Thursday, 19 December 2024

"นายกฯเศรษฐา" ดูพื้นที่แลนด์บริดจ์ มั่นใจพลิกฟื้นศก.ไทย ปลื้มคนระนองหนุนสร้าง (คลิป)

“เศรษฐา” ลงพื้นที่จริงก่อนตอกเสาเข็มลุยโครงการแลนด์บริดจ์ ปลื้มคนระนองหนุน ฟุ้งจะมีบทบาทสำคัญ มาก พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย สร้างงานสร้างรายได้ให้คนพื้นที่อย่างไม่เคยมีมาก่อน เดินหน้าเข้าหากลุ่มต้านรับหนังสือคัดค้าน ยันรับฟังทุกความเห็น สั่ง ผวจ.เก็บข้อมูลส่งตรงรัฐบาล “สุริยะ” โอ่นักลงทุนระดับโลกเล็งร่วมทุน “มนพร” ตอก “ไหม” อ่านรายงาน กมธ.ผิดฉบับ ไล่ไปตั้งข้อสังเกตเพิ่มในที่ประชุมสภาฯ “เสรี” ยื่นรายชื่อ ๙๘ สว.ชงญัตติขอเปิดอภิปรายซักฟอกรัฐบาลไม่ลงมติ เตรียมขยี้ ๗ ประเด็นร้อนเขย่ารัฐบาล พุ่งเป้าถล่มดิจิทัลวอลเล็ต ซัดโครงการอันตรายพอกหนี้ ๕ แสนล้าน แก้เศรษฐกิจปากท้องเหลว สร้างมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว แปลง ส.ป.ก.๔-๐๑ เป็นโฉนดเอื้อนายทุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการคลัง ใช้โอกาสระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (คณะรัฐมนตรีสัญจร) ที่ จ.ระนอง ลงพื้นที่ตรวจสถานที่จริงที่จะก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ โดยได้รับฟังความเห็นกลุ่มที่เห็นด้วย พร้อมได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มประชาชนในพื้นที่ที่คัดค้านtt tt“นายกฯ” โอ่คนระนองหนุนแลนด์บริดจ์เมื่อวันที่ ๒๒ ม.ค. เมื่อเวลา ๑๐.๒๕ น. ที่ท่าอากาศยานระนอง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการและประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (คณะรัฐมนตรีสัญจร) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๓ ม.ค. มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.ระนอง และข้าราชการต้อนรับ จากนั้นนายกฯขึ้นรถตู้โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน กง ๘๘๘ ระนอง ไปสักการะศาลหลักเมืองระนอง ผูกผ้าเจ็ดสี ปิดทอง สักการะอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) ณ ศาลหลักเมืองระนอง ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง โดยชาวบ้านรอต้อนรับ มอบดอกกุหลาบแดงให้กำลังใจ พร้อมสอบถามถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า “ประชาชนรออยู่นะคะ” นายกฯตอบว่า “ครับ” นายกฯเปิดเผยว่า ดีใจที่พี่น้องชาวระนองมารอต้อนรับและดีใจเป็น ๒ เท่าที่พี่น้องเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ หลายคนบอกว่าพื้นที่ต้องการโครงการแลนด์บริดจ์ ขอให้รัฐบาลเดินหน้าเต็มที่เพื่อพัฒนาระนองนายกฯทวีตข้อความผ่าน X ว่า คณะรัฐมนตรีสัญจร ครั้งที่ ๒ จ.ระนอง เป็นเป้าหมาย จะมีบทบาทสำคัญมาพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โครงการแลนด์บริดจ์ Landbridge จะมาสร้างอาชีพ รายได้ และพัฒนาพื้นที่ให้คนในพื้นที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนดูท่าเรือเกาะสองชาวบ้านเชียร์อยู่ ๔ ปีจากนั้นเวลา ๑๑.๑๕ น. นายกฯไปที่ท่าเรือระนอง-เกาะสอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ติดตามประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากรและประมง พบปะผู้แทนชาวประมงเพื่อแก้ไขปัญหา IUU ชาวบ้านมารอต้อนรับมอบดอกไม้ ถือป้ายให้กำลังใจ เช่น ชาวปากน้ำเป็นกำลังใจให้ทุกท่านบริหารประเทศไทย มีบางคนตะโกนให้กำลังใจ ขอให้เป็นนายกฯ ๔ ปี บางคนนำภาพถ่ายกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ครั้งลงพื้นที่ จ.ระนองมาให้นายเศรษฐาดู บอกว่านายเศรษฐาเป็นนายกฯคนที่ ๒ ที่ลงพื้นที่ระนอง และยังมีกลุ่มเครือข่ายแก้ไขปัญหาคืนสัญชาติคนไทย จ.ชุมพร ระนอง ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เช่น คนไทยพลัดถิ่น ชนเผ่ามอร์แกน รอพบนายกฯเร่งรัดให้ช่วยกรณีไม่มีบัตรประชาชน ไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้จากรัฐลุยพื้นที่จริงก่อนลงมือก่อสร้างจากนั้นนายกฯกล่าวกับประชาชนว่า ดีใจที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ซาบซึ้งถึงความจริงใจที่ชาวใต้มีให้กับพวกเรา แม้เป็นจังหวัดเล็กแต่รัฐบาลให้ความสำคัญ รัฐบาลสนับสนุนท่าเรือตรงนี้ให้ยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น เพราะคำนึงถึงการค้าชายแดน การเดินทางระหว่างนักท่องเที่ยวจากเมียนมา จะปรับปรุงแต่ท่าเรือไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด การขนส่งสินค้าทั้งขาเข้า ขาออก จะทำให้ทันสมัย สะดวกสบาย จากนั้นนายกฯและคณะชมภาพรวมรอบท่าเรือเกาะสองลงดูพื้นที่จริงก่อนสร้างแลนด์บริดจ์ต่อมาเวลา ๑๓.๔๐ น. นายกฯเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติแหลมสน ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ดูพื้นที่จริงโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย-อันดามัน (แลนด์บริดจ์) ดูผังท่าเรือแหลมอ่าวอ่าง ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง รับฟังบรรยายสรุป จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า เป็นครั้งแรกที่มาลงพื้นที่ ฟังการนำเสนอภาพรวมจะถมทะเลออกไปเท่าไหร่ มีช่องน้ำอย่างไรบ้าง มีการนำเสนอมาต้องสร้างตอม่อเป็นบริดจ์ออกไป เพื่อให้ประชาชนประกอบอาชีพเรือประมงได้ ทั้งนี้ โครงการใหญ่เป็นธรรมดาต้องมีคนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย จะรับฟังว่าความห่วงใยคืออะไร อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ถ้ายังจำกันได้ ๒๐ ปีที่ผ่านมามีเมกะโปรเจกต์ใหญ่ระดับชาติที่หนองงูเห่า ถกเถียงกันนานมากว่าจะสร้างสนามบินแห่งที่ ๒ ในยุครัฐบาลทักษิณยันต้องทำเต็มที่ดูจบครบทุกมิติเมื่อถามถึงเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่อยากให้ศึกษาให้รอบด้านก่อน เพราะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและเป็นพื้นที่เสนอเป็นมรดกโลก การท่องเที่ยวระนองค่อนข้างส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและธรรมชาติ อยากให้ศึกษาก่อนผลักดัน นายกฯกล่าวว่า ต้องศึกษาก่อน การท่องเที่ยวให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องควบคู่ความเจริญในหลายมิติ เมื่อถามว่า ประชาชนต้องการให้ศึกษาก่อนอนุมัติ ตอนนี้เหมือนผลักดันไปก่อนจะศึกษา นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องควบคู่กันไป อย่างไรต้องฟังความคิดเห็นพี่น้องประชาชน ระยะเวลาจะช้าหรือเร็ว ต้องขึ้นอยู่กับเสียงเรียกร้องด้วยว่าต้องทำมากน้อยขนาดไหน แต่ยืนยันต้องพยายามเต็มที่ให้เป็นที่เข้าใจของทุกฝ่าย อาชีพการจ้างงานไม่น่ากังวล น่าจะเป็นเรื่องโอกาสมากกว่า ท่าเรือที่สร้างขึ้นไม่ใช่แค่ขนถ่ายสินค้าอย่างเดียว เรือสำราญต่างๆจะมาเทียบจอดได้ นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญ ไม่ใช่แค่ชาวระนอง จังหวัดแถวอันดามันได้ประโยชน์ควบคู่กับการพัฒนาภาคใต้ทั้งเขตภูมิภาค ไม่ว่าสนามบินอันดามัน เชื่อว่าจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะพี่น้องภาคใต้ ส่วนความมั่นคงยืนยันเวลาทำเมกะโปรเจกต์ทั้งหมด เราดูให้ครบทุกมิติรับหนังสือคัดค้าน สั่ง ผวจ.ฟังเสียง ปชช.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายกฯจะเดินทางมาถึง มีกลุ่มคัดค้านติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ เขียนข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่า “No landbridge แลนด์บริดจ์” บริเวณหน้าทางเข้าอุทยานฯ ขณะที่ภายหลัง นายกฯให้สัมภาษณ์ได้เดินไปรับหนังสือจากตัวแทนประชาชนและภาคประชาชน ที่คัดค้านการก่อสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ด้วยตัวเอง โดยชาวบ้านเรียกร้องให้นายกฯรับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ด้วย ไม่ใช่รับฟังความเห็นจากหน่วยงานเท่านั้น ก่อนที่นายกฯกล่าวว่า ไม่ต้องห่วงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ แลนด์บริดจ์เป็นเรื่องของโอกาส แต่การมีโอกาส ต้องให้โอกาสคนในพื้นที่แสดงความคิดเห็น เป็นหน้าที่รัฐบาลต้องฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกคน โดยได้สั่งให้ ผวจ.ระนอง ดูแลรับฟังความคิดเห็นประชาชนว่ามีความคิดเห็นต่อโครงการแลนด์บริดจ์อย่างไร รัฐบาลพร้อมยินดีรับฟังtt ttเยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อน “รักษะวาริน”จากนั้นเวลา ๑๖.๐๐ น. นายกฯ พร้อม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการวัฒนธรรม น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าเยี่ยมชมการบริหารจัดการบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ที่บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน ที่ ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ก่อนรับมอบตุ๊กตาไหมพรมชื่อ “น้องเศรษฐี” ตุ๊กตาแฮนด์เมด สวมถุงเท้าสีแดงและสีเขียว สวมเสื้อผ้าบาติกลาย “ทรัพย์รักษ์ระนอง” ลายประจำจังหวัด นำผ้าที่เหลือจากการตัดเสื้อให้ คณะรัฐมนตรีสวมใส่ในการประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ โดยนายกฯได้ทักทายประชาชนที่มาแช่น้ำที่บ่อน้ำแร่ร้อน เดินดูจุดบ่อน้ำพุร้อนตามจุดต่างๆ เยี่ยมชมร้านค้า ด้วยท่าทีค่อนข้างเพลียไม่สดชื่น เหมือนการลงพื้นที่ทุกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามถึงอาการหวัดของนายกฯ หลังกลับจากเมืองดาวอส สมาพันธรัฐ สวิส บอกเป็นหวัดนิดหน่อย นายกฯตอบว่า อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีไข้นิดหน่อย เพราะลงพื้นที่ไม่ได้พักเลย แต่ไม่เป็นอะไร สู้ๆ พร้อมยกนิ้วโป้งทั้งสองข้าง“สุริยะ” โวนักลงทุนระดับโลกเล็งร่วมทุนที่กรมทางหลวงชนบทชุมพร จ.ชุมพร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าและรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานของหน่วยงาน โครงการแลนด์บริดจ์ MR๘ จ.ระนอง โครงการแนวเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน ระนอง-สตูล โดยนายสุริยะกล่าวถึงความคุ้มค่าการลงทุนว่า สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเมื่อปี ๒๕๔๕ มีแนวคิดสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ผ่านมา ๒๐ ปี ไม่มีโครงการใหญ่แบบนี้ ทั้งที่ควรเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ จนมาถึงรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มีวิสัยทัศน์ โครงการแลนด์บริดจ์รัฐบาลจะลงทุนเวนคืนที่ ส่วนการลงทุนอื่น เช่น สร้างถนน ท่าเรือ รถไฟจะเป็นภาคเอกชน ถ้านักลงทุนไม่เชื่อไม่มาลงทุน นายกฯได้พบนักลงทุนใหญ่สนใจจำนวนมาก ล่าสุดผู้บริหาร DP WORLD ผู้บริหารพอร์ตดูไบจะมาไทยเดือน กุมภาพันธ์เพื่อลงพื้นที่โครงการ ขณะที่มหาเศรษฐีอินเดียสนใจมาก ที่ฝ่ายค้านบอกรัฐบาลไปหลอกนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนขนาดนั้นจะไปหลอกมาได้อย่างไร เชื่อมั่นโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้แน่นอน จะทำให้จีดีพีโต ๕.๕-๖% สร้างงานให้คนพื้นที่ไม่ต่ำกว่า ๒ แสนคน ฝ่ายค้านคงไม่ได้เห็นบรรยากาศที่เราไปเจอนักลงทุน จึงไปจินตนาการว่าเกิดขึ้นไม่ได้ ข้อมูล สนข.จะเป็นจริงหรือไม่จริง จะตัดสินได้ด้วยนักลงทุนที่จะเข้ามา จะเป็นคำตอบได้ดีที่สุด“มนพร” ฉะ “ไหม” อ่านรายงานผิดฉบับที่ท่าเรืออเนกประสงค์ จ.ระนอง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนรายงานการศึกษาแลนด์บริดจ์ว่า คณะ กมธ.วิสามัญศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ประชุม ๑๐ ครั้ง หน่วยงานเข้าชี้แจง ๕๐ ครั้ง ใน กมธ.มีคนคัดค้านแค่ ๒ เสียง หลังจากนี้จะส่งร่างรายงานผลการศึกษาเข้าไปให้สภาฯพิจารณา สมาชิกแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างกว้างขวาง เพิ่มประเด็นและตั้งข้อสังเกตต่างๆได้ หากสภาฯเห็นชอบจะส่งไปให้รัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อ ที่ น.ส.ศิริกัญญาตั้งข้อสังเกตว่ารายงานดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่รัฐบาลจะดำเนินการ เช่น ท่อส่งน้ำมัน ประเด็นท่อน้ำมันอยู่ในข้อพิจารณาของ กมธ. น.ส.ศิริกัญญาอาจไปดูความเห็นเดิมที่ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบัน หากเราจะใช้ความเห็นเดิมรัฐบาลชุดที่แล้วคงไม่ต้องตั้ง กมธ.แลนด์บริดจ์ในรัฐบาลปัจจุบัน เพราะต้องการความคิดเห็นปัจจุบัน วันนี้โลกเปลี่ยนไป ความต้องการประชาชนเปลี่ยนไป วันที่ ๒๓ ม.ค. ถ้ามีโอกาสจะเชิญตัวแทนผู้เห็นต่างเข้าพบนายกฯ“ปานปรีย์-ชาดา” ตรวจเยี่ยมโครงการรัฐขณะที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ ไปตรวจเยี่ยมการให้บริการทำหนังสือเดินทางที่หน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ จ.ระนอง ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายไปรับบริการที่ใกล้ที่สุดคือสุราษฎร์ธานี ห่างไปราว ๒๐๐ กม.เดินทางมากกว่า ๓ ชั่วโมง โดยมีผู้มารับบริการวันละกว่า ๔๐๐ คน ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย พร้อม น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ประธานคณะที่ปรึกษา รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรค ภท. และคณะไปดูความคืบหน้าโครงการนำร่องชุมชนยั่งยืนบ้านเกาะสินไห อ.เมือง จ.ระนอง มีผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัด ๘๗ คน ผลเป็นที่น่าพอใจ และได้มอบป้ายครัวเรือนสีขาว ๒๖๙ ครัวเรือน และมอบบัตรพลเมืองสีขาว ๖๙๕ คน สะท้อนว่าคนในชุมชนร่วมมือป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรดีมากรวบชายลายสักบุกพบ “พีระพันธุ์”เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ลานหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองชุมพร นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงาน เป็นประธานเปิดงาน “พลังงาน สร้างสุข สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน” โดยก่อนที่นายพีระพันธุ์จะมาถึงเพียง ๒ นาที มีชายอายุประมาณ ๔๕-๕๕ ปี เดินถอดเสื้อ มีลายสักบนลำตัว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น ๓ ส่วน สะพายกระเป๋าหนังสีน้ำตาล ผูกผ้าพันคอสีแดง ใส่รองเท้าผ้าใบ เดินขึ้นไปบนเวที กล่าวผ่านไมโครโฟนว่า “ผมเป็นตัวแทน” แต่ไม่ทันจะพูดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองพากันเข้าควบคุมตัวจากลงเวทีไปก่อนที่นายพีระพันธุ์จะมาถึงประมาณ ๒ นาที เมื่อนายพีระพันธุ์มาถึงได้เข้าสักการะกราบไหว้ศาลหลักเมืองชุมพร ขึ้นเวทีกล่าวเปิดงานโดยไม่มีทีท่าตกใจใดๆ ทั้งนี้ ขณะถูกคุมตัว ชายคนดังกล่าวพูดเสียงดังว่า มายื่นหนังสือให้รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการพลังงานtttt ttttttttconst jwplayer๑ = jwplayer(“cover_jwplayer_IetaTyPH”).setup({tttt    “playlist”: “https://cdn.jwplayer.com/v๒/media/IetaTyPH” tttt});ttttฮ.เกษตรฯผิดคิวจอดประชิด “เสี่ยหนู”ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งขณะที่คณะของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ประกอบด้วยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทย นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรค ภท. และนายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกฯ ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านเกาะพยาม ต.เกาะพยาม อ.เมืองระนอง มอบถุงยังชีพและขนมให้เด็กนักเรียน ระหว่างที่คณะของนายอนุทินถ่ายรูปกับนักเรียน อยู่ๆมีเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรฯ หมายเลข ๒๓๑๑ บินลงมาจอด ที่สนามหน้าโรงเรียน ห่างบริเวณพิธีไม่ถึง ๗ เมตรจนฝุ่นตลบ นักเรียน ครูและข้าราชการกว่า ๑๗๐ คน ต้องวิ่งหลบกันวุ่นวาย หลังลงจอดสนิท มีข้าราชการ ๒ คนลงมา นายชาดาเข้าไปสอบถาม ก่อนที่นายอนุทิน เดินเข้าไปกล่าวว่า “ตอนนี้มีพิธีอยู่ รองนายกฯยืนอยู่ ต้องดูนิดนึง ต้องให้เกียรติกันนิดนึง” ขณะที่นายชาดากล่าวว่า “ถ้าเด็กวิ่งเข้าไปเรายุ่งเลยนะ พี่ลงแบบไม่สนใจใครเลย” จนเจ้าหน้าที่พากันกล่าวขอโทษ และระบุว่า เคยลงมาแล้วครั้งหนึ่ง จากนั้นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ตามไปพบขอโทษขณะนายอนุทินนำคณะไปตรวจการก่อสร้างสะพานข้ามคลองให้เด็กนักเรียนล่าช้าอีกรอบพท.เฉ่ง ป.ป.ช. เลิกเดาล่วงหน้านายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกฯ กล่าวถึงข้อเสนอแนะที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งข้อสังเกตโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า ปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่จะพิจารณาแหล่งที่มาของเงินในโครงการ ยังไม่ได้ข้อยุติ ต้องพิจารณาข้อเท็จจริง ข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายฯ ข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ เอกชนให้รอบคอบก่อนเสนอ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ และยังมีขั้นตอนเสนอร่าง พระราชบัญญัติกู้เงินต่อสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกระบวนการตามกฎหมายโดยสุจริต ไม่มีเจตนาซ่อนเร้นหาทางลงตามที่วิจารณ์กัน แม้ข้อเสนอแนะต่างๆเป็นเรื่องดีแต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงที่เป็นที่ยุติ ไม่ควรสมมติฐาน คาดหมายล่วงหน้าในสถานการณ์ที่ไกลเกินกว่าที่ควรเป็น หลายฝ่ายเร่งรีบให้ข้อเสนอแนะ อาจเร็วไปไม่ถูกจังหวะกลายเป็นอุปสรรคการบริหารราชการแผ่นดิน วิงวอนผู้มีอำนาจโปรดเหลียวตามองดูประชาชน รอดูจังหวะที่เหมาะสมดีกว่าไหมtt ttแพทองธาร ชินวัตร“อุ๊งอิ๊ง” โชว์วิชั่นกล่อมนักลงทุนที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมกล่าวในงาน “A pathway to prosperity” จัดโดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เพื่อบอกเล่ายุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของไทยแก่นักธุรกิจ นักลงทุนกว่า ๑,๖๐๐ คน ว่า คำว่าซอฟต์พาวเวอร์ มีการประยุกต์ใช้ทั้งการเมือง เศรษฐกิจหรือระหว่างประเทศ รัฐบาล พท. ใช้มิติทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและนโยบายต่างประเทศเป็นตัวนำ ที่หลายคนมองว่าใช้งบฯสูง เช่น งบฯอุตสาหกรรมเทศกาลและการท่องเที่ยว ๑,๗๐๐ ล้านบาท ไม่ใช่สูงกว่าที่เคยใช้ปีก่อนๆ แต่ที่ผ่านมางบฯท่องเที่ยวและเทศกาลแตกไปอยู่หลายหน่วยงาน ไม่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ใช้จ่ายเป็นระบบ แต่เราจะทำให้เป็นระบบชัดเจนขึ้น ตั้งใจทำเศรษฐกิจเทศกาล เป็นเรื่องใหญ่มากที่ต่างประเทศเน้น จะเริ่มพัฒนาระบบข้อมูลเทศกาลต่างๆ เช่น แพลตฟอร์ม อบรมเรื่อง Festival academy โดย “วู้ดดี้ มิลินทจินดา” พิธีกรชื่อดังและผู้ปลุกปั้นเทศกาลดนตรี S๒O หรืออีเวนต์ใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือน เมษายนคืองานมหาสงกรานต์ จะช่วยดูแล จะเป็นตัวอย่าง หากออกแบบทั้งระบบจะเป็นอย่างไร ตั้งแต่การเดินทาง อาหาร โรงแรมที่พัก ห้องน้ำ จะถูกวางแผนทั้งระบบและทำโฆษณาต่อเนื่อง๙๘ สว.ยื่นญัตติซักฟอกรัฐบาลเมื่อเวลา ๐๙.๓๐ น. ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนา การเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา นำรายชื่อ สว. ๙๘ คน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เพื่อขอให้ คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาการบริหารราชการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๕๓ ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา โดยนายเสรีกล่าวว่า ประเทศกำลังประสบปัญหาวิกฤติ ๗ ด้าน อาทิ เศรษฐกิจปากท้องที่รัฐบาลควรแก้ปัญหาได้เร็วและดีกว่านี้ แต่กลับวนเวียนอยู่กับการจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ปัญหาปากท้องรัฐบาลพูดมาตลอด แต่ ๔ เดือนที่ผ่านมายังไม่มีผลงานเป็นรูปธรรม กระบวนการยุติธรรม รัฐบาลเลือกปฏิบัติ หาช่องผลประโยชน์ให้คนบางกลุ่มจะเป็นปัญหาใหญ่ในบ้านเมือง ส่วนจะโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ สว. ไม่ได้เน้นตัวบุคคล เน้นหลักการว่ายึดหลักยุติธรรมให้เป็นธรรมได้แค่ไหน ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่ากระบวนการยุติธรรมใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมtt ttเสรี สุวรรณภานนท์พุ่งเป้าเขย่าปมแจกเงินหมื่นนายเสรีกล่าวว่า ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลให้เหตุผลว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ จะมีคำถามว่ากระตุ้นได้จริงหรือไม่ เพราะการแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ไม่ว่าแจกรูปแบบใดเดี๋ยวก็ใช้หมดในเวลารวดเร็ว เงินที่จะนำมาแจกมีที่มาจากไหน กู้มาหรือไม่ มีดอกเบี้ยหรือไม่ เป็นภาระประเทศมหาศาล นโยบายนี้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่าเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง รัฐบาลต้องคิดให้ดีว่าการเป็นหนี้ ๕ แสนล้านบาท หากนำเงินก้อนนี้ไปลงทุนกับประชาชนอย่างยั่งยืน จะช่วยให้ประชาชนดำรงชีวิตได้ดีกว่า สว.ต้องนำมาพูดในสภาฯ ตั้งใจอยากให้อภิปราย ๒ วัน ใครจะอภิปราย มี สว.สนใจจำนวนมาก ต้องแสดงความชัดเจนเพื่อจัดลำดับได้รอ คณะรัฐมนตรีตอบรับวันอภิปรายนายพรเพชร วิชิตชลขัย ประธานวุฒิสภากล่าวว่า จากนี้จะส่งญัตติดังกล่าวให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตรวจสอบว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ และประสานงานไปยัง คณะรัฐมนตรีมาชี้แจงข้อเท็จจริง จะเป็นเมื่อใดต้องรอประสาน คณะรัฐมนตรีประสงค์จะมาชี้แจงเวลาใด ใช้เวลาเท่าใด การอภิปรายเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินก็สำคัญ สว. ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ถ้ารวบรวมรายชื่อขอเปิดอภิปรายได้ อยู่ในกรอบการดำเนินงานของรัฐสภา ไม่มีปัญหาอะไร จะเป็นผลงานโบแดงหรือโบขาวทุกคนตระหนักได้เอง เข้าใจความประสงค์ของสมาชิกว่าต้องการทำให้เกิดประโยชน์ เท่าที่ฟังอย่างไม่เป็นทางการ สว.อยากอภิปรายช่วงเดือน ก.พ. จะดูให้ว่าเหมาะสมหรือไม่เฟ้น ๗ ประเด็นลากขึ้นเวทีขยี้รัฐบาลผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหา ๗ ด้านที่ สว.ยื่นญัตติต่อ คณะรัฐมนตรีขอให้ชี้แจงประกอบด้วย ๑.ปัญหาด้านเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน อาทิ การแก้ปัญหาความยากจน มีแนวทางเป็นรูปธรรมอย่างไร และปัญหานโยบายดิจิทัลวอลเล็ตจะดำเนินการได้จริงหรือไม่ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามแนวทางรัฐบาลที่ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาจากต้นตอในระดับครัวเรือน ๒.ปัญหากระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย อาทิ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามคำพิพากษาที่สะท้อนถึงกระบวนการยุติธรรม ๒ มาตรฐาน การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ ช่วยพวกพ้อง หาประโยชน์ส่วนตน สร้างมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว การแก้ปัญหาขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์จากต่างประเทศ การเปลี่ยน สปก.๔-๐๑ เป็นโฉนดเพื่อเกษตรกรรม อาจเอื้อประโยชน์นายทุน ๓.ปัญหาพลังงาน อาทิ การไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างพลังงานของประเทศ และการบริหารจัดการราคาพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้า ก๊าซหุงต้มและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง กลุ่มทุนพลังงานมีอิทธิพลกับการเมือง ทำให้ราคาพลังงานสูงเกินความจำเป็นจี้ซักถามความชัดเจนแก้ รธน.๔.ปัญหาด้านการศึกษาและสังคม อาทิ การไม่เร่งปฏิรูปการศึกษา การไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้สินครูได้อย่างเป็นรูปธรรม ๕.ปัญหาด้านการต่างประเทศและการท่องเที่ยว อาทิ การแก้ปัญหาจีนเทา การวางตัวเป็นกลางและการเลือกข้างของรัฐบาลกับความขัดแย้งของประเทศต่างๆ มาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ๖.ปัญหาการแก้รัฐธรรมนูญที่อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการทำประชามติ จะต้องมีความชัดเจนและชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ ๗.ปัญหาการดำเนินการปฏิรูปประเทศและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ รัฐบาลจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรสว.สาย ๒ ลุงลงชื่อซักฟอกผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนรายชื่อ สว.ทั้ง ๙๘ คน ที่ร่วมลงชื่อในญัตติยื่นอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๓ มาจาก สว.ทุกกลุ่ม เช่น สายทหาร ที่มีทั้ง สว.สาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อาทิ พล.อ.อู๊ด เบื้องบน พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ขณะที่ สว.สาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาทิ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร พล.อ.ประสาท สุขเกษตร ส่วน สว.สายพลเรือน อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายสมชาย แสวงการ นายถวิล เปลี่ยนศรี นายจเด็จ อินสว่าง นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สายนักธุรกิจ อาทิ นายเจน นำชัยศิริ สายอาชีพและนักวิชาการ อาทิ นพ.อําพล จินดาวัฒนะ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นต้นtt ttชูศักดิ์ ศิรินิลพท.ยื่นแก้มาตรา ๒๕๖ ตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.ร่าง รธน.เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ น. ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรค พท.แถลงถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม โดยนายชูศักดิ์กล่าวว่า สส.พรรค พท.๑๒๒ คน ได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม๒๕๖๗ มีเนื้อหาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๕๖ เรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร.) ๒๐๐ คน เพราะเห็นว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ถามประชาชนก่อนว่า ต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่นั้นไม่มีความชัดเจน อาจตีความได้ว่าสามารถเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๕๖ เพื่อแก้ไขวิธีแก้รัฐธรรมนูญ และเพิ่มเติมหมวดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการส.ส.ร.ก่อนได้ แล้วค่อยสอบถามประชาชน เพราะขณะที่ถามยังไม่มีรัฐธรรมนูญใหม่เกิดขึ้น ถือเป็นการถามก่อนจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ช่วยลดการทำประชามติเหลือเพียง ๒ ครั้ง ประหยัดงบฯได้ ๓-๔ พันล้านบาท ดังนั้นพรรค พท.ขอให้ประธานรัฐสภาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติกี่ครั้ง“ราษฎร” ร้องยูเอ็นหนุน ก.ม.นิรโทษเมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น.หน้าอาคารสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินนอก เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน หรือเดิมใช้ชื่อว่า กลุ่มราษฎร รวม ๑๗ คน นำโดย น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และ น.ส.แทนฤทัย แท่นรัตน เข้ายื่นข้อเรียกร้องให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชน โดย น.ส.แทนฤทัยเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ว่า เรากังวลกับการดำเนินคดีกับประชาชนกว่า ๑,๔๐๐ ราย ที่ใช้สิทธิเสรีภาพชุมนุม มีความประสงค์ให้ยูเอ็นเรียกร้องไปยังรัฐบาลไทย ผ่านการสนับสนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่ครอบคลุมถึงมาตรา ๑๑๒ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในเดือน ตุลาคม๒๕๖๗ ทั้งขอให้รัฐบาลไทยระงับดำเนินคดี ปล่อยตัวนักโทษทางความคิด ทบทวนและแก้ไขมาตรา ๑๑๒อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่