รัฐมนตรีว่าการดีอีฯ เผย ระงับซิมโทรเกิน ๑๐๐ สายต่อวันแล้ว ๑๓,๒๓๗ เบอร์ “ก.พ.” นี้ เตรียมระงับการใช้งาน กลุ่มถือครองเกิน ๑๐๐ เลขหมาย หากไม่ยืนยันตัวตน จัดการ “ซิมม้า-แก๊งคอลเซ็นเตอร์”วันที่ ๒๕ ม.ค. ๒๕๖๗ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาซิมม้าและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ภายหลังจากการประชุมร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมด้วยผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือว่า รัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับความมั่นคงและปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ของประชาชน กระทรวงดีอีได้มีการเร่งรัดและให้ความสำคัญกับการป้องกันปราบปรามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ที่มาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้ร่วมดำเนินการกับหน่วยงานต่างๆ ในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านเพื่อปราบปรามและตัดวงจรมิจฉาชีพอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็เร่งรัดในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC ๑๔๔๑ เพื่อให้บริการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอด ๒๔ ชั่วโมงนายประเสริฐ กล่าวว่า จากมาตรการของ กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมากตั้งแต่ ๖ เลขหมายขึ้นไป ต้องยืนยันตัวตนกับผู้ให้บริการ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ ๑๖ ม.ค. ๖๗ ที่ผ่านมา พบว่า ๑. ได้มีการระงับซิมที่โทรเกิน ๑๐๐ สายต่อวัน ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๗ แบ่งเป็นเครือข่าย AIS-ดำเนินการระงับไปแล้ว ๔,๑๙๖ เบอร์ มายืนยันตัวแล้ว ๒๓๓ คน, เครือข่าย DTAC-ดำเนินการระงับไปแล้ว ๗,๓๔๔ เบอร์ มายืนยันตัวแล้ว ๐ คน, เครือข่าย TRUE-ดำเนินการระงับไปแล้ว ๑,๖๘๘ เบอร์ มายืนยันตัวแล้ว ๑,๖๘๘ คน แล้วเครือข่าย NT-ดำเนินการระงับไปแล้ว ๙ เบอร์ ได้มายืนยันตัวแล้ว ๔ คน รวมเบอร์ที่ระงับทั้งสิ้น ๑๓,๒๓๗ เบอร์ มายืนยันตัว ๑,๙๒๕ คน ขณะที่ยังมีเบอร์ที่ยังถูกระงับการใช้อีก ๑๑,๓๑๒ คน ๒. ประกาศการยืนยันตัวผู้ถือครองซิมเกิน ๑๐๐ เบอร์ ได้ประกาศใช้ในราชกิจจาฯ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๗ อยู่ระหว่างการให้มายืนยันตัวตน และเตรียมระงับใช้ในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ในส่วนของผู้ถือซิมระหว่าง ๖-๑๐๐ เบอร์ เตรียมระงับในวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไป คือการบริหารจัดการ SCAM SMS ที่ผูกกับลิงก์ต่อไป“ซิมการ์ดโทรศัพท์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่กลุ่มมิจฉาชีพ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ในการกระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นการโทร, การส่งข้อความ หรือ sms แนบลิงก์, โอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งร่วมกับสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต การมุ่งเน้นจัดระเบียบซิมการ์ดจึงเป็นวิธีการที่สำคัญในการตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ ดังนั้นหากผู้ถือครองซิมการ์ดรายใดไม่มายืนยันตัวตนในเวลากำหนด หมายเลขอาจถูกระงับการใช้งาน และถูกเพิกถอนไปในที่สุด เพื่อป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าวย้ำ
