นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ กล่าวว่า การป้องกันการทุจริตในโรงเรียน โดยเฉพาะการทุจริตโครงการอาหารกลางวันและอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เป็นข่าวที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตนักเรียนและภาพลักษณ์ของโรงเรียนผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความสำคัญ ปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพราะหลายครั้งที่เกิดปัญหา ต้องยอมรับว่าบุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยังขาดองค์ความรู้ ส่งผลให้หลายครั้ง บุคลากรทำผิดระเบียบทั้งที่ไม่มีเจตนาแต่เกิดจากความไม่เข้าใจ ดังนั้น เมื่อมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ก็จะเป็นแนวทางที่ทำให้ไม่มีการกระทำผิดระเบียบเหล่านั้นอีก นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องมีการส่งเสริม คือ เรื่องหลักสูตรการป้องกันการทุจริตในโรงเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหลักสูตรที่สอนให้กับลูกๆนักเรียน ถือเป็นโครงการที่ดี ที่จะช่วย ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนรู้และเข้าใจ พร้อมร่วมกันต่อต้านการทุจริตเพื่อเป็นทรัพยากรที่ดีต่อไปในอนาคตนายสุรศักดิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการประกาศเจตนารมณ์ความร่วมมือการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาและมาตรการป้องกันการทุจริตในสถานศึกษา จ.พระนครศรีอยุธยา ถือเป็นจังหวัดนำร่องในการนำหลักสูตรการป้องกันการทุจริตในโรงเรียนของ ป.ป.ช.มาสอนในโรงเรียน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาและปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน ให้มีความซื่อสัตย์สุจริตตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เป็นกลไกที่สำคัญในการป้องกันการทุจริตต่อไป.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่
