ร่าง พระราชบัญญัติกัญชากลับคืนสู่รัฐสภาอีกครั้ง หลังจากที่ถูกควํ่าและเงียบหายไปในช่วงรัฐบาลก่อน เนื่องจากความขัดแย้งในพรรครัฐบาลด้วยกันเอง ฝ่ายหนึ่งมองว่าเป็นกฎหมายกัญชาเสรี ที่ “กินก็ได้ ทำเป็นยาก็ได้” จะ “พี้” ความบันเทิงก็ได้ แต่ร่างใหม่ที่กลับมาถูกนักกัญชานิยมรุมโจมตีทันทีนโยบายที่เรียกกันว่า “กัญชาเสรี” เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยใช้หาเสียงในการเลือกตั้ง ๒๕๖๒ และสร้างความฮือฮา หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีสาธารณสุข เปิดฉากด้วยการออกประกาศ สธ. ลบกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ตามด้วยการเสนอร่าง พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาแม้ร่างจะผ่านความเห็นชอบในวาระแรก แต่ถูกพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจับมือกับฝ่ายค้านจนทำให้ร่างตกไป โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายที่ไม่ใช่ใช้กัญชาเพื่อเป็นยารักษาโรคเท่านั้น แต่กลายเป็น “กัญชาเสรี” สามารถปลูก จำหน่ายจ่ายแจก และสูบเพื่อสันทนาการ หรือเพื่อบันเทิงได้ร่างใหม่ก็กลับมาเป็นของอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหมอที่ผันตัวมาเป็นนักการเมือง และเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข แม้จะยังไม่ได้เผยแพร่ต่อประชาชน แต่วงการกัญชานิยมเปิดเผยว่า เป็นร่างกฎหมายที่ควบคุมกัญชาอย่างเข้มงวด ห้ามปลูก ห้ามขาย ห้ามนำเข้า ห้ามสูบแม้แต่ในบ้านสาเหตุสำคัญอาจเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา กัญชาไม่ได้เป็นยาเสพติด และไม่มีกฎหมายควบคุม จึงกลายเป็นกัญชาเสรี ทั้งในเมืองใหญ่ และในชนบท มีร้านกัญชาเกิดขึ้นมากมาย ในชนบทมีการปลูกและการสูบโดยเสรี โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น จึงมีเสียงเรียกร้องกฎหมายที่เข้มงวดแม้แต่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมาจากพรรคเพื่อไทย ก็สนับสนุนกฎหมายกัญชาที่เข้มงวด เพราะมองว่าเป็นโทษมากกว่าเป็นคุณ ทั้งๆที่พรรคเพื่อไทยถูกมองว่าอะไรๆก็ต้อง “กระตุ้นเศรษฐกิจ” แต่ไม่สนใจที่จะใช้กัญชากระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่าขณะนี้กัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลกลุ่มเครือข่ายอนาคตประเทศไทย ได้เรียกร้องรัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย ไม่ใช่ฟังฝ่ายแพทย์หรือฝ่ายที่คัดค้านฝ่ายเดียว และขอให้รัฐบาลศึกษาเปรียบเทียบระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และกัญชา อะไรจะมีคุณหรือโทษมากกว่ากัน แต่สิ่งที่ประเทศต้องการมากสุดขณะนี้ คือกฎหมายควบคุมกัญชา.