Thursday, 19 December 2024

รทสช. ไม่หวั่นถูกค้านปมญัตติอารักขาขบวนเสด็จ “สุชาติ” อัดพรรคเบื้องหลังแค่ปากดี

“สุชาติ ชมกลิ่น” ซัด พรรคที่อยู่เบื้องหลังพวกขวางขบวนเสด็จตอนพูดปากดี แต่พอเกิดเรื่องถอยกรูด ด้านโฆษก รทสช. เชื่อฝ่ายค้านไม่ทำบานปลาย ปมยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาประเด็นถวายอารักขาฯ แต่ถ้าอยากพูดนอกเรื่องต้องยื่นญัตติใหม่วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่โรงแรม อีสติน แกรนด์ พญาไท นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีขัดขวางขบวนเสด็จ ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ได้มีการเตรียมยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จพระราชดำเนินของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ให้มีความปลอดภัย เพื่อป้องปรามพฤติกรรมขัดขวางขบวนเสด็จอันก่อให้เกิดอันตราย หรือเสื่อมเสียพระเกียรติยศ ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายและแนวทางของพรรคอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจต่อพี่น้องคนไทย และตนไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลัง ความเห็นต่างมีได้แต่ต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ซึ่งคนไทยรู้อยู่ว่าเรารักสถาบันพระมหากษัตริย์ และตนก็ชัดเจนในเรื่องนี้ โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สำคัญ และตนไม่เคยออกมาพูดเลย“พรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ตอนพูดปากดี กล้า แต่เวลาเกิดเรื่องกลับ “ถอยกรูด” แล้วคุณจะไปบอกประชาชนอย่างไร คุณต้องยืนหยัดว่าวันนี้คุณเล่นการเมืองเพื่ออะไร เพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติ เพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่เล่นการเมืองเพื่อสร้างกระแสไปวันๆ คุณต้องเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ให้มากกว่านี้ ถ้าคิดจะเป็นแกนนำในอนาคต”ด้าน นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงการเสนอร่างญัตติด่วนต่อสภาฯ ทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยฯ รวมถึงแนวทางการป้องกันปราบปรามพฤติกรรม ข่มขู่ ท้าทาย ให้ร้าย สถาบันว่า ในวันพรุ่งนี้จะหารือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เลื่อนระเบียบวาระ นำญัตติด่วนดังกล่าวที่เสนอโดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นมาหารือ ก่อนจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ๒ ฉบับ โดยที่ประชุมของพรรครวมไทยสร้างชาติวันนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้หารือในที่ประชุมแล้วว่า การอภิปรายในวันพรุ่งนี้จะต้องอยู่ในกรอบ หากใครอภิปรายนอกญัตติ เช่น เรื่องสิทธิเสรีภาพ ไม่สามารถทำได้ หากจะทำก็ต้องไปยื่นญัตติใหม่ ดังนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีการเฝ้าติดตามการอภิปรายของ สส. ที่ได้แจ้งความจำนงในการอภิปรายไว้ ว่าจะต้องอยู่ในญัตติที่ยื่นไว้ โดยให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในญัตติเท่านั้น และขอให้ สส. ทุกคนอยู่ในข้อบังคับส่วนจะมีความกังวลหรือไม่ ว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นนี้มาอภิปรายจนบานปลายนั้น นายอัครเดช ยอมรับว่า เป็นห่วงเรื่องนี้ จึงได้มีการหารือกันในวันนี้ ว่าต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ และการยื่นญัตติครั้งนี้เป็นการยื่นญัตติด้วยวาจา จึงยังไม่มีใครเห็นรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นก็ต้องฟังว่า นายเอกนัฏ เจ้าของญัตติจะอภิปรายอย่างไร ซึ่งทุกคนที่ลุกขึ้นอภิปรายจะต้องอยู่ในญัตตินั้น หากใครจะพูดนอกเหนือไม่สามารถทำได้ เพราะนี่คือข้อสำคัญของการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจา และตนเชื่อว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะ สส. ทุกคนมีวุฒิภาวะอยู่แล้ว และเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันหมด