วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่องจีนกันดีกว่านะครับ จีนกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจดิ่งลึก ทั้งจากสงครามการค้า วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ การชะลอตัวของตลาดหุ้นที่ยาวนาน ล่าสุดคือ ปัญหาเงินฝืด ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดระบุว่า ปัญหาใหญ่ที่สุดของจีนในเวลานี้ก็คือ ปัญหาการขาดความเชื่อมั่น โดย นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในจีน และ นักลงทุนในประเทศจีนเองก็ขาดความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจีนอย่างรุนแรง แต่ก็เชื่อว่าจีนจะสามารถก้าวข้ามการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่นี้ไปได้ด้วยการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจจากแบบเดิมให้เป็นระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ในระยะยาวคุณคริสตาลินา กอร์เกียว กรรมการผู้จัดการ IMF ก็มองไปในทิศทางเดียวกันว่า จีนจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว หากไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างในระดับลึก การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนอาจลดลงสู่ระดับต่ำกว่า ๔% ซึ่งจะส่งผลให้จีนเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากมากขึ้นคำเตือนของ กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ แม้เธอจะเตือนประเทศจีน แต่ผมคิดว่า รัฐบาลไทย ควรจะรับฟังด้วย เพราะปัญหาของเศรษฐกิจไทยวันนี้ก็เหมือนจีน คืออยู่ในเศรษฐกิจแบบเก่า แถมยังล้าหลังกว่าจีน ถ้าไม่เร่งปฏิรูปโครงสร้างให้เป็นเศรษฐกิจแบบใหม่ การกอบกู้จีดีพีให้กลับมาเติบโตได้ ๔-๕% ก็จะเป็นเรื่องยากเมื่อต้นเดือนผมไป นครเซี่ยงไฮ้ มาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้ไปมาหลายปี ก่อนไปก็คุยกันว่าต้องแลกเงินสดไปไหม เพราะมีคนบอกว่าไปจีนไม่ต้องแลกเงินสดไปแล้ว เพราะแลกไปก็ใช้ไม่ได้ ร้านค้าในจีนไม่มีใครรับเงินสดกันแล้ว ไม่ว่าร้านข้างทาง ร้านอาหาร หรือในห้าง ต้องจ่ายผ่าน Alipay หรือ We Chat Pay หรือ QR Code ผ่านทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยการโหลดพาสปอร์ตและกรอก OTP ผ่านโทรศัพท์มือถือ ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นปัญหาของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวกันไม่กี่วันมากทีเดียว แต่เพื่อความปลอดภัยผมก็แลกเงินสดส่วนหนึ่ง และพกบัตรเครดิต Visa Union Pay ธนาคารกรุงเทพ ที่สามารถใช้จ่ายในจีนไปด้วยไปถึงก็พบความจริงว่า ร้านค้ารายย่อยทุกร้านที่ผมไปซื้อของซื้อขนม ต่างก็รับเงินสดกันทุกร้าน ตรงกันข้าม การจ่ายด้วยระบบ QR Code กลับไม่ผ่าน บัตรเครดิตยูเนี่ยนเพย์ที่ผมพกไปด้วย กลับใช้จ่ายได้สะดวกสบาย ร้านค้าใหญ่หรือโรงแรมสามารถจ่ายด้วยบัตรเครดิตทั่วไปได้ทุกชนิด ไม่ได้เป็นอย่างที่บอกเล่ากันตั้งแต่ก่อนไป แม้กระทั่งเงินทอน ๑ หยวน ๕ หยวน ๑๐ หยวน ร้านค้ามีเงินทอนหมด ร้านค้าในตลาดก็รับเงินสด การซื้อขายก็สะดวกสบาย แฮปปี้ทั้งคนซื้อและคนขาย Cash is King ยังเป็นความจริงไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปแค่ไหนก็ตามเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖ ธนาคารกลางจีน อนุญาตให้ อาลีเพย์ วีแชตเพย์ เปิดบริการ ให้ชาวต่างชาติจ่ายผ่านบัตรเครดิตบัตรเดบิตของวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดได้ รวมทั้งผู้ให้บริการข้ามชาติรายใหญ่อื่นๆ ข้อจำกัดการชำระเงินของจีน ทำให้นักท่องเที่ยวยุโรปและสหรัฐฯไม่ไปเที่ยวจีน เพราะกังวลข้อมูลส่วนตัวที่ถูกดาวน์โหลดเข้าไปในแอปจีน และเดือนมกราคม ๒๕๖๗ ธนาคารกลางจีน ออกมาให้คำมั่นว่า จะผ่อนคลายช่องทางการชำระเงินให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ขยายการรับบัตรเครดิตต่างประเทศมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีรายละเอียดระบบการชำระเงินผ่าน อาลีเพย์ วีแชตเพย์ ของจีน ไม่เพียงเป็นอุปสรรคต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาต่อผู้สูงอายุในจีนด้วย ข้อมูลจากแบงก์ชาติจีนระบุว่า ปัจจุบันมีผู้สูงอายุจีนกว่า ๗๕% ที่ยังใช้เงินสด และ คนกลุ่มนี้ในชนบทมีสัดส่วนใช้เงินสดสูงถึง ๘๐.๔% เนื่องจากความยุ่งยากในการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือและการเข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันจีนมีประชากรสูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไปมากกว่า ๒๐๐ ล้านคน แสดงว่ายังมีคนจีนเกือบ ๒๐๐ ล้านคน ที่ยังใช้เงินสดอยู่ ใครที่จะไปเที่ยวเมืองจีน อย่าลืมแลกเงินสดติดตัวไปด้วยนะครับ สะดวกสบายแน่นอน ไม่พกเงินสดไปลำบากแน่นอน.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม