Thursday, 19 December 2024

เฉลยคำตอบสุดท้ายดิจิทัลวอลเล็ตไปต่อหรือพอแค่นี้ : เดิมพันอนาคตการเมือง

ดิจิทัล วอลเล็ต รัฐบาลตั้งใจ และจริงใจทำให้สำเร็จ อาจชะลอไปบ้างก็ต้องขอประทานอภัยต่อประชาชนเป็นคำยืนยันจากใจของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการคลัง หนึ่งในกรรมการนโยบายเติมเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต (บอร์ดดิจิทัล) หลังจากประชุมบอร์ดชุดนี้จบท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่คุกรุ่น มีประเด็นล่อแหลมอ่อนไหว และยังมีกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษ มีผลตั้งแต่เวลา ๐๐.๐๐ น. วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์นี้ ทักษิณ ชินวัตรเมื่อนายทักษิณออกมา อาจมีการขอปรึกษาหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นายจุลพันธ์ บอกว่า หารือได้ แต่คงไม่มีโอกาสได้พบในช่วงนี้ เมื่อท่านออกมาก็ต้องแสดงความยินดีมีโอกาสอาจไปกราบสวัสดี เพราะท่านเป็นบุคคลที่สำคัญ เป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของพวกผมจริงๆ แต่ไม่รู้มีโอกาสได้พบหรือไม่สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โครงการนี้ยังคงเดินหน้าต่อ รูปแบบอาจปรับเปลี่ยนอย่างไร คงตอบไม่ได้ อย่างน้อยขอให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และรัฐบาลยังเดินหน้ามาตรการอื่นๆ แก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ล้วนมีความคืบหน้าทั้งหมดแม้ผลการประชุมบอร์ดดิจิทัลนัดล่าสุด อาจมีการเข้าใจผิดพลาดกรณี ๓๐ วัน ขอชี้ให้เห็นภาพว่าที่ประชุมหลังได้รับทราบหนังสือของคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีมติเห็นชอบ ๓ ส่วนตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง (Fact Finding) เพื่อตอบคำถามกับกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ทั้งภาพรวมเหตุการณ์ สภาพเศรษฐกิจ ความจำเป็น ความเหมาะสม ควรดำเนินการในกรอบใด จำนวนคนที่เข้าโครงการดิจิทัล วอลเล็ตมากน้อยแค่ไหน กระตุ้นเศรษฐกิจจริงหรือไม่ ซึ่งจะไปค้นหาข้อเท็จจริงกลับมานำเสนอต่อบอร์ดดิจิทัล ที่อยู่ในกรอบประมาณ ๓๐ วันตั้งคณะทำงานศึกษาระบบแบงกิ้ง และระบบอื่นที่มีอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ตัวระบบสามารถครอบคลุมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญมีความโปร่งใส ได้มอบหมายให้ดีอีเอส (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) ไป นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการดีอีเอส และบอร์ดดิจิทัล เสนอว่ามีสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือดีจีเอ จึงมอบหมายให้ดีอีเอส และดีจีเอไปทำและตั้งคณะทำงานติดตามใช้เม็ดเงินผิดประเภท ซึ่งได้ตั้งทรงไว้นานแล้วว่าจะมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ได้ขึ้นโครงองค์ประกอบเรียบร้อย มีรอง ผบ.ตำรวจหรือ ผช.ผบ.ตร. เป็นประธาน ในรูปคณะกรรมการตำรวจเต็ม อาทิ ตำรวจไซเบอร์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประเสริฐ จันทรรวงทอง“ข้อเสนอของกฤษฎีกา และ ป.ป.ช. ใช้เวลามากที่สุดในช่วงท้าย เปิดถกแถลงอย่างกว้างขวาง นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ได้เปิดให้ที่ประชุมนำเสนอถึงประเด็นที่ยังห่วงใย และประเด็นที่เป็นประโยชน์ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดีอีเอส แบงก์ชาติ สภาพัฒน์ สำนักงบประมาณฯ สตช.นำเสนอในประเด็นต่างๆเช่น ภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ทุกคนยืนยันตรงกันว่าเศรษฐกิจแย่ กำลังซื้อหดหาย การติดตรวจสอบการใช้เงินผิดประเภท ซึ่งหลายส่วนยืนยันด้วยเทคโนโลยีป้องกันได้แบงก์ชาติก็เห็นด้วยที่ตั้งคณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะเป็นห่วงหากตรวจสอบแล้วไม่ตรงกัน จะทำอย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของบอร์ดดิจิทัลจะตัดสิน”ขณะเดียวกันนายกฯ ได้บอกถึงเหตุและผลที่เหมาะสม ที่บอร์ดดิจิทัลทุกคนมีสิทธิ์ เอาเอกสารไปศึกษาดูในรายละเอียด ผู้ว่าการแบงก์ชาติ (นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) ก็อยากขอไปดู จึงขอให้ฝ่ายเลขาฯ เตรียมรายงานคำตอบของกฤษฎีกา ส่งให้บอร์ดดิจิทัลที่มีความประสงค์ในส่วนของ ป.ป.ช. ตามกระบวนการเอกสาร ยังไม่เข้า ครม. กลายเป็นว่ายังไม่มีหนังสือส่งมาที่บอร์ดดิจิทัล แต่เป็นเอกสารเนื้อหาจริงไม่เป็นทางการ ซึ่งต้องรอเข้า ครม. ก่อนแทงเรื่องลงมาทีมการเมือง ถามว่าดิจิทัล วอลเล็ตเหมือนนับหนึ่งใหม่หรือไม่ เพราะคณะทำงานศึกษาข้อมูลเรื่องนี้ของ ป.ป.ช.มีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านตรวจสอบ ด้านกฎหมาย ด้านเศรษฐกิจ เข้าร่วมให้ข้อมูลอยู่แล้ว อาทิ อัยการสูงสุดหรือตัวแทน เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาหรือตัวแทน ผู้ว่าการแบงก์ชาติหรือตัวแทนประธานสภาอุตสาหกรรมหรือผู้แทน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยหรือตัวแทน คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ฉะนั้นทำไมต้องศึกษาอีกครั้งหรือภาวการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนไปนายจุลพันธ์ บอกว่า ไม่ใช่นับหนึ่ง แต่การตั้งคณะทำงานขึ้นมาทั้ง ๓ ชุด ทางบอร์ดดิจิทัลมีความพร้อมรับฟัง เศรษฐา ทวีสินเช่นเดียวกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปเยอะ เศรษฐกิจวันนี้ไดนามิก ไม่สามารถดูวันใดวันหนึ่งได้ ตัวเลขที่นำเสนอต่อที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลกับตัวเลขจาก ป.ป.ช.ที่นำส่งมา ก็ต่างกันกลไกดิจิทัลยังจำเป็น ต้องผลักดันให้สำเร็จป.ป.ช.เสนอแนะให้จ่ายใน “รูปเงินบาท” ปกติ นายจุลพันธ์ บอกว่า ตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา ๓๒ ให้เสนอแนะนโยบายกับ คณะรัฐมนตรีได้ในประเด็นเกี่ยวกับทุจริต กลับมีข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายมาด้วย ก็แปลกไปนิดข้อเสนอแนะนี้พออ่านกลับไปกลับมา เหมือนให้กลับไปใช้บัตรสวัสดิการคนจน ที่เป็นกลไกในอดีต กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ เราไม่ได้ทำการสงเคราะห์ แต่เป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปเงินบาทผ่านดิจิทัลภายใต้คอนเซปต์กระตุ้นเศรษฐกิจ-สร้างรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลก่อนครบ ๓๐ วัน นับจากประชุมบอร์ดดิจิทัล ๑๖ ก.พ. จะมีความชัดเจนทั้งหมดทั้งกลุ่มเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ จำนวนงบประมาณที่ต้องกู้ มาตรการป้องกันทุจริต นายจุลพันธ์ บอกว่า “น่าจะ”ผมตอบล่วงหน้าก่อนบอร์ดดิจิทัลมีมติไม่ได้ แน่นอนต้องพูดคุย เปิดให้ถกแถลงในที่ประชุมอย่างครบถ้วน ตอนนี้พูดได้เท่าที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน วางแผนเดินหน้า พระราชบัญญัติกู้เงิน ๕ แสนล้านบาท จนกว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งตอบไม่ได้ ต้องรอที่ประชุมนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ไม่ตรงปก เสนอต่อ กกต.อย่างแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาอย่าง และกำลังปฏิบัติอีกอย่าง ภายในพรรคเพื่อไทยเตรียมรับมือประเด็นนี้อย่างไร เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเลือกตั้ง สส. นายจุลพันธ์ บอกว่า ประเด็นนี้ไม่มีการพูดถึง ไม่มีประเด็นห่วงใยใดๆ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิในอดีตกลไกเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่มีใครเขียนนโยบายเป๊ะๆๆ เรานำเสนอถึงตามภาวะเศรษฐกิจ และความเหมาะสมที่เกิดขึ้น เพราะรู้ถึงเหตุการณ์จริงมีความผันแปรได้ บางครั้งอาจอยู่นอกเหนือการควบคุมไม่ได้ตรงตามที่หาเสียง ๑๐๐% ต้องทำให้ลงตัว เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และความสำเร็จของนโยบายโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่ยึดมั่นในนโยบายเป็นหลัก เมื่อนำเสนอต่อที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาล กลไกนโยบายต้องมีการปรับเปลี่ยน ไม่ได้เป็นนโยบายของพรรค การเมืองอีกต่อไป แต่เป็นนโยบายของรัฐบาลแม้มีคนไปร้องต่อ กกต.ก็ไม่เป็นอะไร เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ต้องมีคนร้องอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ดีจะได้ตรวจสอบกันอย่างละเอียดพรรคเพื่อไทยขึ้นชื่อว่ามีฝีมือกอบกู้เศรษฐกิจได้ ตามสโลแกนคิดใหญ่ ทำเป็น ถึงวันนี้โลกใบนี้มีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลกผันผวน แต่ถูกสังคมเริ่มตั้งคำถามถึงรัฐบาลเพื่อไทยว่ากำลังสิ้นมนต์ขลังแก้ปัญหาเศรษฐกิจ นายจุลพันธ์ บอกว่า รัฐบาลยังมีความเชื่อมั่นอยู่นโยบายทั้งหมดมีเป็นจำนวนมาก เพิ่งทำงานไม่ถึงครึ่งปี บางเรื่องอาจยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขให้ครบถ้วนและเสร็จเรียบร้อย แต่ต้องเดินหน้าต่อไปเช่น นโยบายดิจิทัล วอลเล็ต เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญ เป็นเครื่องมือเตรียมความพร้อมให้คนไทย และเป็นกลไกสร้างความเข้มแข็ง เป็นฐานให้กับนโยบายอื่นๆ ที่กำลังตามมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเชื่อมั่นรัฐบาลเพื่อไทยไม่สิ้นมนต์ขลัง ยังมีเวลาทำ.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม