Sunday, 22 September 2024

หนุ่ม ๒๔ ตั้งรางวัลนำจับแร็ปเปอร์ แฟนหนุ่มย่องฉกไปครึ่งแสน 

หนุ่มเชียงใหม่วัย ๒๔ ปี ตั้งรางวัลนำจับแฟนหนุ่มแร็ปเปอร์ ๗,๐๐๐ บาท หลังย่องกดแอปโอนเงิน แถมฉกมือถือไปกว่าครึ่งแสน คิดไม่ถึงคนรักกันจะทำกันได้ลงคอ จำใจต้องแจ้งความ   วันที่ ๒๙ ม.ค. ๒๕๖๗ ตามที่กล้องวงจรปิดที่โรงแรมอินทนิน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ บันทึกภาพหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งที่ออกมาจากห้องพัก หลังจากก่อเหตุขโมยทรัพย์สิน โดยชายคนดังกล่าวค่อยๆ ปิดประตูเดินออกไป โดยมีเพื่อนขี่มอเตอร์ไซค์มารอรับ แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีหนุ่มคนดังกล่าวก็กลับมาที่ห้องอีกครั้งเหมือนลืมของ ก่อนจะออกไปจากโรงแรมเป็นครั้งที่สอง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลาประมาณ ๐๖.๑๒ น. วันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา  ภาพหลักฐานนี้ นายจิตรภาณุ (ขอสวนนามสกุล) อายุ ๒๔ ปี ผู้เสียหายใช้เป็นหลักฐานโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศตามตัวชายหนุ่มที่ก่อเหตุ พร้อมตั้งรางวัลสำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุมเป็นเงิน ๗,๐๐๐ บาท โดยนายจิตรภาณุบอกว่าผู้ที่ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นแฟนหนุ่มที่ตัวเองรักและไว้ใจ ไม่คิดว่าจะมาทำกันได้ลง นายจิตรภาณุ เล่าว่า แฟนหนุ่มชื่อ นายบุญหลง อายุ ๒๑ ปี เป็นนักร้องแร็ปเปอร์ไทใหญ่ และหนุ่มรับงานเอนเตอร์เทนในตัวเมืองเชียงใหม่ รู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะนัดเจอ และคบกันมาได้ประมาณ ๗ เดือน โดยเมื่อประมาณ ๔ เดือนที่ผ่านมาได้ให้ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ระหว่างนั้นตนดูแลเป็นอย่างดี ไม่ต้องทำงานอะไร เพียงแต่ให้ช่วยที่บ้านทำงานด้านเกษตรกรรมเป็นครั้งคราว ต่อมา นายบุญหลง บอกว่าจะต้องเดินทางกลับบ้านที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เพื่อไปขึ้นทะเบียนรายงานตัวเกณฑ์ทหาร วันที่ ๑๖ มกราคมที่ผ่านมา ตนพร้อมกับเพื่อนอีก ๔ คนจึงขับรถไปส่งในคืนวันที่ ๑๖ มกราคม ได้แวะเที่ยวสถานบันเทิงในตัวเมืองเชียงใหม่ก่อน โดยคืนนั้นได้ไปเที่ยวกลับมาที่โรงแรมประมาณตีห้า ตอนนั้นตนเมามากจึงหลับไป ตื่นขึ้นมาก็พบว่า นายบุญหลง หายตัวไปแล้ว เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินก็พบว่าเงินในธนาคารของตัวเองถูกโอนผ่านแอปพลิเคชันไป ๓๕,๐๐๐ บาท และโทรศัพท์มือถือไอโฟน ๑๔ โปรแมกซ์ มูลค่าประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท ถูกขโมยไปด้วย       หลังเกิดเหตุจึงได้ขอดูภาพวงจรปิดจากโรงแรม พบว่าแฟนหนุ่มของตัวเองเป็นคนก่อเหตุ และได้หลบหนีไปจากโรงแรม จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย โดยบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง มาทราบหลังจากนั้นว่าหนีไปประเทศเมียนมาแล้ว เมื่อติดต่อไม่ได้จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ที่ผ่านมา แต่ด้วยความรักและผูกพันจึงอยากให้โอกาส โดยตอนนี้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน อยากให้กลับตัวกลับใจ และจากกันด้วยดี แต่หากไม่ยอมกลับมาเอาเงิน และโทรศัพท์มาคืน ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นายจิตรภาณุ บอกด้วยว่า รู้สึกเสียใจ เพราะตนเป็นคนรักใครรักจริง แต่ไม่คิดว่าคนที่ตัวเองรักจะมาทำกันได้ลงคอ และอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ในการคบหากับใคร อย่าไปไว้ใจใครง่ายๆ.