ระทึก ไฟป่าเขามะค่า ลุกลามเข้าป่าสงวนครบุรี เสียหายแล้วกว่า ๕๐๐ ไร่ ชาวบ้านเฝ้าระวังต่อเนื่อง จนท.ต้องจัดวางกำลังตลอด ๒๔ ชม. คาดมีคนเข้าไปจุดไฟเผา ล่าสุดสถานการณ์คุณภาพอากาศในโคราช พบค่าฝุ่น PM ๒.๕ เกินค่ามาตรฐานเมื่อวันที่ ๑๒ ก.พ. ๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาสาสมัครป้องกันและควบคุมไฟป่าบ้านหนองโบสถ์ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลโคกกระชาย นำกำลังเข้าดับไฟป่าบริเวณตีนเขามะค่า ที่ยังหลงเหลืออยู่บางส่วน โดยเฉพาะตามตอ และท่อนไม้ที่ไฟยังไหม้ไม่หมด เพื่อให้แน่ใจว่าไฟจะไม่ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ภายหลังจากที่เกิดไฟป่าลุกลามไหม้เขามะค่า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี มาตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำวันที่ ๑๐ ก.พ. ๖๗ ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ป่าไปกว่า ๕๐๐ ไร่ tt ttซึ่งสถานการณ์ล่าสุดตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมไฟจนสงบลงแล้ว แต่ยังคงต้องจัดกำลังเฝ้าระวังตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากมีคนจุดไฟเพื่อหาของป่า โดยเฉพาะผักหวานที่มีอยู่เต็มเขาลูกดังกล่าว จึงฝากเตือนว่าอย่าทำ เนื่องจากเมื่อเกิดไฟป่าแล้วจะสร้างความเสียหายให้กับต้นไม้ พืช และสัตว์ต่างๆ ในป่า รวมทั้งสร้างมลพิษเพิ่มอีกด้วยขณะที่ทาง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ ๑๑ (นครราชสีมา) ได้รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุดสถานการณ์อยู่ในเกณฑ์สีส้ม ส่วนค่าฝุ่นมลพิษในอากาศ ตรวจวัดผ่านแอปพลิเคชัน Air๔Thai พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM ๒.๕ ตรวจวัดได้ ๔๐.๔ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งแม้ว่าในช่วงนี้จะได้รับอิทธิพลของมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมพื้นที่ก็ตาม แต่ค่าฝุ่น PM ๒.๕ ยังเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ไม่เกิน ๓๗.๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ ดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI ซึ่งเป็นข้อมูลคุณภาพ และสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ยังตรวจวัดได้สูงถึง ๑๐๘ AQI อยู่ในเกณฑ์สีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จึงต้องรณรงค์และจับตาป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเผาพื้นที่การเกษตร และเผาป่าอย่างเข้มข้น tt ttเพราะสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ ๑๑ (นครราชสีมา) ได้รายงานข้อมูลจุดความร้อนจากข้อมูลดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VIRS ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบจุดความร้อนมากถึง ๓๔ จุด โดยพบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์มากสุด ๘ จุด รองลงมาเป็นพื้นที่เขต ส.ป.ก. ๗ จุด, พื้นที่การเกษตร ๖ จุด และพื้นที่ป่าสงวน ๑๒ จุด ทั้ง ๓๒ อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฯ รณรงค์ประชาชนให้ตระหนักถึงผลกระทบจากการเผาพื้นที่การเกษตร และพื้นที่อื่นๆ เพื่อช่วยลดการก่อฝุ่นละออง PM ๒.๕ ให้ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพทุกพื้นที่.
