ฟัง ๒ มุม พ่อร้องครูฝึกสอนแชตเชิงชู้สาวกับลูก ขณะที่ครูฝึกสอนปฏิเสธ อ้างเรื่องเกิดจากเข้าไปตักเตือนทำให้เด็กไม่พอใจ ล่าสุดทางวิทยาลัยเรียกตัวกลับคืน เร่งสอบข้อเท็จจริงวันที่ ๘ ก.พ. ๖๗ มีรายงานว่า จากกรณีพ่อร้องทุกข์หลังเห็นแชตครูฝึกสอนคุกคามทางเพศกับลูกสาววัย ๑๗ ปี ชักชวนให้ไปหา พูดจาหว่านล้อม จนลูกสาวซึมไม่กล้าไปโรงเรียน เมื่อพ่อมารู้ก็เกรงลูกสาวจะได้รับอันตราย จึงร้องผ่านสื่อ พ่อของผู้เสียหาย เล่าอีกว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด ขณะที่ตนนั่งอยู่ ลูกสาวได้นำโทรศัพท์มาให้ดูว่ามีครูฝึกสอนทักมา บอกว่าเสาร์-อาทิตย์นี้ว่างไหม จะให้ไปช่วยงานคุณครู จะพาไปเล่นที่ทุ่งนา จะพาไปโน่นนี่นั่น แต่คำท้ายบอกว่าให้ไปคนเดียว ไม่ให้บอกใคร ไม่ให้บอกผู้ปกครอง จึงใช้เฟซบุ๊กของลูกสาวทักกลับไปหาครูฝึกสอนแล้วถามว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงทักบอกลูกสาวตนแบบนี้ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ด็อกเตอร์ปรเมศวร์ โพธิ์คล้าย รองผอ.ฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด ได้เรียกครูฝึกสอนที่ถูกกล่าวหาเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง โดยนักศึกษาฝึกสอนแจงทั้งน้ำตา บอกว่า ตนเรียนสาขาวิชาดนตรีพื้นบ้าน ปี ๓ ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ และเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนที่เข้าไปฝึกสอน ยืนยันว่าเจตนาดี ไม่ได้คุกคามทางเพศเด็กแต่อย่างใด โดยอ้างว่า สาเหตุเริ่มบานปลายมาจาก ตนเห็นเด็กนักเรียนหญิงกับแฟนหนุ่ม (ที่เรียนที่เดียวกัน) โพสต์ขายบุหรี่ไฟฟ้าจึงเข้าไปตักเตือน แต่ไม่คิดว่าจะทำให้แฟนหนุ่มของเด็กนักเรียนหญิงไม่พอใจ ใช้เฟซบุ๊กของเด็กนักเรียนหญิงพิมพ์มาโต้ตอบกับตน ซึ่งล่าสุดเด็กหญิงยังแชตมาขอโทษ บอกว่าขอโทษแทนพ่อ ทำไปเพราะความโมโหเฉยๆ ตอนนั้นตนก็เอะใจว่า ไม่ใช่นักเรียนหญิงแน่นอน จึงแชตตอบและแสดงไปตามบท ทำให้ข้อความล่อแหลม แบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนเรื่องบานปลาย และถูกแคปข้อความบางส่วนมาเเบล็กเมล์ว่า ตนไปพูดจาคุกคามทางเพศเด็กหญิงทั้งที่ไม่จริงทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้ไปคุกคามลักษณะนี้กับนักเรียนคนไหนอย่างที่ถูกกล่าวหา และขอยืนยันว่า ตนเองขอกลับไปฝึกสอนในโรงเรียนบ้านเกิดเพื่ออยากส่งเสริมเด็กในหมู่บ้าน ด้านศิลปะ ดนตรีพื้นบ้านตามที่เรียนมาแก่เด็กรุ่นใหม่ในบ้านเกิด ตนไม่ทำอย่างนั้นในบ้านเกิดอย่างแน่นอน.
