โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ โผล่ตรวจสนามบินสุวรรณภูมิ เหตุต้องการเร่งขันนอตทุกตัว หลังคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทียบสถิติ มกราคม ปี ๖๖ และ ๖๗ นักท่องเที่ยวพุ่งมากกว่าเดิมถึง ๔๒%วันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าตรวจความพร้อมของการต้อนรับนักท่องเที่ยว ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้คาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงต้องไปขันนอตทุกตัว ขอความสนับสนุนจากทุกหน่วยงาน ให้มีความพร้อม ช่วยกันสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว และโกยรายได้ใหม่ให้กับประเทศไทยตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ตามที่รัฐบาลได้เคยประกาศเอาไว้โดยข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๗ (ทั้งเดือน จำนวน ๓๑ วัน) เพิ่มเป็น ๓,๐๓๕,๒๙๖ คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปี ๒๕๖๖ ถึง ๔๒% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวชาวจีน เพิ่มเป็น ๕๐๘,๕๖๓ คน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า ๕ เท่าของปีที่แล้ว (ปี ๒๕๖๖ เดือนมกราคม มีนักท่องเที่ยวจีนจำนวน ๙๑,๘๔๑ คน) นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ๕ อันดับแรกยังมียอดเพิ่มขึ้นยกแผง ได้แก่ จีน ๔๕๓.๗% มาเลเซีย ๑๑.๔% เกาหลีใต้ ๓๑.๓% รัสเซีย ๘.๐% และอินเดีย ๕๗.๖% ตามลำดับ ซึ่งสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนี้ สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันภาคการท่องเที่ยว ทั้งการออกมาตรการวีซ่าฟรี (Visa Free) ซึ่งเริ่มแล้วในจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการยกระดับท่าอากาศยานทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เต็มศักยภาพทุกมิติ ทั้งการรักษาความเสถียรของระบบตรวจคนเข้าเมือง การบริหารจัดการบุคลากรให้สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งในแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือร่วมกันต่อไป“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึงประเทศไทย เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ความทรงจำแสนพิเศษในการเดินทางมาไทย ซึ่งรวมทั้งต้องได้รับความปลอดภัย คุณภาพ ความเชื่อมั่น และความประทับใจ ทุกหน่วยงานจึงเป็นกำลังสำคัญที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยดูแล อำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่มีศักยภาพอันสำคัญของนักท่องเที่ยว” นายชัย กล่าว
