่ผ่านมา ทำให้เกิดข้อกังขาว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายเหล่านี้หรือไม่แม้บอร์ดทุกคนมีอำนาจและเอกสิทธิ์ในการแสดงความเห็น แต่การสร้างความขัดแย้งจนกระทบกับเนื้องาน ไม่ว่าจะด้วยอัตตาหรือเหตุผลใดก็ตาม ส่งผลให้ กสทช.อ่อนแอ แต่กลับเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล ทำให้ประชาชนไม่ได้รับการปกป้องดูแลอย่างที่ควรนโยบายทุกข้อที่ประธาน กสทช.มอบหมาย ล้วนมาจากแนวคิดที่บอร์ดเห็นตรงกัน ผมหวังว่าปีนี้บอร์ดทุกคนจะเห็นแก่ผลประโยชน์ของประชาชน ลดความขัดแย้งลง เลิกหาข้ออ้างโดดประชุม เพื่อขับเคลื่อนงานให้เต็มประสิทธิภาพ ไม่เช่นนั้น กสทช.คงไม่ใช่อนาคตของประเทศอีกต่อไป.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม
