ไมเคิล โมห์น แต่งงานกับสาวสวยเดนีชมีบุตร ๔ คนคือ ๑.ไมเคิล จูเนียร์ ๒.สเตฟานี ๓.แซคเคอรี และ ๔.จัสติน ทั้งหมดอยู่บ้านในเมืองมิดเดิลทาวน์ ทาวน์ชิป เทศบาลมณฑลดอฟิน รัฐเพนซิลเวเนีย ไม่ไกลจากสถานที่ฝึกอบรมกองกำลังป้องกันชาติพวกอเมริกันขวาจัดที่คลั่งทรัมป์ผู้ที่คาดหวังจะได้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันไปสมัครประธานาธิบดีออกอาละวาดหนัก พวกนี้เกลียดไบเดน เพราะไบเดนเอาใจอเมริกันผิวสีและฮิสแปนิก โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสป้องกันไม่ให้พวกเม็กซิกันลักลอบเข้าเมือง แต่ไบเดนยอมปล่อยให้เข้ามา สร้างความขุ่นเคืองแค้นใจให้กับพวกอเมริกันผิวขาวฝ่ายขวาเป็นอย่างมากหนึ่งในบรรดาอเมริกันผิวขาวฝ่ายขวาคือจัสติน โมห์น อายุ ๓๒ ปี ลูกชายคนสุดท้องของนายไมเคิลและนางเดนีซ จัสตินสนับสนุนผู้ว่าการรัฐเท็กซัสและอีก ๒๕ รัฐที่ต่อต้านการยอมให้ผู้อพยพเข้ามาในประเทศ จัสตินไม่ชอบรัฐบาลกลางของไบเดน และมีความเห็นแบบทฤษฎีสมคบคิดของขบวนการ QAnon ซึ่งเป็นแนวคิดขวาจัดที่สนับสนุนนโยบายก้าวร้าวและเชื่อในหลักการที่ผู้ชายเป็นใหญ่ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ รวมทั้งรังเกียจผู้คนอพยพจากประเทศยากจนจัสตินสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย เคยทำงานที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐโคโลราโด หลังจากที่มีแนวคิด ทางการเมืองสุดโต่งก็มีพฤติกรรมก้าวร้าว เคยเตะประตูสำนักงานจนถูกไล่ออกจากงาน และต้องกลับมาอาศัยบ้านพ่อแม่อยู่ตั้งแต่ ค.ศ.๒๐๑๗หลังกลับมาอยู่กับพ่อแม่ ความคิดเรื่องผู้อพยพจากประเทศยากจนมาแย่งงานคนผิวขาวทำก็พลุ่งพล่านในสมอง ทำให้จัสตินยิ่งบูชาทรัมป์และทวีความเกลียดไบเดนมากขึ้น ความผิดหวังทั้งเรื่องงาน ชีวิตส่วนตัว และสังคม ทำให้จัสตินหันหน้าเข้าหาศาสนาอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู และหลงผิดถึงขนาดอ้างว่าตัวเองเป็นพระเมสไซอาห์พระองค์ที่ ๒ ตามความเชื่อทางศาสนาคริสต์จัสตินแต่งเพลงเกี่ยวกับชีวิตการต่อสู้ของผู้ชายผิวขาวที่อยู่ในสังคมที่ผู้คนเอาแต่ยกย่องผู้หญิง เนื้อหาบางท่อนในเพลงของจัสตินเป็นเรื่องของ “นี่คือโลกของผู้หญิง” “ให้โอกาสและพลังอำนาจกับพวกสาวๆ เหยียบย่ำผู้ชาย” และ “ฆ่าไก่ตัวผู้และสรรเสริญแม่ไก่” จัสตินออกยูทูบด่าคนอพยพ คนผิวดำ กลุ่ม LGBTQ ด่าไบเดนว่าทรยศต่อชาติ ด่าว่าแอบส่งทหารไปรบป้องกันอูเครน และให้ทหารอเมริกันไปตายที่รัสเซีย และโจมตีรัฐบาลไบเดนเรื่องภาษีนักจิตวิทยาสรุปว่า จัสตินถูกล้างสมองจากคำข่าวและคำ ปราศรัยของฝ่ายขวา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่อยู่ในกองกำลังป้องกันชาติ (มีหลักฐานคุยโทรศัพท์กับคนในกองกำลังนี้)๑๔.๓๐ น. อังคาร ๓๐ มกราคม ๒๐๒๔ คุณแม่เดนีซออกไปทำธุระข้างนอก ปล่อยให้จัสตินลูกชายคนสุดท้องอยู่กับพ่อเพียง ๒ คน ลูกชายได้โอกาสก็ใช้มีดจ้วงพ่อ จากนั้นก็ใช้หั่นหัวพ่อจนหลุดออกมาจากร่าง แล้วนำไปใส่ถุง ยกขึ้นโชว์ทางช่องยูทูบของตัวเอง ในระหว่างที่โชว์หัวพ่อ จัสตินก็ด่าพ่อเรื่องการรับใช้รัฐบาลกลาง ด่าประธานาธิบดีไบเดน “พ่อผมได้ไปอยู่ในนรกตลอดกาลแล้ว เพราะพ่อทรยศต่อประเทศตนเอง” วิดีโอ ๑๔ นาทีของจัสตินโพสต์อยู่ในยูทูบประมาณ ๗ ชั่วโมง ก่อนที่จะถูกถอดออกจากแพลตฟอร์มหั่นหัวพ่อโชว์ทางยูทูบเสร็จแล้ว จัสตินก็ขับรถออกจากบ้านไปที่กองกำลังป้องกันชาติ กรมกิจการทหารและทหารผ่านศึก จอดรถเสร็จก็กระโดดข้ามรั้วเข้าไปด้านในของห้องฝึกอบรม หลังจากนั้น ตำรวจก็เข้าไปจับกุมการปลุกปั่นทางการเมืองในอดีตเป็นปลุกปั้นกันแค่ ‘บางเวลา’ ทางหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ หรือตามเวทีปราศรัย หาเสียง แต่สมัยนี้ปลุกปั่นกัน ‘ตลอดเวลา’ ทางโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้เกิดความเห็นผิดเป็นชอบ ทำให้เกลียดประเทศหรือรัฐบาลของตัวเอง เกลียดผู้ปกครอง และมีการกระทำที่รุนแรงตามมา สังหารได้แม้แต่พ่อบังเกิดเกล้า.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok๑๙๙๗@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม
