แดดสลัว ท้องฟ้าขมุกขมัว อุณหภูมิร้อนอบอ้าวลมนิ่งสนิท อากาศปิด ฝุ่นควันฟุ้งกระจาย สภาพการณ์ ตามที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ประกาศชัดถ้อยชัดคำ เพิ่มเติมฤดูกาลของประเทศไทยจากโบราณกาลที่รู้จักแค่ ร้อน ฝน หนาวมี “ฤดูฝุ่น” แทรกเข้ามาเป็นฤดูกาลประจำ หมุนเวียนมาทุกปีเป็นวิกฤตการณ์ “ประจำถิ่น” ที่หนีไม่พ้น มหันตภัยฝุ่นมฤตยูพัดวนมาตามสภาพอากาศ กระตุ้นปริมาณ PM๒.๕ จากควันไอเสียรถยนต์ ฝุ่นจากการก่อสร้าง ควันจากการเผาป่า สารพัดจุดกำเนิด ต้นตอฝุ่นพิษที่แฝงตัวสะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อม จนเกินขีดระดับอันตรายกรุงเทพฯ ปริมณฑล นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร กระจายถึงภาคกลาง อยุธยา สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท กาญจนบุรี หัวเมืองใหญ่ โดยเฉพาะภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง แม่ฮ่องสอน ฯลฯสัญญาณแดงพรึบ จุดสีส้มเต็มแผนที่ประเทศไทยสถานการณ์น่าห่วงตั้งแต่ห้วงเดือนพฤศจิกายนปลายปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงต้นปีใหม่ ตัวเลขเรียลไทม์จากสถานีตรวจฝุ่นของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISDA รายงานแบบรายวันขีดระดับอันตรายไม่มีแผ่ว สภาพฝุ่นพิษเป็น “ฝาชีครอบเมือง”tt ttกทม.ทั้ง ๕๐ เขต ค่าฝุ่น PM๒.๕ เกินมาตรฐาน มีผลต่อสุขภาพประชาชน ขณะที่ปริมณฑลก็หนักหนาสาหัส ไม่แพ้กันอาการแบบที่สัมผัสได้ด้วยตัวเอง คนเดินตามท้องถนน หรือแค่ออกนอกตัวบ้านก็จามฟึดฟัด คัดจมูก แสบเคืองตา โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจอาจถึงขั้นโรคหอบหืดกำเริบ ปอดอักเสบเจ็บป่วยถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลตัวอย่างแบบที่นักร้องหนุ่มคนดัง ขวัญใจวัยรุ่น อยู่ๆเสียงหายไปดื้อๆ ร้องเพลงไม่ได้ ต้องงดออกงานคอนเสิร์ตแพทย์ระบุกล่องเสียงอักเสบ ปัจจัยเหตุหนึ่งจากการสูดฝุ่นควันพิษตามข้อมูลที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเตือนให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยชนิดเอ็น ๙๕ ที่สามารถกันอนุภาคฝุ่น PM๒.๕ ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าหน้ากากอนามัยธรรมดา ป้องกันฝุ่นพิษเข้าร่างกายเพราะผลวิจัยทางการแพทย์ยืนยันอันตรายจากฝุ่นมฤตยู ไม่ใช่แค่โรคทางเดินหายใจ แต่มันเป็นตัวการก่อโรคมะเร็งร้าย แบบที่คร่าชีวิตนายแพทย์หนุ่มที่จังหวัดเชียงใหม่ เหยื่อไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่ออกกำลังกาย สุขภาพแข็งแรงที่น่าตกใจ หมอเตือนว่า ฝุ่น PM๒.๕ มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของเด็กทำให้ล่าช้า แม้แต่ผู้ใหญ่ถ้าได้รับฝุ่นนานๆก็อาจเกิดอาการสมองเสื่อมเรื่องจริง ไม่ใช่ข่าวปลอม “เฟกนิวส์”ประมวลข้อมูลทางการแพทย์ ประกอบผลกระทบต่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม พิสูจน์ได้จากวิกฤตการณ์ร้ายแรงที่สัมผัสได้ตรงหน้า สถานการณ์มาถึงจุดที่ทุกภาคส่วนของประเทศไทยได้ตระหนักร่วมกัน“ฝุ่นจิ๋ว” ที่ไม่ใช่เรื่องจิ๋วๆ แต่มันเป็น “โคตรวิกฤติ” ใหญ่หลวงภัยพิบัติที่อาจร้ายแรงยิ่งกว่าภาวะสงคราม กระทบกับพลเมืองมากกว่าการ รบพุ่งกันด้วยอาวุธ เลวร้าย กว่ามหันตภัย โรคระบาด ตามสภาพปัญหาที่ฝังรากลึก สร้างความเสียหายไม่อาจประเมินได้ ในระยะยาว“วาระแห่งชาติ” ยังไม่แน่จะเอาอยู่ ไม่รู้จะใช้เวลานานแค่ไหนตามเงื่อนไขสถานการณ์ “จุดความร้อน” ระอุ สัญญาณสีส้ม อันตรายระดับทะลุขีดแดง เร้าผู้นำฝ่ายบริหารอย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ต้องเทก แอ็กชัน แสดงความจริง จังเล่นบทขึงขังในการจัดแนวรบ รับมือวิกฤติมฤตยูฝุ่นควันพิษจัดคิวพาคณะหางเครื่องชุดใหญ่บินตรงขึ้นจังหวัดเชียงใหม่ ขนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโปรแกรมตรวจสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM๒.๕ ในพื้นที่อ่อนไหว โฟกัสไปที่การควบคุมแหล่งกำเนิดสำคัญคือ “ไฟป่า”ส่งสัญญาณนำร่องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตื่นตัวในการทำสงครามฝุ่นควันต่อสายผู้นำประเทศเพื่อนบ้านในการช่วยกันสกัดฝุ่นควันจากการเผาป่า ลอยข้ามชายแดนมาสร้างความเดือดร้อนให้คนไทยแต่ลำพังแค่อีเวนต์โชว์มันไม่เพียงพอแน่ จุดสำคัญมันอยู่ที่การลุยภาคปฏิบัติ และการบังคับใช้กฎหมาย เข้มบทลงโทษอย่างจริงๆจังๆตามจังหวะต่อเนื่องที่รัฐบาลผสมพรรคเพื่อไทย โดยที่ประชุม คณะรัฐมนตรีได้นำเสนอร่าง พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ เพื่อเป็นกลไกป้องกันปัญหาฝุ่นควัน PM๒.๕ เข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรและถือเป็นนิมิตหมายที่ดี สส.ทั้งสภาฯได้แสดงท่าทีในการสนับสนุนร่าง พระราชบัญญัติอากาศสะอาด แบบที่พร้อมใจกันรับหลักการ ไฟเขียวให้รวมร่าง พระราชบัญญัติของฝ่ายต่างๆทั้ง ๗ ฉบับ เข้าพิจารณาไปพร้อมๆกันเว้นเรื่องเหลี่ยมคูการเมือง งดการชิงตีกินคะแนนเสียงไว้ก่อนนั่นเพราะเป้าหมายเดียวกันในการรับมือฝุ่นควันพิษไม่บ่อยนักที่นักการเมืองไทยจะร่วมมือกัน เห็นไปทางเดียวกัน นั่นหมายถึงปัญหาฝุ่นมรณะ ไม่ได้ละเว้นพวกที่มีเอกสิทธิ์ สส.คุ้มครอง รัฐมนตรีที่มีทีม รปภ.ป้องกัน แต่มันบุกถึงตัวและคนในครอบครัวคนไทยถ้วนหน้าฝุ่นมรณะ PM๒.๕ คือ “วิกฤติเร่งด่วน” อย่างแท้จริงแต่ที่ยังไม่ชัดว่า “วิกฤติเร่งด่วน” หรือไม่ ก็คือโครงการเทกระจาด “ดิจิทัล วอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท” เรือธงของรัฐบาลเพื่อไทย“เครื่องหมายการค้า” ของนายกฯชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน”ตามสถานการณ์เรื่อยๆมาเรียงๆ ล่าสุดคณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล ได้ตอบข้อปรึกษาของนายกฯในฐานะ รัฐมนตรีว่าการคลัง และคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตฯการกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท ในโครงการเทกระจาดเงินดิจิทัลฯทำได้แต่หมายเหตุ ต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ และต้องฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน ที่สำคัญต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของกฎหมาย ระเบียบวินัยการเงินการคลัง ที่ล็อกนิยามคำว่า “วิกฤติ” และ “คุ้มค่า”ถามช้าง ตอบม้า ยังต้องแปลไทยเป็นไทยtt ttจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ตามอาการแบบที่ “เสี่ยหนิม” นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง หัวขบวนทีมดันดิจิทัล วอลเล็ตฯ รีบเคลม กฤษฎีกา “ไฟเขียว” ให้เดินหน้ามหกรรมเทกระจาด แต่ไม่ทันข้ามวันก็เป็น นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ออกมาแจงดับกระแสทันควันบอกปัดนิ่มๆ คณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้เปิดไฟเขียวแต่อย่างใดกลายเป็นไฟกะพริบ “แยกวัดใจ” ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลก็เด้งเชือก ไม่ตอบชัดๆ เหมือนปล่อยให้นายเศรษฐา และทีมแห่ดิจิทัล วอลเล็ตฯ ลากโครงการเรือธง ไป “วัดดวง” กันเองตามอารมณ์แบบที่ผู้นำยังยืนกระต่ายขาเดียว สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยอยู่ในสภาพวิกฤติ ต้องอัดฉีดเม็ดเงินกู้ ๕ แสนล้าน ในการกระตุ้นชีพจรล้อไปกับลูกหาบพรรคเพื่อไทยช่วยกันตีปี๊บรัวเกราะเคาะไม้ ย้ำความจำเป็นในการประคองปากท้องคนรากหญ้าอาการรุกหนักยังลามไปฟาดหัวฟาดหางใส่ “ด็อกเตอร์นก” นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง ประเทศไทย (ธปท.) โดนล่อเป้าเรื่องปล่อยดอกเบี้ยขาขึ้นนัยว่า เบิ้ลเอาคืนพวกที่ตั้งป้อมขวางเทกระจาดดิจิทัล วอลเล็ตฯทั้งหมดทั้งปวง โดยอำนาจและสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจขั้นสุดท้าย มันอยู่ในกำมือของนายเศรษฐา ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหารตามสถานการณ์ที่เหมือนถูกต้อนเข้ามุมอับกับเดิมพันที่พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะตัวของนายเศรษฐา เป็นผู้วางเดิมพันเอง จากการชูนโยบายและประกาศบนเวทีปราศรัยหาเสียงถ้าไม่แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท ก็เสียฟอร์มเจ้าตำรับ “โคตรประชานิยม” เลือกตั้งรอบหน้าแทบไม่ต้องพูดถึงการชูประชานิยมเรียกแต้มแต่ถ้าลุยไฟเทกระจาดเงินกู้ ๕ แสนล้านบาท เสี่ยงย่ำรอยทุจริตโครงการจำนำข้าว ที่ตัวเลขหนี้มหาศาลของประเทศยังไม่รู้จะใช้หมดชาติไหนขืนพลาดซ้ำ โดนตีตราว่าทำเสียหาย เพราะดื้อกับ เสียงเตือนเสียงทักนายเศรษฐา ก็ต้องพร้อมรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่จะตามมาเต็มๆเหมือนกัน.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม
จับอาการกฤษฎีกาเปิด “ไฟกะพริบ” ดิจิทัลวอลเล็ตฯ : เกมบีบวัดดวง ล็อกคอเดิมพัน
Related posts