รองนายกฯ “ภูมิธรรม” แนะพวกบอกเศรษฐกิจยังไม่วิกฤติ ให้ไปเจอกับผู้ประกอบการ ไปคุยกับนักธุรกิจ ไปเดินตลาดดู ยืนยันโครงการมาช้าดีกว่าไม่มา เพราะเรื่องไหนที่เถียงไม่จบทำไปก็จะเกิดปัญหาวันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๖๗ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ ว่า เป็นการหารือเรื่องที่รัฐบาลรับฟังจากภาคส่วนต่างๆ จะนำข้อคิดเห็นต่างๆ เสนอให้ที่ประชุมใหญ่ได้รับทราบร่วมกันในทุกความเห็น จะได้มองภาพกว้างและรอบคอบขึ้น ย้ำว่าจุดยืนรัฐบาล คือ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา และเป็นความต้องการของคนส่วนใหญ่ ส่วนข้อถกเถียงว่าวิกฤติหรือไม่วิกฤติ ถ้าเถียงในทางทฤษฎีก็เถียงกันได้บนความเห็นที่แตกต่าง แต่แนะนำให้ทุกคนที่ยังไม่สบายใจ เพราะกลัวว่าจะไม่วิกฤติจริงให้ไปอยู่กับความเป็นจริง ไปเจอกับผู้ประกอบการ ไปคุยกับนักธุรกิจ ไปเดินตลาด พบกับประชาชน ว่าเขารู้สึกอย่างไร เพราะตนไปเดินตลาดมาทั่วประเทศไทยแล้ว เสียงสะท้อนว่ามีปัญหามากและได้รับความเดือดร้อน จึงอยากให้รัฐบาลทำอะไรที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องถามผู้สื่อข่าวว่าเวลาทานข้าวแพงขึ้นหรือไม่ เงินเดือนที่ได้รับเพียงพอหรือไม่กับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ถ้าคิดว่าไม่พอก็เป็นความจริงที่สามารถสะท้อนได้ ขอย้ำว่าให้ไปดูความเป็นจริง และมาดูว่าจะกระตุ้นอย่างไร ให้ช่วยกันคิดมากกว่าจะบอกตามทฤษฎีที่เรียนมา หรือทฤษฎีที่เชื่อ หรือประสบการณ์ที่ทำมาไม่เป็นแบบนั้น ถ้าอ้างแบบนี้ก็ต้องบอกว่า ๑๐ ปีที่ผ่านมาทำแบบไหน เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ต้องบอกว่าวิธีแบบเก่า นั้นผิด ถ้ายังทำแบบเดิมก็ได้แบบ ถ้าอยากเปลี่ยนหรือแก้ไขต้องคิดวิธีใหม่ผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมในวันนี้จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการออก พระราชบัญญัติกู้เงินหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องถามที่ประชุม ส่วนที่ประชุมจะเห็นอย่างไรต้องหารือกัน ถ้าตนไปพูดก่อนก็แสดงว่าสามารถจัดการได้ทุกอย่าง และทุกคนมาเป็นตราประทับ หรือนายกรัฐมนตรีจะพูดอะไรก่อนก็ไม่ใช่ ต้องรับฟังในที่ประชุมก่อน ดังนั้น ไม่ทราบเรื่องใดจะออกมาบ้าง เพราะต้องรอที่ประชุม ส่วนที่กังวลว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวล่าช้า ต้องบอกว่า มาช้าดีกว่าไม่มา เรื่องไหนที่จำเป็นแต่ยังถกเถียงกันไม่จบ ทำไปก็จะเกิดปัญหา จึงต้องทำให้ดีที่สุด ด้วยการมาพูดคุยกัน เพียงแค่เริ่มต้นทำก็เป็นการแก้ปัญหาไปแล้วครึ่งหนึ่ง อย่าไปกลัวว่าจะช้า เพราะวันนี้ก็ช้าอยู่แล้วเนื่องจากมีอุปสรรค วันนี้รัฐบาลจะฝ่าความช้าและความไม่เข้าใจ ทำความเข้าใจกับคนที่คัดค้านให้มากที่สุด เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องตัดสินใจในเรื่องนี้
