Thursday, 19 December 2024

๘๐ วัน คนลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ๑๔๓,๙๓๙ ราย มูลหนี้รวม ๑๐,๒๖๑ ล้าน

ผ่าน ๘๐ วัน ประชาชนลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ ๑๔๓,๙๓๙ ราย เจ้าหนี้ ๑๑๔,๓๔๔ ราย มูลหนี้รวม ๑๐,๒๖๑ ล้าน ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๔,๙๔๗ ราย ดำเนินคดีไปแล้ว ๒๗๗ คดี ใน ๓๕ จังหวัด ย้ำ อีก ๑๑ วันปิดรับลงทะเบียน วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงผลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ วันที่ ๘๐ (นับตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๖) โดยเมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น.ที่ผ่านมา สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง รายงานผลการลงทะเบียน พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้ว ๑๔๓,๙๓๙ ราย มูลหนี้รวม ๑๐,๒๖๑.๓๖๒ ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ ๑๒๐,๒๔๕ ราย และการลงทะเบียน ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ ๒๓,๖๙๔ ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ ๑๑๔,๓๔๔ รายพื้นที่/จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๕ ลำดับแรก ๑. กรุงเทพมหานคร ยังคงมีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด ๑๑,๑๖๙ ราย เจ้าหนี้ ๘,๒๗๘ ราย มูลหนี้ ๙๑๑.๐๔๒ ล้านบาท๒. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผู้ลงทะเบียน ๕,๘๐๙ ราย เจ้าหนี้ ๕,๔๗๕ ราย มูลหนี้ ๓๙๘.๑๒๔ ล้านบาท๓. จังหวัดสงขลา มีผู้ลงทะเบียน ๕,๓๑๒ ราย เจ้าหนี้ ๔,๒๘๙ ราย มูลหนี้ ๓๔๙.๔๓๗ ล้านบาท๔. จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ลงทะเบียน ๔,๙๘๑ ราย เจ้าหนี้ ๔,๐๗๕ ราย มูลหนี้ ๔๓๑.๒๑๒ ล้านบาท๕. จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ลงทะเบียน ๓,๙๑๒ ราย เจ้าหนี้ ๒,๘๓๖ ราย มูลหนี้ ๓๖๑.๕๐๗ ล้านบาท ขณะที่จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุด ๕ ลำดับแรก๑. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน ๒๓๘ ราย เจ้าหนี้ ๒๓๙ ราย มูลหนี้ ๑๔.๒๔๓ ล้านบาท๒. จังหวัดระนอง มีผู้ลงทะเบียน ๓๓๙ ราย เจ้าหนี้ ๒๖๑ ราย มูลหนี้ ๒๓.๗๑๘ ล้านบาท๓. จังหวัดสมุทรสงคราม มีผู้ลงทะเบียน ๓๘๐ ราย เจ้าหนี้ ๒๙๘ ราย มูลหนี้ ๑๔.๙๖๙ ล้านบาท๔. จังหวัดตราด มีผู้ลงทะเบียน ๔๖๐ ราย เจ้าหนี้ ๓๓๗ ราย มูลหนี้ ๒๐.๑๕๕ ล้านบาท๕. จังหวัดสิงห์บุรี มีผู้ลงทะเบียน ๔๖๔ ราย เจ้าหนี้ ๓๗๒ ราย มูลหนี้ ๒๕.๖๘๑ ล้านบาท ข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่า มีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว ๒๔,๑๘๔ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๑๔,๙๔๗ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนการไกล่เกลี่ย ๒,๒๒๒.๔๐๗ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๑,๕๐๐.๖๒๔ ล้านบาท มูลหนี้ลดลง ๗๒๑.๗๘๓ ล้านบาท ทางด้านจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดยังคงเป็นจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ๓,๒๖๙ ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ ๔๑๙ ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย ๒๗๖.๔๘๔ ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย ๔๔.๑๒๙ ล้านบาท ทำให้มูลหนี้ของพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครสวรรค์ลดลง ๒๓๒.๓๕๔ ล้านบาท “สำหรับกรณีที่ไม่ได้รับความร่วมมือกระทั่งไม่สามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยได้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดีไปแล้ว ๒๗๗ คดี ใน ๓๕ จังหวัด”นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างเต็มที่ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีความมุ่งมั่นในการที่จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะกับคนที่เป็นหนี้นอกระบบ เพราะต้องชำระดอกเบี้ยสูงมาก และเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังมีกระบวนการวิธีการทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรงโหดร้ายทารุณ ในส่วนของการนำเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ปัจจุบันมีประชาชนที่มาลงทะเบียนหนี้นอกระบบบางส่วนที่ไม่สามารถให้ข้อมูลของเจ้าหนี้นอกระบบได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้การติดตามเพื่อเชิญมาไกล่เกลี่ยหนี้ได้ยาก เราพบว่าเป็นข้อมูลของเจ้าหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบมืออาชีพ มีลูกน้องที่เรียกว่าแก๊งหมวกกันน็อกไปปล่อยเงินกู้ตามตลาด ตามชุมชน ทำให้ชาวบ้านทราบเฉพาะเพียงชื่อเล่นของเจ้าหนี้ ซึ่งใช้วิธีการทวงหนี้แบบเดินเก็บตามตลาดหรือในที่ที่ลูกหนี้ทำมาหากินอยู่ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย จะได้ส่งข้อมูลรายละเอียดของเจ้าหนี้นอกระบบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาทางจับกุมต่อไป โดยเฉพาะข้อมูลรายละเอียด อาทิ รายชื่อ และสถานที่ที่คนกลุ่มนี้ไปปล่อยกู้ ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการปล่อยกู้ และเก็บดอกเบี้ยที่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด รวมถึงได้ส่งข้อมูลการทวงหนี้แบบใช้ความรุนแรงหรือข่มขู่คุกคาม ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไป ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังได้เน้นย้ำให้ทุกอำเภอดำเนินการจัดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้ อย่างน้อยเดือนละ ๔ ครั้ง เพิ่มเติมจากตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัด ที่จัดเดือนละ ๑ ครั้ง โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการเงิน เป็นเหมือน One Stop Service ในการแก้หนี้นอกระบบแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว ซึ่งประชาชนที่มาลงทะเบียนและร่วมกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้ ภาครัฐจะได้ทำการให้การช่วยเหลืออย่างถูกต้อง ครบถ้วน และรวดเร็ว จากการดำเนินการที่ผ่านมามีผลตอบรับที่ดีและสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนได้จริง รวมถึงประชาชนที่ไม่ได้เป็นหนี้นอกระบบก็สามารถมารับคำปรึกษาจากสถาบันการเงินได้ อาทิ การปรึกษาเรื่องสินเชื่อเพื่อการลงทุน การประกอบอาชีพ นับเป็นการแก้ไขหนี้นอกระบบในเชิงป้องกันอีกทางหนึ่ง ด้วยแนวทางเพิ่มรายได้ขยายโอกาส ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบสัมมาอาชีพที่มีรายได้ที่ดีอย่างยั่งยืน ไม่ต้องไปเป็นหนี้นอกระบบ ตลอดจนถึงเรื่องกระบวนการไกล่เกลี่ย เราดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะครบทุกกรณี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน“ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก ๑๑ วันที่พี่น้องประชาชนยังคงสามารถลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเราจะรับลงทะเบียนถึงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ทั้งการเดินทางไปขอคำปรึกษา และลงทะเบียน ณ ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด (ห้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด) ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง (ห้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ) สำนักงานเขตทั้ง ๕๐ เขตของกรุงเทพมหานคร ตลอดจนพื้นที่การจัดมหกรรมตลาดนัดแก้หนี้ระดับจังหวัด และตลาดนัดแก้หนี้อำเภอ หรือสามารถลงทะเบียนทางระบบออนไลน์ (คลิกลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ) โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร.๑๕๖๗ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง”.