กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเปิดการประชุมวิชาการ อกท. ระดับชาติที่ลำพูน โดยมี ด็อกเตอร์คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่ปรึกษาองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ (อกท.) ตามเสด็จถวายงานกิจการอาชีวเกษตรและประมงเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๗ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการ ระดับชาติ #องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ (อกท.) ครั้งที่ ๔๔ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน โดยมีนายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีว่าการศธ.) นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) นายศิริพงศ์ เมียรเพ็ชร์ ประธานอำนวยการ อกท. ระดับชาติ นายจักรกฤษณ์ ทิพเลิศ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน นายก อกท. ระดับชาติ เฝ้ารับเสด็จฯสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำรัสเปิดการประชุมวิชาการ ระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.) ในพระราชูปถัมภ์ฯ ครั้งที่ ๔๔ ความว่า “ข้าพเจ้ายินดีที่ได้มาเปิดการประชุมวิชาการ ระดับชาติ ของสมาชิกองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๔๔ ในวันนี้ การประชุมทางวิชาการของสมาชิกองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยฯ เป็นเวทีให้นักศึกษาได้นำเสนอผลงานที่เกิดขึ้นจากการศึกษาคิดค้นด้วยตนเอง โดยมีครูผู้สอนเป็นที่ปรึกษา แสดงให้เห็นศักยภาพและความสามารถ ความขยันหมั่นเพียร ความมุ่งมั่นของผู้เรียน อันเป็นคุณสมบัติสำคัญเมื่อถึงเวลาออกไปประกอบอาชีพ การประชุมวิชาการนี้ ยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาต่างสถาบัน ต่างภูมิลำเนา ได้มาพบปะทำความรู้จักกัน ได้ฝึกฝนการทำงานร่วมกับผู้อื่น เรียนรู้เรื่องมนุษยสัมพันธ์ ส่งเสริมให้เกิดความคิดและความสัมพันธ์ที่ดี นักศึกษาจะได้รับความรู้ทั้งด้านวิชาการ ประสบการณ์ที่มีคุณค่าและรู้จักโลกภายนอกกว้างขวางยิ่งขึ้น จากสิ่งแวดล้อมที่คุ้นชินอยู่เป็นประจำ เมื่อถึงเวลาต้องประกอบอาชีพไม่ว่าจะเป็นอาชีพด้านเกษตรหรืออาชีพใดก็ตาม ประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมการประชุม จะมีส่วนช่วยให้นักศึกษาเรียนรู้งานได้เร็ว มีความคิดริเริ่ม ทำงานเป็นและมีประสิทธิภาพ ขอแสดงความชื่นชมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เข้าใจวัตถุประสงค์ของงานและสนับสนุนการจัดงานเป็นอย่างดีมาตลอด ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาการศึกษาสาขาเกษตรกรรมของประเทศให้เจริญก้าวหน้า เป็นสาขาที่น่าสนใจเรียนรู้ และน่าภาคภูมิใจ”tt ttจากนั้น ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการและผลงานวิชาการองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย (อกท.) ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับฟังการบรรยายผลงานวิชาการ เรื่อง การศึกษาคุณสมบัติทางเคมี การต้านอนุมูลอิสระ และมาตรฐานของไวน์ข้าวที่ผลิตจากข้าวพื้นเมือง ๓ สายพันธุ์ ของสมาชิก อกท.หน่วยมหาสารคาม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี (วษท.) มหาสารคาม มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาคุณสมบัติทางเคมีและสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ การยอมรับทางประสาทสัมผัส และคุณภาพไวน์ข้าวที่ผลิตจากข้าวพื้นเมือง ๓ สายพันธุ์ ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน สาโท มผช.๓/๒๕๔๖ ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการเด่น วษท.ลำพูน นิทรรศการวิชาการ สมาชิก อกท. จำนวน ๑๒ ราย ผลงานทางวิชาการ ๓ ภาค ผลงานสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร ผลงานสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ สมาชิก อกท.ดีเด่น จำนวน ๘ ราย สมาชิกพัฒนาสังคมดีเด่น จำนวน ๔ ราย สมาชิกศิษย์เก่าดีเด่น อกท. จำนวน ๔ ราย และหน่วย อกท. ดีเด่น จำนวน ๔ รายจากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่ง ไปยังอาคารทูลกระหม่อมแก้ว รถยนต์พระที่นั่งถึงอาคารทูลกระหม่อมแก้ว เสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่ง ทรงปลูกต้นคำมอกหลวง (จำนวน ๑ ต้น) เสด็จฯ ไปทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคาร “ทูลกระหม่อมแก้ว”ในการนี้ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กราบบังคมทูลรายงานการดำเนินงาน อกท. ระดับชาติ ครั้งที่ ๔๔ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาทเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดการประชุมวิชาการ ระดับชาติ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ ๔๔ ในวันนี้ องค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ ได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้เป็นกลไกที่สำคัญในการพัฒนานักเรียน นักศึกษาอาชีวะเกษตร และได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณทรงรับไว้ในพระราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ เหล่าข้าพระพุทธเจ้าน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนายุวเกษตรกร เหล่าข้าพระพุทธเจ้าจะมุ่งมั่นให้การส่งเสริมสนับสนุนผู้เรียนให้ได้เรียนรู้เทคโนโลยีการเกษตร พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และฝึกฝนให้สามารถใช้ทักษะและประสบการณ์สร้างประโยชน์แก่ตนและแก่วงการเกษตรกรรมของประเทศต่อไป ภายใต้สถานการณ์ที่ผันแปรอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบันนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้หลายภาคส่วนต้องมีการปรับตัว รวมถึงภาคเกษตรของไทย ภายใต้วิกฤติก็ยังมีโอกาสที่ทำให้เกิดความคิดใหม่ๆ ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ วิธีคิดและวิธีปฏิบัติงาน จึงได้เรียนรู้และพัฒนารูปแบบการทำการเกษตรวิถีใหม่ ผสมผสานองค์ความรู้กับเทคโนโลยีการเกษตรเพื่อพัฒนาการเกษตรไทยรวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระราชทานไว้ให้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนองค์การฯ ได้นำผลสำเร็จในการสร้างสมาชิกผู้นำขององค์การฯ ทั้งในส่วนของสมาชิกปัจจุบันและสมาชิกศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จมาจัดแสดงเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมวิชาการ ครั้งนี้ และได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเครือข่ายภาคเอกชน ชุมชนในท้องถิ่น และบริษัทห้างร้าน เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมให้ผู้ร่วมงานนักเรียน นักศึกษา เกษตรกรและประชาชน ได้รับความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางการเกษตร อันจะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประกอบอาชีพในอนาคตต่อไป.
Related posts