Thursday, 19 December 2024

เทียบเชิญสี จิ้นผิง มาเยือนไทย “เศรษฐา” ปลื้มรัฐบาลจีนสนใจ “แลนด์บริดจ์”

30 Jan 2024
149

“เศรษฐา” โอ่ไปทุกที่ ไม่มีใครไม่ต้องการดิจิทัลวอลเล็ต “ภูมิธรรม” บ่นปวดหัวสารพัดความเห็นแตกต่างหลากหลาย รอยำปรับปรุงให้รอบคอบครบถ้วน อ้อมแอ้มยังไม่รู้จะออก พระราชบัญญัติหรือ พ.ร.ก.กู้เงิน “สมคิด” ยันรัฐบาลพร้อมแจง สว.ซักฟอกปลาย ก.พ. การันตีนายกฯไม่มีปัญหากับสภาฯ พร้อมตอบทุกคำถาม “เสรี” เผย สว.หลายสิบคนลับดาบรอขย่ม ๗ ประเด็นร้อน ขึงขังแจกเงินหมื่นยุติหรือไปต่อต้องไปถกในสภาฯ นายกฯถก “หวัง อี้” ชื่นมื่น เพิ่มความร่วมมือการค้าไทย-จีน ปลื้มรัฐบาล-ภาคเอกชนแดนมังกรสนใจร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ ส่งเทียบเชิญ “สี จิ้นผิง” เยือนไทย “เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน” ล่าชื่อชง ก.ม.นิรโทษฯ ดันปล่อยผีคดีชุมนุมพ่วงมาตรา ๑๑๒แม้จะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลว่าโครงการนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาท จะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ ในรูปแบบใด แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รัฐมนตรีว่าการคลัง ยังคงแสดงความมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังให้การสนับสนุนนายกฯโวไม่มีใครไม่เอาเงินดิจิทัลเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. เมื่อวันที่ ๒๙ ม.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการคลัง เป็นประธานการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ ทั้งนี้ ก่อนการประชุมนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นิด้าโพลเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนว่าไม่โกรธเลยถ้ายกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ๑๐,๐๐๐ บาทว่า โพลก็มีหลายๆอย่าง ทั่วถึงหรือไม่ ถามคนที่ จ.หนองบัวลำภู บึงกาฬ หรือไม่ เพราะอย่างนั้นต้องดูนิดหนึ่งแล้วกัน เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าที่นายกฯลงพื้นที่ประชาชนต้องการใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ไม่มีใครบอกว่าไม่ต้องการเลย”tt ttจับเข่าคุย “หวัง อี้” ร่วมมือชื่นมื่นต่อมาเวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศ พรรคคอมมิวนิสต์จีนและ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ สาธารณรัฐ ประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยนายกฯฝากความระลึกถึงและปรารถนาดีไปยังนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนและนายหลี่ เฉียง นายกฯจีน และยินดีสำหรับการลงนามความตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน เชื่อมั่นว่าจะช่วยผลักดันเรื่องการค้าขายและความสัมพันธ์ในระดับประชาชนร่วมกัน ปี ๖๘ ไทยและจีนจะครบรอบการฉลอง ๕๐ ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ขณะที่นายหวัง อี้ ชื่นชมนายกฯที่ได้เลือกเยือนจีนเป็นประเทศแรกในเอเชีย แสดงให้เห็นว่าไทยให้ความสำคัญกับจีน ที่ผูกพันธ์ฉันมิตรอย่างใกล้ชิด ดังเช่นที่กล่าวว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” สอดคล้องกับที่นายกฯหารือกับนายสี จิ้นผิง ต่างเห็นพ้องจะสร้างประชาคมสำหรับประชาชนร่วมกันในอนาคต เชื่อมั่นไทยจะเป็นกำลังสำคัญส่งเสริมเสถียรภาพและสันติภาพทั่วโลกลงนามความตกลงไทย-จีน ๒ ฉบับผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านการค้าและการลงทุน ไทยยินดีที่วิสาหกิจและภาคเอกชนจีนมาลงทุนในไทยเป็นอันดับต้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ไทยพร้อมส่งเสริมการเติบโตของบริษัทจีนเพื่อส่งออกสินค้าไปยังตลาดทั่วโลก นายหวัง อี้ เห็นพ้อง ด้านความสัมพันธ์ระดับประชาชนและการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการลงนามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน พร้อมเน้นย้ำได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน จีนเห็นถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของโครงการแลนด์บริดจ์ นายกฯยินดีจะจัดโรดโชว์ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน นายกฯยืนยันความตั้งใจฝ่ายไทยในการเชื่อมโยงระบบขนส่งทางรางไทย-ลาว-จีน ด้านการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เห็นพ้องหาแนวทางรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่อย่างครอบคลุม ทั้งขบวนการหลอกลวงทางโทรศัพท์ การพนัน ออนไลน์ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด นายหวัง อี้ ยืนยันจีนพร้อมร่วมมือ ส่วนด้านความร่วมมือระดับภูมิภาค ไทยเชื่อมั่นจะเป็นตัวแทนรักษาเสถียรภาพ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตให้กับภูมิภาคนี้ได้ นายหวัง อี้ ยืนยันว่าจีนพร้อมสนับสนุนไทยในการเป็นประธานกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ในปี ๖๗ เพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับประชาชาชนในภูมิภาคจับมือเพิ่มการค้าลงทุนการเกษตรผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการหารือทั้ง ๒ ฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือ ๒ ฉบับของกระทรวงเกษตรฯและสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แก่ ๑.พิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืช สำหรับการส่งออกต้นสนใบพาย จากประเทศไทยไปประเทศจีน และ ๒.ความตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสารว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบ การกักกัน และสุขอนามัยทางสัตวแพทย์เพื่อการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็งและชิ้นส่วนสัตว์ปีกไทยไปจีน โดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นผู้ลงนามฝ่ายจีน โดยมีนายกฯเป็นประธานสักขีพยาน พร้อมนายหวัง อี้ และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศเข้าร่วมด้วยเทียบเชิญ “สี จิ้นผิง” เยือนไทยจากนั้นเวลา ๑๑.๒๐ น. นายเศรษฐาแถลงว่า ได้พูดคุยกันหลายมิติเรื่องวีซ่าฟรีไทย-วีซ่า เริ่มวันที่ ๑ มีนาคมถือเป็นมิติที่ดี จำนวนเที่ยวบินที่ยังไม่กลับเข้ามาสู่จำนวนปกติ ก่อนโควิด-๑๙ ไม่แน่ใจอาจประมาณ ๒,๐๐๐ ไฟลท์ ปัจจุบันเหลือแค่ ๑,๒๐๐ ไฟลท์ จะมีการยกระดับการเดินทาง ๒ ประเทศเพื่อไปมาหาสู่สะดวกสบายยิ่งขึ้น และเริ่มมั่นใจว่าอนาคตอันใกล้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสูงขึ้น ขณะที่คนไทยจะเที่ยวประเทศจีนที่มีวัฒนธรรมอันดีงามด้วย และไทยยืนยันเจตนารมณ์สนับสนุนการเป็นประเทศกลาง ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนได้พูดคุยกันในหลายมิติเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องที่คุยกันหลายมิติ ทั้งการสร้างโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆไม่ใช่แค่รถอีวีอย่างเดียว การไปมา หาสู่รถไฟความเร็วสูง ที่จะมีขึ้นจากประเทศไทยผ่าน หนองคาย ผ่าน สปป.ลาว และเข้าจีน ด้านการเกษตรกรรม ทั้งการค้าโค ซึ่งจีนต้องการอย่างมาก แต่ด่านกักกันตรวจเชื้อโรคอยู่ที่ สปป.ลาว ทำให้การค้าระหว่าง ๒ ประเทศไม่สะดวก จึงได้ขอร้องอย่าให้มีด่านกักกัน และตรวจโรคนี้เกิดขึ้นในไทย ประเทศจีนรับปากและได้เรียนเชิญนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มาเยือนประเทศไทยด้วย ส่วนความคืบหน้ารถไฟไทย-จีน มีแผนงานอยู่แล้ว ขอให้แผนงานทั้งหมดออกมาเป็นรายละเอียดแล้วจะแถลงให้ทราบอีกทีปลื้ม รบ.-เอกชนจีนสนใจแลนด์บริดจ์นายเศรษฐากล่าวอีกว่า โครงการแลนด์บริดจ์ นายหวัง อี้ ได้พูดขึ้นมาเองว่าทางการจีนสนใจแลนด์ บริดจ์และต้องการข้อมูลเพิ่ม และไม่ใช่เพียงแค่รัฐบาลจีนเพียงอย่างเดียว แต่เอกชนจีนก็สนใจที่จะมี ส่วนร่วม เพราะเขาทราบดีว่าหนึ่งในเหตุผลหลักที่เราดำริขึ้นมาว่าควรจะมีแลนด์บริดจ์ เพราะการลงทุนที่จะข้ามมาจากประเทศจีนช่วงหลายปีหลังบริษัทใหญ่ๆในประเทศจีนมาลงทุนสร้างโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่มากในเมืองไทย และไม่ใช่แค่มาสนองตอบแค่ความต้องการของคนในประเทศไทยอย่างเดียว แต่จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการส่งออกด้วย แน่นอนว่าเราต้องมีท่าเรือน้ำลึก มีโครงการเมกะโปรเจกต์ใหญ่ๆ อย่างแลนด์บริดจ์ ที่จะมาซัพพอร์ตตรงนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการคมนาคม จะเดินทางไปประเทศจีนเร็วๆนี้ เพื่อจัดทำโรดโชว์tt ttคิวต่อไปบินเจาะตลาดศรีลังกานายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯเปิดเผยว่า นายกฯมีกำหนดการเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเป็นทางการ ระหว่างวันที่ ๓-๔ กุมภาพันธ์ตามคำเชิญของนายรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีศรีลังกา เป็นแขกเกียรติยศในโอกาสวันเอกราชศรีลังกา ครั้งที่ ๗๖ และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกา (Thailand-Sri Lanka Free Trade Agreement) จะได้พบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีศรีลังกาและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกาเป็นฉบับที่ ๑๕ ของไทย และเป็นฉบับแรกที่ลงนามในรัฐบาลนายเศรษฐา รวมถึงจะร่วมประชุมหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนศรีลังกา และร่วมกล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา ภายใต้หัวข้อ “สำรวจช่องทางตลาดและเปิดประตูการค้าการลงทุนสู่ศรีลังกา” จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ศรีลังกาและสภาหอการค้าซีลอน เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนภายหลังการลงนามความตกลงการค้าเสรี“อ้วน” ย้ำแถลงไว้ต้องเดินต่อเงินดิจิทัลเมื่อเวลา ๐๘.๔๐ น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล เรื่อง “วิกฤติเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต” โดยส่วนใหญ่ไม่โกรธ หากรัฐบาลจะยกเลิกนโยบายแจกเงินดิจิทัล เพราะเข้าใจสภาพเศรษฐกิจว่า เรื่องดิจิทัลวอลเล็ตมีความเห็นแตกต่างหลากหลาย รัฐบาลยินดีรับฟัง ผลโพลเป็นหนึ่งความเห็นต่อการจัดการแก้ไขปัญหา รัฐบาลจะรวบรวมทุกความคิดเห็นมาพิจารณาให้รอบคอบ ย้ำตลอดให้ดูเจตนารมณ์รัฐบาลจะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาประชาชนอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ขยายตัวออกไปมากขึ้น นโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภาถือเป็นสัญญาผูกพันที่แจ้งไว้ต่อตัวแทนของประชาชน จึงเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ ส่วนจะดำเนินการหรือไม่อย่างไรขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของส่วนต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยราชการที่มีหน้าที่ต้องตอบสนองนโยบายรัฐบาล ส่วนความเห็นที่แตกต่างของผู้นำหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องดำเนินการ หากไม่ดำเนินการตามสิ่งที่รัฐบาลเสนอต้องกลับไปทบทวนและพิจารณาว่านโยบายนั้นจะดำเนินการไปได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับเจตจำนงของสภาฯ ที่ตัวแทนประชาชนกำหนดไว้ด้วยโอดปวดหัวสารพัดความเห็นต่างเมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะปรับจากการออกเป็น พระราชบัญญัติกู้เงินมาเป็น พ.ร.ก.เนื่องจากประชาชนเห็นว่าต้องการให้แก้วิกฤติเร่งด่วนหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ถ้าฟังทุกอย่างจะเป็นแบบที่เห็น ยอมรับว่าปวดหัวกับความเห็นที่แตกต่าง จึงต้องนำมาพิจารณาอย่างรอบด้าน เมื่อเข้าใจและได้ข้อสรุปว่าวิธีการใดจะดีที่สุด ที่ไม่กระทบกับความคิดเห็นคนส่วนใหญ่ จะดำเนินการวิธีการนั้น จึงยังตอบไม่ได้ว่าจะออกเป็น พระราชบัญญัติหรือ พ.ร.ก. แต่ทุกอย่างต้องเป็นวิธีการที่ไปได้ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและสภาพแวดล้อม ส่วนที่แสดงความคิดเห็นผ่าน × ว่าหาก ปี ๒๕๖๗ ไม่มีกระตุ้นเศรษฐกิจ สถานการณ์จะเทียบเท่ากับปี ๒๕๔๐ มีนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์กลุ่มหนึ่งเห็นว่าอาการตอนนี้คล้ายกับปี ๒๕๔๐ ขณะที่หลายคนบอกว่าไม่วิกฤติเลย และเรายังจัดการไปได้ แต่รัฐบาลพยายามคิดสิ่งที่ออกไปไกลขึ้น อิงข้อมูลทางวิชาการและความเห็นประชาชน โดยยึดหลักว่าถ้าคิดอะไรแบบเดิมชีวิตก็เป็นแบบเดิม มาถึงจุดนี้ประเทศหยุดเดินหน้าไป ๑๐ ปี ยังต้องดิ้นรนตะเกียกตะกาย การจะให้ช่วยเร่งด่วนหรือไม่เร่งด่วนขึ้นอยู่กับภาวะและศักยภาพประชาชน ถ้าคิดแบบใหม่และพยายามทำให้รอบคอบจะได้อะไรใหม่ๆเกิดขึ้น ทั้งนี้จะนัดประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตโดยเร็วที่สุด กำลังดำเนินการอยู่ เมื่อถามย้ำว่าต้องรอความเห็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเพียงข้อคิดเห็น เป็นเพียงจินตนาการว่าหากเป็นอย่างนี้จะมีปัญหาอย่างนั้น แต่ถือว่าเป็นความคิดเห็นที่ดีเป็นข้อเตือนใจ เป็นเพียงข้อสังวรไม่ใช่ข้อปฏิบัติรบ. พร้อมแจงซักฟอกปลาย กุมภาพันธ์ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณี สว.วางกรอบเวลาเตรียมอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๑๕๓ เพื่อให้รัฐบาลชี้แจง ตอบข้อซักถามช่วงเดือน กุมภาพันธ์ว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาลพูดคุยกันเบื้องต้นว่าเมื่อได้รับญัตติจาก สว.แล้ว รัฐบาลโดยนายกฯ จะหารือกับ ครม. เท่าที่ทราบจากรัฐมนตรีบางคนจะพร้อมช่วงปลายเดือน ก.พ. ส่วนวันเวลาชัดเจนขอหารือกันก่อน ยืนยันรัฐบาลยินดีตอบข้อซักถาม สว. ถือเป็นช่องทางหนึ่งที่รัฐบาลจะได้ชี้แจงนโยบายทำอะไรไปบ้าง จากที่เริ่มต้นมา ๔-๕ เดือน และจะเดินหน้าต่ออย่างไร ถือโอกาสขอบคุณ สว.tt ttนายกฯไร้ปัญหาพร้อมตอบทุกเม็ดนายสมคิดกล่าวอีกว่า จะถามอย่างไรมาเชื่อว่ารัฐบาลไม่มีปัญหา ตอบได้ ส่วนเวลาอภิปราย สว.ขอเวลา ๒ วัน ยังไม่ได้หารือ อยู่ที่เนื้อหาไม่ใช่เวลา ถ้าเนื้อหาซ้ำเดิมไม่น่าฟัง ขอให้นำเนื้อหาเป็นประโยชน์กับประชาชนมาอภิปราย อย่าไปวิตกจะมีวาทกรรมโจมตีสั่นคลอนรัฐบาล ในสภาฯ ถ้าพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล เชื่อว่าไม่มีปัญหา ปกติผู้นำรัฐบาลพร้อมมาชี้แจงอยู่แล้ว นายกฯไม่มีปัญหากับสภาฯ พร้อมตอบทุกคำถามสว.หลายสิบชีวิตรอรุมซัก ๗ เรื่องร้อนนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว.กล่าวว่า ประธานวุฒิสภานำญัตติดังกล่าวเข้าที่ประชุมวิปวุฒิสภา เมื่อวันที่ ๒๕ ม.ค. ได้ตั้งคณะทำงาน ๑ ชุด มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา เป็นหัวหน้าคณะ ประสานงานกับ สว. ที่จะอภิปรายและรวบรวมประเด็นที่จะอภิปราย เพื่อจัดลำดับการอภิปรายให้ครอบคลุม ๗ ประเด็น ถ้าเป็นไปได้ขออภิปรายเดือน กุมภาพันธ์รวม ๒ วัน คือวันจันทร์และอังคาร นายกฯควรมาชี้แจงเอง เพราะเป็นการอภิปรายรัฐบาลถ้าหัวหน้ารัฐบาลไม่มา จะทำให้เนื้อหาที่จะตอบไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เห็นนโยบายที่แท้จริงรัฐบาล หวังว่านายกฯจะมาชี้แจงด้วยตัวเอง มี สว. แจ้งความจำนงหลายสิบคนขออภิปราย จะเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเรื่องนั้นๆ เช่น นายถวิล เปลี่ยนศรี นายสมชาย แสวงการ นายคำนูญ สิทธิสมานแจกเงินหมื่นไปต่อหรือยุติไปคุยในสภาเมื่อถามว่าห่วงหรือไม่ว่ารัฐบาลจะดึงให้ไปอภิปรายพร้อมช่วงที่ สส.อภิปรายไม่ไว้วางใจเดือน มีนาคมหรือ เม.ย. นายเสรีตอบว่า อยู่ที่สะดวก ความจริงใจ สุจริตใจในการมาร่วมทำหน้าที่ สภาฯจะครบสมัยประชุมวันที่ ๙ เม.ย. จึงควรต้องดำเนินการให้เสร็จภายในเดือน กุมภาพันธ์หรือ มี.ค. สว.ไม่อยากให้ชักช้า ถ้าหากอภิปรายเดือน กุมภาพันธ์สะดวก ไม่ต้องเสี่ยงช่วงหมดสมัยประชุม เมื่อถามว่าล่าสุดนิด้าโพลระบุประชาชนส่วนหนึ่งต้องการให้ชะลอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไว้ก่อน นายเสรีตอบว่า การแจกเงินดิจิทัลเป็นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ประชาชนอยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ยั่งยืน ไม่เป็นภาระประเทศ ขณะที่ สว.ยื่นญัตติ รัฐบาลยังยืนยันทำโครงการนี้ เป็นเรื่องต้องพูดคุยกันในสภาฯ๒๓ องค์กรรณรงค์ดัน ก.ม.นิรโทษเวลา ๑๕.๐๐ น. ที่สี่แยกราชประสงค์ เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ๒๓ องค์กร หรือเดิมคือกลุ่มแนวร่วมม็อบราษฎร ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมบนถนนเรียกร้องการปฏิรูปช่วงปี ๖๓-๖๕ นำโดยนายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือปอ กลุ่มฟื้นฟูประชา ธิปไตย ร่วมจัดกิจกรรมคิกออฟการรณรงค์ “นิรโทษ กรรมประชาชน” โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนชูป้ายเรียกร้องสนับสนุนนิรโทษกรรมประชาชน ป้าย QR code ให้ผู้สนใจสแกนอ่านเนื้อหาร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน โดยหยุดยืนชูป้ายหน้า รพ.ตำรวจ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสยามสแควร์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมราว ๒๐ คน ส่วนใหญ่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีการเมืองเกี่ยวกับการชุมนุมของม็อบราษฎรและคดีมาตรา ๑๑๒ อาทิ น.ส.ธนพร วิจันทร์หรือ ไหม นายชาติชาย แกดำ หรือบอย นายจิรภาส กอรัมย์ หรือแก็ป เป็นต้น เครือข่ายประกาศเตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ทั่วประเทศในวันที่ ๑-๑๔ ก.พ. ขอแรงสนับสนุนจากประชาชนเข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับประชาชนต่อสภาฯ เนื้อหารวมการนิรโทษกรรมคดีมาตรา ๑๑๒ และล้างคดีจากทะเบียนประวัติของตำรวจไม่ขออนุญาต ตำรวจเตือนผิดกฎหมายต่อมาเวลา ๑๕.๔๕ น. ระหว่างรณรงค์ใต้สถานี รถไฟฟ้า BTS พ.ต.อ.อาคม ชุมพรัตน์ ผกก. สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน เข้าแจ้งต่อกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ขอให้นายกรกช แกนนำกลุ่ม ยุติการชุมนุมครั้งนี้ใน ๓๐ นาที เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะไม่ได้แจ้งเจ้าพนักงานพื้นที่ตาม พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ อาจถูกดำเนินคดีได้ กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เลิกแต่ตะโกนสวนกลับตำรวจมาว่า “เยี่ยมจริงๆ” ต่อมาได้ขึ้นรถไฟฟ้า BTS เพื่อเดินทางไปรณรงค์ที่สถานีหมอชิตต่อไปtt tt“ทวี” เผยยังไร้โผพักโทษ “ทักษิณ”เมื่อเวลา ๑๐.๓๐ น.ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าของระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.๒๕๖๖ หรือระเบียบคุมขังภายนอกเรือนจำว่า ระเบียบประกาศใช้มาสักพักแล้ว ขณะนี้กรมราชทัณฑ์ยังอยู่ระหว่างจัดทำแนวทางการปฏิบัติ และกำหนดคุณสมบัติของผู้ต้องขังรองรับระเบียบ ขึ้นกับกรมราชทัณฑ์จะพิจารณา ขอยืนยันไม่ได้ออกระเบียบเพื่อเอื้ออำนวยใครคนใดคนหนึ่ง สถานที่คุมขังอื่นๆ มีสถานะเหมือนเรือนจำทุกประการ กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเข้าโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ ๗๐ ปีขึ้นไปหรือไม่ ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการเสนอชื่อของอดีตนายกฯและรายชื่อผู้ต้องขังอื่นๆที่จะเข้าโครงการพักการลงโทษศาลยกฟ้อง “ไอซ์” หมิ่น ๒ พิธีกรที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก อดีตพิธีกรท็อปนิวส์ และนายกนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรท็อปนิวส์ เป็นโจทก์ฟ้องไอซ์ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ฐานหมิ่นประมาทตาม ป.อาญามาตรา ๓๒๖ กรณีร่วมชุมนุมกับกลุ่มรีเดม เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม๖๔ ที่หน้าศาลอาญา จำเลยพูดใส่ความโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ระหว่างปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของสื่อมวลชน โดย น.ส.รักชนกให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง พิเคราะห์แล้วว่าเป็นการติชมโดยสุจริต คดีนี้โจทก์ทั้ง ๒ เรียกค่าเสียหายมาคนละ ๑๐ ล้านบาท ในเมื่อไม่มีความผิดทางอาญา ศาลพิพากษาให้ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายทางเเพ่ง อยากให้คำพิพากษาคดีนี้เป็นบรรทัดฐาน ในเมื่อสื่อมีพื้นที่มากมายนำเสนอข่าววิพากษ์วิจารณ์ก็ควรถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตได้เช่นกัน แต่ขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาทบ.เดินหน้าฟ้อง สส.ส้มถือ สด.๔๓ เก๊ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.ท.ทวีพูล ริมสาคร ผบ.นรด. แถลงถึงการตรวจสอบกรณีใบ สด.๔๓ เอกสารผ่านการเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการทหารหรือการเกณฑ์ทหาร ที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก.นำมาโชว์ไม่ตรงกับต้นขั้วของ นรด.ว่า ลำดับขั้นตอนการได้มาใบ สด.๔๓ ที่ถูกต้อง มี ๒ รูปแบบ คือผู้ที่จับใบดำใบแดง ส่วนอีกกรณีคือผู้ที่ผ่อนผันจะได้ สด.๔๓ กลับไปเช่นเดียวกัน แต่จะมีช่องเขียนว่า ผ่อนผัน เงื่อนไขสำคัญจะต้องได้รับจากมือประธานกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือกวันเดียวเท่านั้น ไปรับวันอื่นก็ไม่ใช่ สด.๔๓ ส่วนคนที่เข้ากระบวนการไม่ว่าจะจับใบดำหรือใบแดงจะต้องมีการพิมพ์ลายนิ้วมือด้วย กรรมการ ๕ คนเซ็นครบทุกช่อง ถ้าไม่ใช่ตามที่บอกจะไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้ เมื่อถามว่าจากการตรวจสอบพบต้นขั้ว สด.๔๓ ของนายจิรัฏฐ์หรือไม่ ผบ.นรด.ตอบว่า ใครอยู่ในระบบ ต้นขั้วเจอหมด ต้องมีต้นขั้ว ขณะนี้กองทัพบก (ทบ.) อยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐานแจ้งความ เข้าใจว่าจะใช้เวลาภายในวันสองวันนี้ ส่วนความผิดอยู่ที่ศาลจะตัดสิน“จิรัฏฐ์” ยืนกรานไม่ได้ปลอมเอกสารด้านนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์กรณีมีแหล่งข่าวจาก ทบ.ระบุว่า ไม่พบต้นขั้ว สด.๔๓ ของนายจิรัฏฐ์ และในช่วงที่ถูกเรียกให้มารายงานตัวเข้าเกณฑ์ทหารใช้ชื่อเดิมว่านายนวรินทร์ ทองสุวรรณ์ แต่ในใบ สด.๔๓ ที่นำมาโชว์ต่อสื่อเป็นชื่อนายจิรัฏฐ์ว่า ทบ.จะพบใบต้นขั้วได้อย่างไร ในเมื่อตนไม่เคยบอกตัวเลขใบสด.๔๓ ต้องนำมาเทียบกับใบต้นขั้วที่อยู่กับหน่วยงานรัฐ ส่วนกรณีเปลี่ยนชื่อจริงนั้น ยืนยันว่าตนได้แจ้งทาง ทบ.ไปแล้วว่า ได้เปลี่ยนชื่อ ยื่นเอกสารตามที่หน่วยงานต้องการทุกอย่าง แต่คงเป็นความผิดพลาดของทาง ทบ.เองที่ไม่ได้อัปเดตข้อมูล ยืนยันว่าไม่ได้ปลอมแปลงเอกสารแน่นอนอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่