การทุจริตคอร์รัปชันกลายเป็นข่าวโด่งดังอีกครั้ง เมื่อ “นักร้อง” ชื่อดัง ของประเทศ นายศรีสุวรรณ จรรยา กับพวกอีก ๒ คน ถูกอธิบดีกรมการข้าวแจ้งความต่อตำรวจป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานรัฐ เรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์ใดๆโดยมิชอบหลังจากที่ถูกจับตัวไปสอบสวน และได้รับประกันตัวออกมา นายศรีสุวรรณให้สัมภาษณ์สื่อว่า เป็นเรื่องธรรมดา เพราะ เคยยื่นตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการ ระดับสูงมาอย่างเข้มข้น จึงไปเหยียบตาปลาของผู้มีอำนาจ การเตะให้ศรีสุวรรณ ล้มลงได้ มันจะทำให้คนเหล่านี้ผยองขึ้นมา และยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับเงินส่วนนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวชี้แจงว่า โดนข่มขู่เรียกเงิน ๓ ล้านบาท แต่ต่อรองลดเหลือ ๑.๕ ล้านบาท งวดแรกจ่ายไปแล้ว ๑.๔ แสนบาท เหตุที่ยอมจ่ายเพราะเกรงว่าจะถูกร้องเรียนหรือโจมตีบ่อยครั้ง รายงานข่าวแจ้งว่า เรื่องที่ถูกนำมาอ้างเพื่อเรียกเงิน คือ งบประมาณของกรมการข้าวนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการ กกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว ระบุว่า ขณะที่ตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ๒๕๖๖ ได้รับทราบว่ากรมการข้าวได้รับงบเพิ่ม ๑๕,๒๖๐ ล้านบาท เพื่อ จัดซื้อครุภัณฑ์ให้ศูนย์ข้าวชุมชน ๕ พันแห่ง ทั้งที่มีแค่ ๒,๔๐๐ กว่าแห่ง จึงมีการโอนงบไปให้กระทรวงพาณิชย์ และ ธ.ก.ส.เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวนารายย่อย กรมการข้าวจึงไม่มีงบ ๑๕,๒๖๐ ล้านอีกต่อไป อธิบดีกรมการข้าวจึงไม่เดือดร้อน เมื่อนายศรีสุวรรณขู่จะแฉเรื่องที่อ้างว่ามีพิรุธการทุจริต กรณีที่เป็นข่าวโด่งดังอยู่ขณะนี้ สังคมมองว่าเป็นคดีการทุจริต แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐหรือเอกชนนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน เคยเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ก่อนการเลือกตั้ง ๒๕๖๖ ระบุว่าไทยมีการทุจริตมากกว่าสิงคโปร์ และแม้แต่เวียดนาม เหตุที่การทุจริตฝังรากลึกในสังคมไทย เพราะมีประเพณีการรับส่วยมาตั้งแต่ยุคโบราณ และสังคมไทยเป็นระบบอุปถัมภ์ คนจนต้องพึ่งพาผู้มีอำนาจนายกรัฐมนตรีชี้ว่า ในปัจจุบันมีปรากฏการณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง ที่อาจนำไปสู่การป้องกันและปราบปรามการทุจริต นั่นก็คือ มี “นักแฉ” พฤติกรรมชั่วร้ายต่อสังคมเกิดขึ้นมากมายที่เรียกกันว่า “นักร้อง” เรื่องราวการทุจริต แต่ข่าวโด่งดังกลายเป็น นักแฉเรื่องราวการทุจริต ถูกจับกุมดำเนิน คดีในข้อหาทุจริตภาคเอกชน.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม
