บริษัทสังเกตการณ์โลกและให้บริการข่าวกรองเชิงพื้นที่สัญชาติสหรัฐฯ แบล็กสกาย เทคโนโลยี (BlackSky Technology Inc.) ประกาศความสำเร็จก้าวเข้าสู่เฟส (Phase) ที่ 3 ซึ่งเป็นเฟสสุดท้ายของโปรแกรมสมาร์ต หรือ เทคนิคการจดจำอัตโนมัติของเครื่องจักรบนอวกาศ (Machine Automated Recognition Technique : SMART) ซึ่งเป็นโปรแกรมวิเคราะห์พื้นที่อัตโนมัติ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (machine learning operations : MLOps) เข้ามาร่วมด้วย วัตถุประสงค์หลักของสมาร์ตเฟสที่ 3 นี้คือการถ่ายโอนเทคโนโลยีต่าง ๆ ของสมาร์ตไปยังโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ
แบล็กสกาย อ้างว่าเครื่องมือ AI ที่พัฒนาภายใต้โปรแกรมสมาร์ตนี้ ในหนึ่งเดือนมันสามารถวิเคราะห์พื้นผิวโลกได้มากกว่า 20% หรือคิดเป็น 100 ล้านตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ผิวโลกทั้งหมด 510 ล้านตารางกิโลเมตร ทั้งนี้พื้นที่ผิวโลกประมาณ 70.8% หรือ 361 ตารางกิโลเมตรถูกปกคลุมด้วยมหาสมุทร ดังนั้นในหนึ่งเดือน มันจะสามารถวิเคราะห์พื้นที่ได้เกือบ 2 ใน 3 ของพื้นดินทั้งหมดบนโลก โดยบริษัทยังอ้างว่าเครื่องมือ AI ของตนได้วิเคราะห์ภาพถ่ายจากภาพถ่ายดาวเทียมในอดีตจากแหล่งข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐและเชิงพาณิชย์ในพื้นที่ที่แตกต่างกัน 120,000 แห่ง ทำให้พบการเปลี่ยนแปลงมากกว่า 2 ล้านครั้งอย่างแม่นยำ
เทคนิคการค้นหาและการค้นพบในพื้นที่กว้างเป็นหัวใจสำคัญคือโปรเจ็กต์สมาร์ต ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรข่าวกรอง เพราะพวกมันให้ภาพมุมกว้างและเป็นฐานเพื่อเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่โลก ซึ่งก็มีความสำคัญในการนำข้อมูลไปใช้ในด้านอื่น ๆ ตั้งแต่สิ่งแวดล้อม งานด้านความปลอดภัย เป็นการติดตามและทำความเข้าใจเพื่อพัฒนาโลกให้ดีขึ้น
ทั้งนี้โปรแกรมสมาร์ตนำโดยหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ชื่อ IARPA (Intelligence Advanced Research Projects Activity หรือ โครงการวิจัยปัญญาขั้นสูง) แสดงให้เห็นความทุ่มเทของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการนำ AI และแมชชีนเลิร์นนิงเข้ามาใช้ในงานที่เกี่ยวกับความมั่นคงและข่าวกรองของชาติ
ด้านแบล็กสกายเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสังเกตการณ์โลกและบริการข่าวกรองเชิงพื้นที่โดยใช้เครือข่ายดาวเทียมขนาดเล็ก ดาวเทียมเหล่านี้มีความสามารถในการถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงและได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์กิจกรรมและเหตุการณ์ต่าง ๆ บนพื้นผิวโลก
สื่อสเปซเดลี่ (Space Daily) รายงานว่าแบล็กสกายมีความก้าวหน้าอย่างมากในโปรเจ็กต์สมาร์ตรวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ชื่อสเป็กตรา (Spectra) ด้วย แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญในการนำ AI ขึ้นไปใช้งานบนอวกาศ แม้จะยังไม่มีกำหนดการณ์ปล่อยตัวขึ้นสู่อวกาศ แต่เมื่อมันเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ก็น่าจะช่วยเพิ่มความสามารถด้านการค้นหาและการใช้งานในวงกว้างในโครงการอื่น ๆ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อไป
