ส่องเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนใหม่ ๑๔ ก.พ. ๒๐๒๔

ชาวอินโดนีเซียเตรียมออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันพุธที่ ๑๔ ก.พ. ๒๕๖๗ ซึ่งนับเป็นการเลือกตั้งในวันเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลก- ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนประชากร ๒๗๐ ล้านคน โดยมีประชาชนอายุตั้งแต่ ๑๗ ปีขึ้นไป ซึ่งมีสิทธิ์เลือกตั้งถึง ๒๐๕ ล้านคน และคาดการณ์ว่าจะมีชาวอินโดนีเซียออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งราว ๗๕%- ตามข้อมูลของคณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติ (กกต.) ของอินโดนีเซีย แจ้งว่า มีเยาวชนคนหนุ่มสาวในอินโดนีเซีย อายุต่ำกว่า ๔๐ ปี (๑๗-๓๙ ปี) มีสิทธิ์เลือกตั้งถึง ๑๐๖ ล้านคน หรือคิดเป็น ๕๒% ของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด – นอกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่แล้ว ยังเป็นเลือกรองประธานาธิบดี ๑ คน และยังมีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๕๘๐ ที่นั่ง สส.ส่วนภูมิภาค เลือกสมาชิกสภาจังหวัด และเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่น- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด หรือมีชื่อเรียกคุ้นหูว่า ‘โจโกวี’ วัย ๖๒ ปี ไม่มีโอกาสลงชิงประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ ๓ เนื่องจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญห้ามไว้ โดยกำหนดให้ประธานาธิบดี ซึ่งดำรงตำแหน่งวาระละ ๕ ปี สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้เพียงสองสมัยติดต่อกัน เป็นเวลา ๑๐ ปีเท่านั้น หลังจากโจโกวีจากพรรคประชาธิปไตยอินโดนีเซีย-การต่อสู้ (PDI-P) ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกในปี ๒๕๕๗ จนนับเป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนแรกที่ไม่ได้มาจากชนชั้นนำทางการเมือง หรือการทหารของประเทศที่ชนะการเลือกตั้ง กันจาร์ ปราโนโว (ซ้าย),ปราโบโว ซูเบียนโต (กลาง) และอานีส บาสเวดัน ๓ ผู้สมัครตัวเต็งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่อินโดนีเซีย – ๓ ผู้สมัครตัวเต็งชิงตำแหน่ง ปธน.อินโดนีเซีย ได้แก่- ‘ปราโบโว ซูเบียนโต’ รัฐมนตรีว่าการกลาโหม อายุ ๗๒ ปี พรรคเกอรินดรา (Gerindra) เป็นบุตรเขยของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โต โดยเขาเลือก ‘ยิบราน รากาบูมิง’ วัย ๓๖ ปี บุตรชายของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด มาลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เพื่อหวังดึงคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ และคนที่ชื่นชอบประธานาธิบดีโจโก วิโดโด‘อานีส บาสเวดัน’ อดีตผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา อายุ ๕๔ ปี ผู้สมัครอิสระ และ ‘กันจาร์ ปราโนโว’ อดีตผู้ว่าการจังหวัดชวากลาง จากพรรครัฐบาล PDI-P อายุ ๕๔ ปี – ผลโพลสำรวจความนิยมจัดทำโดย Indikator ระว่างวันที่ ๒๘ ม.ค.-๔ ก.พ. พบว่า ปราโบโว ซูเบียนโต มีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ ๑ ได้คะแนนนิยม ๕๑.๘% ตามด้วยเอนนีส ได้คะแนนนิยม ๒๔.๑% และกันจาร์ ได้คะแนนนิยม ๑๙.๖%กฎเลือกตั้ง ปธน.อินโดนีเซีย ผู้สมัครที่ชนะเลือกตั้งต้องได้คะแนนมากกว่า ๕๐% ของคะแนนเสียงทั้งหมด และต้องได้คะแนนอย่างน้อย ๒๐%ในจังหวัดต่างๆ จำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของจังหวัดทั้งประเทศ ซึ่งปัจจุบันมี ๓๘ จังหวัด โดยหากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะต้องมีการเลือกตั้งรอบสอง ในวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๐๒๔ ซึ่งเป็นการชิงชัยกันระหว่างผู้สมัครที่คะแนนเสียงอันดับ ๑ และอันดับ ๒ จากการเลือกตั้งรอบแรก ที่มา :voanews