ครูปรีชา เปิดประเด็นใหม่ หลักฐานสำคัญหาย เหตุทำแพ้คดีหวย ๓๐ ล้าน ทั้ง ๓ ศาล ร้องขอความเป็นธรรม หน.ศูนย์ประสานงานภาคประชาชน จ.ปทุมธานี เผยแจ้งความดำเนินคดี พงส.สภ.เมืองกาญจนบุรี คนทำหลักฐานหาย ผิดมาตรา ๑๕๗ แล้ววันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๖๗ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา คู่คดีหวย ๓๐ ล้าน หอบหลักฐานเดินทางเข้าปรึกษา และขอความเป็นธรรมกับ นายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชนจังหวัดปทุมธานี กรณีเหตุหลักฐานสำคัญที่จะยืนยันได้ว่าครูปรีชา เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ ๒ ชิ้น ได้หายไปจากพนักงานสอบสวนใขณะนั้น อยากให้ช่วยติดตามกรณีดังกล่าว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ครูปรีชา เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนแพ้คดีหมวดจรูญ มาทั้ง ๓ ศาล จึงได้มานั่งอ่านสำนวนอย่างละเอียด พบว่ามีหลักฐานสำคัญหายไป ๒ ชิ้น คือ กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนได้แจ้งว่าส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี (ขณะนั้น ยศ ร.ต.ท.) แต่ทาง พงส. แจ้งว่า ไม่ได้รับกล้องวงจรปิดมาจากฝ่ายสืบสวน และอีก ๑ หลักฐานสำคัญที่หายไป คือ ซองพลาสติกที่ใส่ลอตเตอรี่ ซึ่งมีลายนิ้วมือติดอยู่ ทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ได้หายไปจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน และ พงส.ได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว จนมองว่าเป็นเหตุหนึ่งที่หลักฐานสำคัญหายไปเมื่อขึ้นสู่ชั้นไต่สวน พิจารณาของศาล เพราะตนอ่านสำนวนไม่ละเอียดเอง จนกลับมาอ่านใหม่ทั้งหมด จึงรู้ว่าพลาดแล้ว และเมื่อวันที่ ๓๑ ม.ค. ๖๖ ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี (ในขณะนั้น) ในข้อกล่าวหามาตรา ๑๕๗ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไว้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรีครูปรีชา กล่าวอีกว่า ตรงนี้ไม่ใช่ตนไม่เคารพในการตัดสินของศาล ตนเคารพที่ศาลตัดสินให้ตนแพ้ ก็ถูกแล้ว เพราะไม่มีหลักฐานอะไรบ่งชี้ได้ว่า ตนเป็นเจ้าของหวยดังกล่าว แต่ตอนนี้ตนมาพบว่า หลักฐานสำคัญถึง ๒ ชิ้นที่อาจพลิกคดีได้ มันหายไปจากชั้นพนักงานสอบสวน วันนี้จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมกันต่อไป. ด้าน นายศรรัก มาลัยทอง หัวหน้าศูนย์ประสานงานภาคประชาชนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่าจะดำเนินการติดตามกับเจ้าหน้าที่ว่าสำนวนที่ครูปรีชาร้องมาว่าไม่ได้อยู่ในสำนวนที่หายไปเช่นกล่องวงจรปิด และ DNA ของกระบวนการยุติธรรมเพื่อหาความเป็นธรรมให้กับครูปรีชาที่ได้มาร้องกับเราว่าสำนวนต่างๆ นั้นหายไปได้อย่างไรและทำไม่ถึงไม่หยิบยกขึ้นมาอยู่ในสำนวนเพราะสาเหตุอะไร
