หลอนทะลุจอ! บูม-สุภาพร วงษ์ถ้วยทอง นักแสดงสาว-พิธีกรสาวจากรายการ “ผู้หญิงยกกำลังแจ๋ว” สลัคลุคสาวสตรอง ขอเปลี่ยนโหมดเป็น “ผีมะลิ” วิญญาณสุดเฮี้ยน เกรี้ยวกราดในละครพีเรียด “เรือนทาส” ทางช่อง ๓ กระแสปังเว่อร์! วีกนี้เลยชักชวนสาวบูมขึ้น “มาลัยไทยรัฐ” อวดความสวยแซ่บเล็กๆ เซ็กซี่หน่อยๆ โชว์สกิล “นางแบบ” ขั้นเทพให้ช่างภาพสุรกิจ แก้วมรกต ลั่นชัตเตอร์ สวยเป๊ะทุกมุมจริงๆtt ttจากนั้นสาวบูมเล่าถึงละคร เรือนทาส เป็นอะไรที่หลอนดี เชื่อว่าเป็นละครอีกรูปแบบนึงในช่วงนี้หาดูไม่ง่ายทางช่อง ๓ ผู้จัดทุ่มเทแรงกายอย่างเต็มที่ และเป็นละครที่แสดงให้เห็นตัวตนของคนจริงๆ “ตอนที่ทีมงานติดต่อมา รู้ว่าเล่นเป็นผี มีความน่าสนใจ เป็นพีเรียด แล้วบูมยังไม่เคยเล่นพีเรียดขนาดนี้ ก็อยากลอง แต่ไม่รู้เป็นผีเวอร์ชันไหน ปรากฏว่า แม่มะลิเป็นตัวสำคัญในเรื่อง เป็นบทที่ท้าทายเหมือนกัน” รู้ว่าเล่นเป็นผี ความหลอนเป็นยังไงบ้าง “ตอนแรกไม่คิดจะต้องเป็นผีขนาดนี้ ใส่คอนแทกเลนส์ ใส่เอฟเฟกต์เยอะขนาดนี้ ถ่ายๆไปมีเพิ่มเส้นเลือด ติดชิ้นเนื้อเรียกได้ว่าเต็มอยู่เหมือนกัน ยิ่งใส่คอนแทกเลนส์สีขาวด้วย ยิ่งทำให้มองอะไรไม่เห็น ช่วงแรกๆกังวลนะ เพราะในเรื่องบูมต้องจิกหัวพี่นุ่น-ศิรพันธ์ เราต้องอาศัยจินตนาการเราโกรธเขาเบอร์ไหน ต้องจินตนาการว่าเขาเล่นเบอร์ไหน เราต้องระวังเดินนั่งในฉากต้องเป๊ะมากๆ พี่นุ่นจะส่งเสียงต้องรีแอ็กด้วยกัน เรารับได้ถึงเสียงของเขา ของขึ้นเบอร์นี้ ตอนทำงานบูมเต็มที่แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายละครออกมาในรูปแบบไหนก็ตามแต่บูมรู้สึกโชคดีที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงรุ่นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นพี่นก-จริยา, นุ่น-ศิรพันธ์ พยายามดูรุ่นพี่เขาเป็นตัวอย่าง พอร่วมงานกันมันสุดยอดมาก”พอเป็นละครแนวผีสยองขวัญ แถมเลเวลความเฮี้ยนระดับ ๑๐ ขนาดนี้ ชวนสงสัยระหว่างถ่ายทำนักแสดง ทีมงานเจอเรื่องแปลกๆ กันบ้างมั้ย “บูมไม่ได้เจอ แต่วันแรกบูมแต่งผี จำได้วันนั้นต้องเข้าฉากกับพี่นุ่นจิกหัวแล้วก้มลงไปด่าใส่หน้าเค้า เป็นวันแรกที่แต่งตัวเป็นผี ปรากฏว่าวันนั้นพายุเข้า มีเศษใบไม้ปลิว ธรรมชาติเป็นใจ บรรยา กาศทำให้เราขนลุกได้และตอนนั้นก็ดึกแล้ว ฟ้ามันมืด มันน่ากลัว มันคือเรือนทาสจริงๆ ดูหลอนมากเลยแหละ เล่นละครเรื่องนี้แทบไม่ต้องส่องกระจก น่ากลัวมาก (หัวเราะ)”tt ttส่วนฉากเลิฟซีนร้อนแรงไม่แพ้กัน ถึงขั้นตกใจเพราะไม่คิดจะเร่าร้อนขนาดนี้ “บูมจะมีเลิฟซีนกับอ้วน-รังสิต ตอนที่รู้ก็ตกใจ บูมถ่ายเสร็จเดินไปถามเลยว่ามันออนแอร์ได้จริงเหรอ ตัวละครของอ้วนเขาจะมีเป็นรสนิยมของเขาแบบนี้ เป็นบทเลิฟซีนที่เยอะที่สุดเท่าที่เคยเล่นละครมา ก็เขินนะ กดดันด้วย ตัวเราไม่รู้ตัวเราจะเล่นออกมาแบบไหน พี่อ้วนเอง ตัวเขากดดันเหมือนกัน เขาเกรงใจทั้งบูมและพี่นุ่น ร่วมแสดงด้วย เขามีความเกรงใจและเราก็เกรงใจภรรยาเขาด้วย รู้แหละคืองาน ทุกคนอยากให้เทกเดียวผ่าน จริงๆ เป็นบทบาทที่บูมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นแม่มะลิ บูมรักตัวละครนี้และสงสารตัวละครนี้ อยากจะถ่ายทอดความเจ็บปวดของตัวละครนี้ออกมาให้ดีที่สุด”เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐก่อนหน้า เกริก ชิลเลอร์ ได้ดูดวงของบูมในรายการ ตรงเป๊ะมั้ย “เป็นคอนเทนต์รายการ เพราะเราก็เป็นคนชอบดูดวงให้พี่เค้าดู มีตรงเหมือนกัน บางคำพูดที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความคิด อืม ความกังวลของเรา” ที่บอกว่าบูมเป็นคนขี้หึงจริงมั้ย “บูมว่าผู้หญิงทุกคนขี้หึงแต่บูมไม่ได้เป็นคนขี้หึงแบบไร้เหตุผล บูมเป็นคนนิ่งๆมากกว่า ขึ้นอยู่ว่าคนรักของเราเป็นคนแบบไหนมากกว่า”มาอัปเดตสถานะความรักของบูมกันบ้าง ยังแฮปปี้เหมือนเดิมมั้ยเพราะหลังๆไม่เห็นพูดถึง “ยังคบอยู่ค่ะ เขาจะเป็นคนที่คอยซัพพอร์ตเราในหลายๆ เรื่อง แต่ยังไม่พัฒนาถึงขั้นแต่งงาน ความรักของบูมไปเรื่อยๆ ทำวันนี้ให้มันดีที่สุด” พอเราคบกันนานอะไรที่ทำให้เราคุยกันได้ยาวขนาดนี้ “บูมว่าในทุกๆรีเลชันชิป ไม่ว่าจะคบใคร ไม่ว่าเพื่อนหรือแฟน รู้สึกว่าเราเป็นตัวของตัวเอง เราสบายใจ ไปเรื่อยๆ เราไม่ได้คาดหวังอะไร พอเราคาดหวังอะไรจากคนรักมากๆ มันทำให้เราผิดหวัง และพอเราผิดหวังทำให้เรารักเค้าน้อยลง การผิดหวังบ่อยๆ ไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ เวลาเราคุยกับใครสักคน บูมคุยในรูปแบบเราเป็นเพื่อน พี่น้อง ไม่มีอะไรหวือหวาพิเศษอยู่แล้ว ซิมเปิลมากๆ จนเหมือนเพื่อนกันมากกว่า ถ้าวันนึงเขาเจอใครสักคนแล้วอยากไปคุย เริ่มต้นกับคนนั้นก็เชิญ เพราะเราก็โตพอที่จะเข้าใจได้ ถ้ารู้ไม่ใช่จะไปคุยกับคนอื่นก็ไป ตัวบูมเองก็ให้โอกาสตัวเองเหมือนกัน ไม่ได้ปิดกั้น การที่เราอยู่กันแบบนี้ แต่ตอนนี้เราคุยด้วยความสบายใจ เป็นตัวของตัวเอง เรารับได้ในรูปแบบที่เขาเป็น ให้เกียรติกันและกัน เคารพกันและกัน เหมือนเป็นลองเทิร์มรีเลชันชิป”tt tttt ttเมื่อถามว่าคบกันเหมือนเพื่อน วันนึงจะเปลี่ยนจากคนรักกลายเป็นเพื่อนกันบ้างมั้ย “ไม่กลัวค่ะ บูมไม่กลัวว่าการเปลี่ยนสถานะจะเป็นยังไง ทุกๆการเปลี่ยนแปลงมีสิ่งอื่นๆที่รอเราอยู่เสมอ ทุกการเปลี่ยนแปลงมีสิ่งใหม่รออยู่เสมอเพราะฉะนั้นบูมไม่กลัวหรือเสียดายกับความสัมพันธ์ที่อาจจะไม่เป็นในรูปแบบที่เราวาดฝันหรือคาดฝันไว้ตั้งแต่ตอนต้น ถ้าเราไม่คาดหวังจะไม่มีวันผิดหวัง” ณ วันนี้แต่งงานยังห่างไกลหรือใกล้ขนาดไหน “ไกลมาก คือเราเคยคิดเราอยากแต่งงานนั่นนี่โน่น แฮปปี้แฟมิลีมาจุดนึง จริงๆมันตอบโจทย์กับเราขนาดนั้นมั้ย บางทีเรามีความคิดอยากแต่งงาน จะได้จบๆ แล้วไปโฟกัสอย่างอื่น แต่จริงๆมันไม่ใช่ เราไม่ได้อยู่แค่เราคนเดียว ดังนั้น เรื่องแต่งงานจะยังไงล่ะ” ถามจริงๆทุกวันนี้ใจอยากแต่งงานแล้วหรือยัง “บูมเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากแต่งแต่ต้องดูว่าคนของเราพร้อมมั้ย เราเลยไม่คาดหวังในตัวเขาขนาดนั้น ถ้าเราไปคาดหวังอาจจะไม่ใช่ บูมว่าทุกคนมีเดดไลน์ให้กับตัวเอง ถ้าวันนึงเรารู้สึกฉันพร้อมแต่เธอไม่พร้อม เราต้องเดินหน้าในเวย์ที่เราต้องการแล้วนะ อันนั้นก็จะเป็นรีเลชันชิปแยกจากกันอยู่ดี ไม่ใช่แค่ถูกคน ต้องถูกทั้งคนและถูกเวลา บางทีอาจจะทำบุญทำกรรมมาแค่นี้ ไม่ได้เอกซ์เปกต์อะไรเลย เคยวาดฝันอยากแต่งงาน อยากมีชีวิตครอบครัว มีความสุข อยากแหละผู้ชายก็อยาก ขึ้นอยู่ว่ามันถึงเวลานั้นแล้วหรือยัง”tt ttรักครั้งนี้คบกัน ๗ ปีแล้ว หวาดกลัวอาถรรพณ์เลข ๗ อย่างที่หลายๆ คนกลัวบ้างมั้ย สาวบูมตอบอย่างไม่ลังเลใจเลยว่า “ไม่กลัวค่ะ บูมว่าเป็นอัตราเฉลี่ย ๗ ปี เป็นช่วงเวลาที่เราตกตะกอนของรีเลชันชิปแล้ว ชั่งน้ำหนักแล้วไปต่อก็ไป ถ้าไม่ไปก็แยก นึกออกมั้ย เป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงทุกๆคนต้องคิดแหละว่ายังไง ถ้าไม่ใช่เดินหน้าจะยังไง จะ ๗-๘-๙-๑๐-๑๑ ปี ถ้าไม่แต่งงานแล้วยังไง เราจะไปต่อกันใช่มั้ย ในรูปแบบไหน รักอาจจะไม่ป๊อปปี้เลิฟเหมือนเด็กๆ อาจจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น”สาวบูมยังเผยถึงเป้าหมายการใช้ชีวิตด้วยว่า “ปีนี้จริงๆอยากมีความสุขในทุกๆวันพอเราไม่สบายเป็นแพนิกเรารู้แล้วว่าบาลานซ์ชีวิตมันสำคัญมาก เราอยากจะทำงานอย่างบ้าคลั่งเหมือนเดิม มีความสุขที่ได้ทำงาน สุขภาพก็เป็นห่วงแต่อยากให้ความสุขตัวเองในรูปแบบที่ตัวเองควรได้รับบ้าง ที่สำคัญการดูแลเยียวยาครอบครัวให้เขามีความสุขในช่วงเวลาที่เขาอยู่เคียงข้างเรา ที่เราอยู่ด้วยกันเป็นอะไรที่ย้อนเวลานี้กลับมาหาความสุขแบบนี้ไม่ได้แล้ว บูมเลยอยากมีเวลาให้ตัวเราและครอบครัวมากที่สุด ถามว่าอยากรวยมั้ยอยากรวยแต่ถ้าไม่มีความสุขมันก็ทรมาน เราอยากมีความสุขด้วย มีกินมีใช้และมีเวลาให้ตัวเอง”.ช่างภาพ : สุรกิจ แก้วมรกตคลิกอ่าน “มาลัยไทยรัฐ” เพิ่มเติม
