คดีอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน ยังมีปมสงสัยว่าพรมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แม้ตำรวจยืนยันไม่พบหลักฐานเชื่อมโยง แต่การตายของใหม่ หนุ่มโรงงาน จากฝีมือช่างกิต ชายชู้ของพร จะทำให้พร และแม่ของใหม่ ได้รับผลประโยชน์เงินประกันคนละ ๖ แสนบาท ยังไม่รวมสินสมรส และมรดกที่พรจะได้สิทธิ์ ในฐานะภรรยาจดทะเบียนสมรส และเงินสวัสดิการต่างๆ จากบริษัทของใหม่ โดยเฉพาะเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีการระบุให้พรรับไปเต็มๆด้วยเพราะพรสร้างโลกหลายใบ จึงเป็นต้นเหตุทำให้ใหม่ถูกฆ่า จนครอบครัวของใหม่รับไม่ได้ มองว่าการได้สิทธิ์ในทรัพย์สินไม่น่าจะเป็นธรรม และก่อนเกิดเหตุ ทางพรก็รู้ว่าใหม่ได้ทำประกันชีวิตเอาไว้ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๖๖ หรืออาจรู้เห็นในการเสียชีวิตของใหม่ก็ได้ จากการตั้งข้อสงสัยว่าภายหลังจากใหม่ออกจากบ้านจะไปทำงาน ทางพรได้โทรหากิ๊กโลกใบที่ ๓ ให้เข้ามาหาที่บ้าน เพื่ออ้างหลักฐานถิ่นที่อยู่ และมีการส่งรูปในแชต ขณะขับรถมอเตอร์ไซค์ออกตามหาใหม่ตอนตี ๔ เหมือนพยายามจะสร้างหลักฐานพยานไม่ให้ถูกโยงในคดีtt ttคบชู้ ประพฤติไม่ดี ยังคงได้สิทธิ์ครอบครองมรดกแล้วอีกกรณีหากพรไม่มีส่วนร่วมรู้เห็นในการฆาตกรรม แต่คบชู้ มีโลกหลายใบ จะเป็นเหตุไม่ได้สิทธิ์ในทรัพย์สิน หรือมรดกของใหม่หรือไม่? ข้อสงสัยในเรื่องนี้ “ว่าที่ พ.ต.ด็อกเตอร์สมบัติ วงศ์กำแหง” อดีตเลขาธิการสภาทนายความ ระบุว่า หลังจดทะเบียนสมรส ทางฝ่ายสามี และภรรยา ได้สิทธิ์คนละครึ่งอยู่แล้ว แต่เมื่อสามี หรือภรรยาเสียชีวิต ก็เป็นสิทธิ์ได้สินสมรสทั้งหมดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีชีวิตอยู่ ส่วนกรณีของพรจะเป็นมูลเหตุให้สามีถึงแก่ความตายหรือไม่ ก็เป็นความรู้สึกของคนทั่วไป tt ttแต่ทั้งหมดนี้ในคดีอาญาต้องดูพยานหลักฐาน ขณะที่ตำรวจยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป และยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงกับพร เพราะฉะนั้นแล้วในประเด็นทรัพย์สินที่พรจะได้สิทธิ์ จะเพิกถอนไม่ได้ตามกฎหมาย แม้มีการประพฤติผิดเนรคุณกับเจ้าของมรดก ก็ไม่ถูกตัดสิทธิ์ เป็นการได้มาในฐานะคู่สมรส และเป็นการให้โดยเสน่หา ยกเว้นมีส่วนร่วมฆ่าเจ้าของมรดก ก็อาจถูกตัดสิทธิ์ได้ หรือยกในส่วนของสามีออกได้“ความประพฤติไม่ดี หรือการคบชู้ ไม่เป็นเหตุให้ถูกตัดสิทธิ์ได้รับสินสมรส และมรดก ยกเว้นมีส่วนรู้เห็นในการฆ่า เป็นเรื่องที่ครอบครัวของผู้ตายต้องยื่นตัดสิทธิ์เฉพาะในส่วนที่เป็นมรดก อย่างกรณีสามีภรรยาเป็นหุ้นส่วนชีวิต ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็ได้สิทธิ์ในทรัพย์สินที่หามาได้ร่วมกัน หากมีการหย่าร้าง”tt ttร่วมรู้เห็นกับชายชู้ ฆ่าผัว เป็นเหตุทำให้ไม่ได้สิทธิ์แต่ก็มีคำถามอีกว่าทำไมมีการขอคีย์การ์ดเข้าหมู่บ้านให้กับชายชู้ จะเป็นพฤติเหตุโยงไปสู่การหาพยานหลักฐานอื่นๆ ว่าพรอาจมีการวางแผนล่วงหน้า ซึ่งอันนี้จะเป็นเหตุทำให้ไม่ได้สิทธิ์ ถ้ามีส่วนร่วมรู้เห็นในการก่อเหตุขณะผู้ตายถึงแก่ความตาย และหลังผู้ตายถึงแก่ความตายไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จากพฤติกรรมทั้งหมดจะกลับมาชี้ถึงเจตนาของการกระทำของคนคนนั้น ในการทำหน้าที่ของตำรวจต้องเก่งในการหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และคิดให้มากกว่าคนกระทำ หากทำแล้วไม่สะเด็ดน้ำในการจับคนผิด ก็ไม่สิ้นสงสัย จะต้องมีพยานหลักฐานที่แน่นอน หรือพรแค่คบชู้ ไม่เกี่ยวข้องในการร่วมรู้เห็นในการฆ่าสามีก็ได้ แต่อะไรจะใช่หรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ และขณะนี้สังคมได้พิพากษาพรไปก่อนแล้วว่าน่าจะใช่ ไม่ควรฟันธง หรือชี้โพรงใดๆ.tt tt
