Thursday, 19 December 2024

วันนอร์ เล็งดึง IDB หนุน SME ไทย เร่งช่วยคนไทยในซาอุฯ ค้างจ่ายค่าใบถิ่นที่อยู่

“วันนอร์” เล็งดึง IDB หนุนเอสเอ็มอีไทย พร้อมหาทางช่วยเหลือคนไทยไม่มีเงินจ่ายค่าใบถิ่นที่อยู่ บอก เยือนซาอุดีอาระเบีย สำเร็จเป็นอย่างดี พร้อมอำนวยความสะดวกคนไทยที่มาทำพิธีฮัจญ์ และพร้อมมอบทุนนักศึกษาไทยวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการ ว่า เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๗ นายวันมูหะมัดนอร์ ได้พบปะหารือกับ ด็อกเตอร์มาเนอร์ มูธาร์ รองประธานธนาคารอิสลามเพื่อการพัฒนา (IDB) และเยี่ยมชุมชนชาวมลายูปัตตานี ในนครเมกกะจากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการพูดคุยกับทางธนาคารอิสลามเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็นธนาคารระดับโลกของมุสลิม และประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยมีประเทศอื่นร่วมถือหุ้นกว่า ๖๗ ประเทศ ธนาคารแห่งนี้ทำประโยชน์ให้กับประเทศไทยหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยในสาขาอาชีพที่จะนำความรู้มาพัฒนาประเทศ เช่น แพทย์ วิศวะ และจากที่ตนเป็นประธานกองทุนไอดีบีเพื่อพัฒนาการศึกษาในไทย มีข้อมูลว่า ที่ผ่านมามีนักศึกษาได้รับทุนการศึกษาในสาขาอาชีพเหล่านี้จบการศึกษาไปแล้วไม่น้อยกว่า ๖๐๐ คน บางคนเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลต่างๆ ไม่น้อยกว่า ๑๐ โรงพยาบาล ขณะเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ ยังได้ขอให้ไอดีบีสนับสนุนทุนเพิ่ม ซึ่งเขาก็รับปากจะไปดู และอยากให้เขาเดินทางไปไทยเพื่อให้พูดคุยกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อดูแลเอสเอ็มอี และสตาร์ทอัพ ในการผลิตอาหารฮาลาล หรือสหกรณ์อิสลาม ถ้าได้รับการสนับสนุนจากไอดีบีการเติบโตก็จะดีขึ้น หวังว่าเขาจะส่งทีมไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสถานศึกษาต่างๆ ในเร็วๆ นี้ ถือว่าการหารือครั้งนี้เป็นประโยชน์มากtt ttสำหรับการพบปะชุมชนชาวมลายูปัตตานี ในนครเมกกะนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ ระบุว่า ชุมชนดังกล่าวมีมานานกว่า ๗๐-๘๐ ปี รวบรวมคนและทรัพยากรช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในซาอุดีอาระเบีย ส่วนปัญหาที่คนไทยพบเจออยู่ในตอนนี้คือเขาอยากให้รัฐบาลช่วยเกี่ยวกับใบถิ่นที่อยู่ หรือใบอนุญาตให้พำนัก ที่ทำให้สามารถทำงานได้ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ปัจจุบันรัฐบาลซาอุดีอาระเบียปรับนโยบายเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทำให้คนที่อยากอยู่ต่อต้องเสียค่าใช้จ่ายปีละ ๗-๘ หมื่นบาท และยังต้องจ่ายในส่วนของครอบครัวที่ไม่ได้ทำงานด้วย บางส่วนเป็นแม่หม้ายที่ต้องทำงานเล็กๆ น้อยๆ ในการเลี้ยงดูลูก ทำให้รายได้ไม่เพียงพอก็อยากกลับประเทศไทย แต่ต้องเสียค่าปรับที่ค้างอยู่ก่อนจึงไม่สามารถเดินทางกลับได้ ทั้งนี้ ประธานรัฐสภา ได้พูดกับเอกอัครราชทูตไทยประจำซาอุดีอาระเบีย ให้ประสานรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย นิรโทษกรรมความผิดในส่วนนี้ เพื่อให้คนเหล่านี้ได้โอกาสเดินทางกลับไทยโดยไม่ต้องเสียค่าปรับ แล้วให้คนกลุ่มนี้เดินทางกลับประเทศไทยหลังการประกอบพิธีฮัจญ์ ด้วยการไปกับเครื่องบินที่เดินทางกลับจากนครเมกกะหลังส่งผู้แสวงบุญแล้วในเที่ยวบินที่ว่าง จะได้ไม่ต้องเสียค่าเดินทาง แต่ถ้าต้องหาทุนมาจ่ายเป็นค่าปรับที่ค้างอยู่จากการคำนวณอยู่ที่ประมาณ ๓๒ ล้านบาท ถือเป็นตัวเลขที่ไม่มากสำหรับการช่วยเหลือคนไทยที่ลำบากในต่างแดน เหมือนกรณีช่วยเหลือคนไทยที่เจอเหตุฉุกเฉินจนต้องอพยพ ตนหวังให้คนไทยเหล่านั้นจะได้พาลูกหลานกลับบ้านเกิดเมืองนอน เมื่อถามว่าตัวเลข ๓๒ ล้านบาท รัฐบาลควรทุ่มหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ตอบว่า ตนมองว่าไม่มาก เช่น กรณีเกิดจลาจลในต่างประเทศ คนไทยเดือดร้อนเราก็ต้องจ่ายเงิน เราจำเป็นต้องทำเพื่อดูแลคนไทยตามภาระหน้าที่ tt tt“การที่คณะรัฐสภาไทยเดินทางมาซาอุดีอาระเบีย วันที่ ๑๖-๑๙ มกราคมถือว่าได้ผลเป็นอย่างดียิ่งในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง เพราะหลังจากฟื้นความสัมพันธ์แล้ว ทางนายกฯ และฝ่ายเศรษฐกิจต่างเดินทางมาเยือนซาอุฯ ได้รับการต้อนรับอย่างดี และการที่รัฐสภามาเยือนตามคำเชิญของสภาที่ปรึกษาราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ที่พระมหากษัตริย์ทรงเลือกมา ก็จะยิ่งช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น อีกทั้งรัฐบาลทั้งสองมีการตกลงตั้งกลุ่มมิตรภาพซาอุฯ-ไทย และไทย-ซาอุฯ แลกเปลี่ยนการเยือนซึ่งกันและกัน ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ดียิ่งขึ้น การที่ผมได้เจอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการศาสนาอิสลาม การเผยแผ่ และการชี้แนะ ก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน เขาพร้อมอำนวยความสะดวกคนไทยที่มาทำพิธีฮัจญ์ให้ได้รับความสะดวกมากกว่าเดิม และพร้อมมอบทุนกับนักศึกษาไทยด้วย ถือว่าการเดินทางมาครั้งนี้สำเร็จเป็นอย่างดี”