Thursday, 19 December 2024

อยากเห็นไพ่ใบใหม่

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมันส่อเค้าว่านโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่จะต้องออก พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาทจะไปไม่รอดเสียแล้วเพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเรียกประชุมคณะกรรมการฯชุดใหญ่ได้ ซึ่งตอนแรกบอกว่ารอผลการศึกษาของ ป.ป.ช.ก่อนจนล่วงเลยมาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววแต่อย่างใด โดยทีมงานบอกว่ายังไม่มีกำหนดการแต่อย่างใด เพียงแต่มีการคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้นเช่นกันนายกรัฐมนตรีแม้จะบอกว่าจะเดินหน้าต่อไป แต่ดูไม่กระตือรือร้นอย่างที่เคยเป็นมา เมื่อมีการถามเรื่องนี้ก็ตอบสั้นๆว่า ไม่เลิกแล้วกลับไปคุยเรื่องที่โพลระบุว่าประชาชนไม่โกรธรัฐบาลหากนโยบายนี้เดินหน้าต่อไปไม่ได้นายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ มีแต่บอกว่ากำลังรอว่าเมื่อใดจะคลอดออกมาเสียที เพราะรอมานานแล้วหรือ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและผู้คุมบังเหียนรัฐบาลตัวจริงก็บอกเพียงแค่ว่า มันเป็นเรื่องมุมมองของแต่ละฝ่ายอย่างข้อคิดเห็นของ ป.ป.ช.ก็เป็นเพียงแค่ต้องการให้รัฐบาลพึงสำเหนียกให้ดี ไม่ได้บอกว่าห้ามทำแต่อย่างใดแน่นอนว่าในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ทีมงานของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คงได้พิจารณาจากความเห็นของแต่ละฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คงเห็นร่วมกันว่าหนทางที่จะเดินหน้าต่อไปเป็นเรื่องยากทั้งด้านตัวนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง โดยเฉพาะที่รัฐบาลพยายามยํ้าคำว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ” แต่ในความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่อีกทั้งในแง่กฎหมายที่มีข้อจำกัดสูงและมีบทลงโทษหนักหากเดินหน้าต่อไปมีแต่เจ๊งลูกเดียวประเด็นสำคัญก็คือข้าราชการที่จ้องมีส่วนร่วมผลักดันก็คงไม่สบายใจนัก เนื่องจากมีบทเรียนจากการตัดสินใจของนักการเมืองแต่ต้องมาร่วมรับผิดชอบด้วย“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง“มือทำงาน” โดยตรงยอมรับว่าโครงการนี้ไม่ทันเดือน พฤษภาคม๒๕๖๗ แน่นอน แต่จะเป็นเมื่อไหร่ยังบอกไม่ได้ แต่ส่วนตัวหวังว่าจะเลื่อนไปไม่นาน โดยกระทรวงยังรู้ระหว่างรอหนังสือจาก ป.ป.ช.ซึ่งยังไม่มีการนัดหมายประชุมถ้าได้รับหนังสือแล้วก็ควรจะถึงจุดจบที่รัฐบาลต้องมาตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไปช่วงเวลานี้จึงเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานน่าจะมีคำตอบแล้วว่าจะเดินหน้าหรือหารูปแบบอื่นทำมากกว่าที่จะยึดรูปแบบตายตัวเพราะสภาพเศรษฐกิจอย่างที่รู้กันดีว่าไม่ค่อยจะดีนักแม้จะไม่ถึงขึ้น “วิกฤติ” แต่ก็ต้องมีการทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อทำให้ดีขึ้นเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันก็ไม่ค่อยจะดีนัก เนื่องจากเกิดตัวแปรของปัญหามากขึ้นทั้งปัญหาตะวันออกกลางที่ส่งผลกระทบด้านราคาน้ำมันและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขนส่งสินค้าเศรษฐกิจของจีนที่ยังไม่ดีขึ้นและมีผลต่อไทยโดยตรงรวมถึงการท่องเที่ยวที่ไทยคาดหวังจากนักท่องเที่ยวไว้สูงรวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศในภูมิภาคต่างๆหากรัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นด้วยวิธีการอื่นๆก็จะเกิดปัญหาทับถมซ้ำเติมเพิ่มขึ้นมาอีกนี่ก็ ๔ เดือนกว่าๆแล้ว ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ปรากฏ!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม