Thursday, 19 December 2024

พบผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถูกแอบอ้างสวมสิทธิ รัฐบาลเตือนระวังการใช้กับรถเร่

รัฐบาลย้ำเตือนประชาชนผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ระวังถูกแอบอ้างสวมสิทธิ หลังพบหลายรายใช้สิทธิไม่ได้ ขอให้ระวังการใช้บัตรสวัสดิการฯ จากรถเร่ ขณะที่เดือนมกราคม ๒๕๖๗ กรมบัญชีกลาง จ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ ๔,๙๖๖ ล้านบาทวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ระวังถูกแอบอ้างสวมสิทธิ ซึ่งกรมบัญชีกลางได้รับแจ้งจากสำนักงานคลังจังหวัดต่างๆ ว่า ผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐหลายรายไม่สามารถใช้สิทธิสวัสดิการได้ เนื่องจากถูกแอบอ้างใช้สิทธิที่ร้านค้าข้ามพื้นที่ (ต่างจังหวัด) โดยผู้มีสิทธิไม่ได้เป็นผู้ใช้สิทธิดังกล่าวจากการตรวจสอบของกรมบัญชีกลาง พบว่าเกิดจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ตระเวนขายสินค้าด้วยรถเร่ในพื้นที่ต่างๆ และใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน ในการรับชำระวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า และวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม โดยหลอกให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ หรือแลกของกินของใช้ นายคารม ย้ำเตือนว่า “ประชาชนผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐให้ระมัดระวังการใช้สิทธิสวัสดิการกับร้านค้าที่กระทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบมีร้านค้าจากรถเร่มีพฤติกรรมหลอกลวง ส่งผลกระทบวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิที่ใช้สิทธิกับรถเร่ ดังนั้น เพื่อป้องกันการแอบอ้างสวมสิทธิของผู้มีสิทธิทุกคน อย่าใช้วงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐซื้อของหรือแลกของจากรถเร่ ย้ำเตือนผู้ที่สวมสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ มีโทษทั้งทางอาญาและทางแพ่ง” รองโฆษกรัฐบาล เผยต่อไปว่า ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ มกราคม ๒๕๖๗ กรมบัญชีกลางรายงานผลการจ่ายเงินสวัสดิการแห่งรัฐ รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น ๔,๙๖๖.๔๖ ล้านบาท ดังนี้ สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประจำตัวประชาชน) ประกอบด้วย ๑. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ๔,๐๑๖.๔๕ ล้านบาท ๒. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ๓๕๙.๕๔ ล้านบาท และ ๓. วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ๑๑๔.๗๖ ล้านบาท รวมจำนวนเงินสวัสดิการที่ให้เป็นวงเงิน (บัตรประชาชน) จำนวน ๔,๔๙๐.๗๕ ล้านบาท สวัสดิการที่ให้ผ่านระบบพร้อมเพย์ (บัตรประจำตัวประชาชน) ได้แก่ มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๓ จำนวนเงิน ๒๕๐.๖๑ ล้านบาท และสวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ ประกอบด้วย ๑. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า ๒๐๑.๔๔ ล้านบาท ๒. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา ๒๓.๖๖ ล้านบาท รวมจำนวนเงินสวัสดิการที่จ่ายตรงผู้ให้บริการ จำนวน ๒๒๕.๑๐ ล้านบาท.